รายงานวิเคราะห์อุตสาหกรรมประจำปีของ CPhI: ส่วนที่ 1

พฤหัส ๐๓ ตุลาคม ๒๐๑๓ ๑๖:๕๔
การคาดการณ์ตลาดโดยสรุปจาก Piramal Enterprises, Fujifilm Diosynth Biotechnologies และ Vision Consulting

ADCs, เทคโนโลยีแบบ multiuse ตลอดจนการบูรณาการและความโปร่งใสด้านการกำกับดูแล ถูกมองเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักสู่เป้าหมายด้านบริการสุขภาพในวันข้างหน้า

CPhI Worldwide และ CPhI Pharma Evolution ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจเภสัชกรรมในเครือ UBM Live ประกาศเผยแพร่รายงานประจำปีส่วนแรก อันประกอบไปด้วยบทความคาดการณ์อนาคตจาก Piramal Enterprises, Fujifilm Diosynth Biotechnologies และ Vision Consulting ซึ่งพิจารณาถึงผลสืบเนื่องทั่วโลกจากความล้มเหลวในการกำหนดกฎระเบียบ, เทคโนโลยีแบบ single use และศักยภาพของยาลักษณะ antibody drug conjugates (ADC)

(โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20130723/629764-a )

อนาคตในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อตลาด ADCs โดยนายวีเจย์ ชาห์ กรรมการบริหารและซีโอโอของ Piramal Enterprises ได้คาดการณ์ว่าจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นทั่วโลก และอาจมีการคิดค้นยาตัวใหม่สำหรับรักษามะเร็งชนิดเป็นก้อนได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการใช้ ADCs เพื่อรักษาโรคมะเร็งตามที่ปฏิบัติกันมาแล้ว เขายังคาดว่าวิธีการรักษารูปแบบนี้ยังจะสามารถใช้เพื่อบ่งชี้การอักเสบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ADCs กำลังจะกลายเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ดังที่นักวิเคราะห์หลายรายได้คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ ไม่น่าแปลกใจ หาก ADCs จะถูกนำไปใช้รักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นส่วนใหญ่ในช่วงระยะเวลาไม่นานนี้ แต่การยื่นขอวิจัยยาใหม่ หรือ IND (Investigational New Drug) สำหรับยาประเภทนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในอีก 5 ปีข้างหน้า จนในที่สุดตลาดก็จะขยายตัวแตะระดับ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในเวลา 10 ปีข้างหน้า และเนื่องด้วยยา target ใหม่ๆ แพร่หลายมากขึ้น จึงเป็นเรื่องของเวลาก่อนที่เราจะมีโอกาสได้เห็นการใช้ ADCs เพื่อรักษาอาการต่างๆที่มีความหลากหลากมากขึ้น โดยตลาดนี้มีแนวโน้มขยายตัวเป็นอย่างมากในอีก 5, 10 หรือแม้แต่ 20 ปีข้างหน้า

“ที่ผ่านมา ความล้มเหลวครั้งใหญ่ในการใช้ ADCs นั้นเกิดจากการที่ยากลุ่ม cytotoxic agent ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการฆ่าเซลล์เป้าหมายที่มีจำนวนเล็กน้อยเพียงแค่ 0.01% อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีใหม่ซึ่งจะปรับปรุงการจับคู่แอนติบอดี้และแอนติเจน น่าจะเป็นกุญแจที่ไขศักยภาพแท้จริงของ ADCs โดยในอีก 10 ปีข้างหน้า เราจะเห็น ADCs มีระดับความแพร่หลายเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก” นายวีเจย์ ชาห์ กล่าว

นายมาร์ค คาร์เวอร์ รองประธานอาวุโสฝ่าย R&D และนวัตกรรมของ Fujifilm Diosynth Biotechnologies ได้เตือนว่า หากเราไม่เดินหน้าสู่การใช้ “วิธีประเมินความเสี่ยงทางสุขภาพ” ของเทคโนโลยีแบบ single use การคิดค้นนวัตกรรมก็อาจไม่สำเร็จลุล่วง โดยเฉพาะกลุ่มยา target ที่มีอนาคตสดใสอย่าง ADCs ซึ่งมักจะต้องผลิตในรูปแบบ single use ปัญหาก็คืออุปกรณ์ในรูปแบบดังกล่าวทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการพัฒนาเพิ่มสูงขึ้นมาก อีกทั้งยังเสี่ยงทำให้ตัวยากลุ่ม target ประสบความล้มเหลวในการค้นพบศักยภาพที่แท้จริง ทั้งนี้ เแนวทางปฏิบัติของ EMA อาจทำให้แนวโน้มนี้แย่ลงไปอีก โดยยา target ใหม่ๆหลายตัวอาจประสบกับปัญหาในการเข้าสู่ขั้นตอนการวิจัยทางคลินิก

