เจ้าชายไมเคิลแห่งเคนท์เสด็จพระราชทานรางวัล International Road Safety Awards ให้แก่องค์การ Safe Kids Worldwide และเฟดเอ็กซ์ในฐานะที่เป็นผู้จัดทำโครงการ Safe Kids Walk This Way ในงานเลี้ยงรับรองซึ่งจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนนโยบายส่งเสริมทศวรรษแห่ง การรณรงค์เสริมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนขององค์การสหประชาชาติ
ภายใต้โครงการ Safe Kids Walk This Way องค์การ Safe Kids Worldwide ได้ผนึกกำลังร่วมกับ เฟดเอ็กซ์ดำเนินการพัฒนาชุมชนทั่วโลกให้เป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับเด็กๆ ในการเล่น สำรวจ และ เดินทางบนท้องถนนโดยจัดกิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัยในการเดินเท้าสำหรับเยาวชน สำหรับโครงการ Safe Kids Walk This Way ริเริ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกาในปี 2543 และหลังจากนั้นได้ขยายการดำเนินงาน ไปยังประเทศอื่นๆ ปัจจุบัน โครงการ Safe Kids Walk This Way มีการดำเนินงานอยู่ในประเทศต่างๆ รวมทั้งสิ้น 9 ประเทศ และนับตั้งแต่เริ่มโครงการเป็นต้นมามีเด็กๆ และเยาวชนเข้าร่วมโครงการมากกว่า 4 ล้านคน
เจ้าชายไมเคิลแห่งเคนท์ทรงมีพระดำรัสเกี่ยวกับโครงการ Safe Kids Walk This Way ว่า “เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ร่วมรณรงค์เสริมสร้างการสัญจรบนท้องถนนในประเทศกำลังพัฒนาให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
ในโอกาสนี้ ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีต่อเฟดเอ็กซ์ที่ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินมูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโครงการ Safe Kids Walk This Way ดังกล่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในการสนับสนุนอย่างจริงจังจากภาคเอกชนเพื่อช่วยชีวิตของประชากรทั่วโลก”
มร. จอห์น ฟอร์มิซาโน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร องค์การ Safe Kids Worldwide
เผยว่า “ในแต่ละวันมีเด็กๆ จากทั่วโลกเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนบนท้องถนนเป็นจำนวนสูงถึง 720 คน องค์การ Safe Kids Worldwide ร่วมกับเฟดเอ็กซ์จึงเดินหน้ารณรงค์ส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการจราจรโดยจัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนเพื่อช่วยคุ้มครองเด็กๆ นอกจากนี้ เรายังร่วมมือกันรณรงค์ส่งเสริมเด็กๆ ให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยโดยให้ความรู้แก่เด็กๆ เกี่ยวกับการเดินทางไปโรงเรียนและกลับที่พักอย่างปลอดภัย มอบอุปกรณ์ที่จำเป็นให้แก่ครูและผู้ปกครองเพื่อนำไปใช้เสริมสร้างความปลอดภัยให้แก่เด็กๆ และดำเนินการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อาทิ การปรับปรุงทางข้าม การจัดทำป้ายสัญลักษณ์และทางเดินเท้า”
“เฟดเอ็กซ์ได้สนับสนุนโครงการ Safe Kids Walk This Way มาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โครงการได้ขยายการดำเนินงานจากสหรัฐอเมริกาไปยังประเทศอื่นๆ อีก 8 ประเทศ และด้วยลักษณะของโครงการที่มีความยืดหยุ่น ทำให้ชุมชนในประเทศต่างๆ สามารถนำมาดัดแปลงให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม วัฒนธรรมและความต้องการของแต่ละชุมชน การส่งเสริมเด็กๆ ให้มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินเท้าจึงเป็นภารกิจที่สำคัญอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีรายได้ประชาชาติระดับ ปานกลาง — ต่ำ การจัดทำมาตรการป้องกันได้เป็นประเด็นที่เริ่มได้รับความสนใจอย่างจริงจังและแพร่หลายในขณะนี้” มร. ฟอร์มิซาโน กล่าว
สำหรับโครงการ Safe Kids Walk This Way ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนต่างๆ 3 ประการดังนี้
- ข้อมูลจากการศึกษาและประเมินสภาพแวดล้อมและความปลอดภัยในเด็กสามารถนำมาใช้กำหนดความเสี่ยงของชุมชน
- หลักสูตรการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมต่างๆ และอุปกรณ์การเรียนการสอนสามารถนำมาใช้ในการส่งเสริมและให้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมที่ปลอดภัย
- การปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐาน จะช่วยแก้ไขปัญหาการบาดเจ็บและเสียชีวิตในเด็กๆ ที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนนอย่างไม่ปลอดภัย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดปัญหาดังกล่าว
ก้าวสู่ทศวรรษแห่งการรณรงค์เสริมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน ในแต่ละวันมีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นจำนวนหลายพันคน และคาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติภัยบนท้องถนนจะเพิ่มขึ้นถึงปีละ 1.9 ล้านคนภายในปี 2563 (ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกประจำปี 2553) สมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ (The United National General Assembly) ตระหนักถึงสถิติอันน่าสะพรึงกลัวดังกล่าวจึงได้ประกาศแผนส่งเสริมทศวรรษแห่ง ความปลอดภัยมุ่งลดจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนนจากตัวเลขที่ประมาณการณ์ไว้ในปี 2563
เกี่ยวกับรางวัล Prince Michael International Road Safety Awards
เจ้าชายไมเคิลแห่งเคนท์ทรงริเริ่มพระราชทานรางวัล International Road Safety Awards แก่โครงการต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จในการณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนตั้งแต่ปี 2530 ปัจจุบันรางวัลพระราชทาน International Road Safety Awards ได้ขยายผลครอบคลุมถึงองค์กรต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จในการร่วมรณรงค์ลดอัตราการเสียชีวิตและบาดเจ็บบนท้องถนนทั่วโลกในช่วงระหว่างการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการรณรงค์ส่งเสริมทศวรรษแห่งความปลอดภัย
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
พิชญ์สิณี/ / สาธิดา บ. อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ โทร 02 252 9871
อีเมล์ [email protected]