เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2559 กระทรวงการคลังได้จัดพิธีแถลงข่าวรับความช่วยเหลือระหว่างรัฐบาลไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย และสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยสำหรับความช่วยเหลือแบบให้เปล่าโครงการ Community-Based Flood Risk Management and Disaster Response in the Chao Phraya Basin และความช่วยเหลือทางวิชาการโครงการ Strengthening Specialized and Semi-formal Financial Institutions to Support Financial Inclusion โดยกระทรวงการคลังได้ลงนามรับความช่วยเหลือแบบให้เปล่าและความช่วยเหลือทางวิชาการแล้วเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2559 วงเงินทั้งสิ้น 3,500,000 เหรียญสหรัฐ ซึ่งทั้ง 2 โครงการได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุน Japan for Poverty Reduction ของรัฐบาลญี่ปุ่น โดยมี ADB เป็นผู้บริหารกองทุน มีรายละเอียด ดังนี้
1. ความช่วยเหลือแบบให้เปล่า (Grant Assistance) โครงการ Community-Based Flood Risk Management and Disaster Response in the Chao Phraya Basin วงเงิน 2,000,000 เหรียญสหรัฐ โดยมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยงานบริหารโครงการ โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านอุทกภัยในพื้นที่ชุมชน และส่งเสริมการป้องกันการเกิดอุทกภัยซึ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็กในชุมชนนำร่อง 5 พื้นที่ โดยจะมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่เพื่อกำหนดความเสี่ยง แผนปฏิบัติการ รวมถึงการวิเคราะห์รูปแบบความเสี่ยงและความรุนแรงที่เกิดจากอุทกภัย และจัดทำมาตรการลดความเสี่ยงของชุมชน
2. ความช่วยเหลือทางวิชาการ (Technical Assistance) โครงการ Strengthening Specialized and Semi-formal Financial Institutions to Support Financial Inclusion วงเงิน 1,500,000 เหรียญสหรัฐ โดยมีสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นหน่วยงานบริหารโครงการ โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) ของภาคครัวเรือนที่มีรายได้น้อย โดยโครงการดังกล่าวครอบคลุมการจัดทำยุทธศาสตร์การดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (Specialized Financial Institutions: SFIs) การจัดตั้งธุรกิจประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัย การกำหนดหลักเกณฑ์และการกำกับดูแลสหกรณ์ รวมทั้งการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือการเข้าถึงบริการทางการเงิน
อนึ่ง ตั้งแต่ปี 2511 จนถึงปัจจุบัน ADB ได้ให้การสนับสนุนแก่ประเทศไทยในรูปแบบเงินกู้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่า และความช่วยเหลือทางวิชาการแล้วจำนวน 273 โครงการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 6,537.62 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลัก อาทิ สาธารณูปโภค สาธารณูปการ พลังงาน คมนาคม การศึกษา และภาคการเงิน