ทางออกของปัญหานี้คือวิธีการดำเนินงานบนพื้นฐานสุขภาพ ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะมีข้อมูลประกอบเพียงบางส่วนเพื่อใช้ในการวิจัยขั้นต้นและปริมาณยาที่ใช้เพื่อสนับสนุนค่า PDE และ MACO (Maximum allowable carryover) แต่ก็ยังนับว่าเพียงพอสำหรับการประเมินความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ซึ่งต้นทุนที่ลดลงและนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้นนั้นจะช่วยเร่งพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ชีววิทยาใหม่ๆ และตอนนี้ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานกำกับดูแลที่จะดำเนินการปรับเปลี่ยนแนวทางการประเมินที่ยังคงความปลอดภัย แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนานวัตกรรม

ในทำนองเดียวกัน นายดิลิป ชาห์ ซีอีโอของ Vision Consulting ได้พิจารณาสภาพแวดล้อมด้านการกำกับดูแลในปัจจุบัน และได้ข้อสรุปว่า หน่วยงานกำกับดูแลสามารถเพิ่มความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฏระเบียบได้ โดยการทำให้กฏเกณฑ์ต่างๆมีความชัดเจนและสอดคล้องมากขึ้น รวมทั้งดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาก็คือในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และในอนาคตอันใกล้ เราอาจจะได้เห็นการละเมิดสิทธิบัตรโดยเจตนา (จดหมายเตือนจาก FDA) เพิ่มจำนวนขึ้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทคโนโลยีเชิงวิเคราะห์เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การฟ้องร้องด้านการละเมิดสิทธิบัตรยาซึ่งมีการเผยแพร่ในวงกว้างนั้นได้กลายเป็นลางเตือนภัยที่ว่า กฎข้อบังคับที่เข้มงวดมากขึ้นเรื่อยๆจะทำให้บริษัทขนาดเล็กที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมไม่สามารถเข้ามาทำตลาดได้ นายดิลิป ชาห์ เชื่อว่าคำตอบที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้แก่การจัดทำขั้นตอนให้มีความโปร่งใสมากขึ้น โดยเฉพาะขั้นตอนการดำเนินงานที่สอดคล้องกันทั่วโลก โดยหน่วยงานกำกับดูแลจะมีบทบาทมากขึ้นในภาคอุตสาหกรรม เพื่อประเมินขั้นตอนการดำเนินงานอย่างโปร่งใสและเชื่อถือได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้แนวทางการดำเนินงานแบบใหม่ที่อิงจากผลลัพธ์ประสบความสำเร็จ บรรดาหน่วยงานกำกับดูแลจะเป็นต้องร่วมมือกันทั่วโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่นายดิลิป ชาห์ไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอย่างน้อยอีก 5 ปี

CPhI และ Pharma Evolution จะเปิดเผยรายงานประจำปีส่วนที่เหลือ (ประกอบด้วยข้อมูลผู้เชี่ยวชาญอีก 10 ราย) ในงาน CPhI 2013 (จัดที่ Frankfurt Messe วันที่ 22-24 ตุลาคม) โดยจะเปิดการประชุมรอบสื่อมวลชน เพื่อเผยแพร่รายงานดังกล่าวในวันแรกของการประชุม

นางแอ็กเนส แชนลี่ย์ บรรณาธิการของ CPhI Pharma Evolution ได้แสดงความเห็นต่อรายงานส่วนแรกว่า “รายงานประจำปีของ CPhI Phama Evolution ส่วนแรก ซึ่งจัดทำขึ้นโดยได้รับความช่วยเหลือจากคณะผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก ได้เน้นย้ำอย่างชัดเจนถึงการเติบโตในแวดวงชีววิทยาและเทคโนโลยี multiuse ที่จะช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมยารักษาโรคสู่ตลาดในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา ADCs อย่างไรก็ตาม จากที่เราได้เห็นในรายงานส่วนแรก เห็นได้ชัดว่าการปฏิรูปการกำกับดูแลนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาความปลอดภัยในการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่มีความยืดหยุ่นตามตลาด เพื่อเสริมสร้างนวัตกรรมใหม่ๆต่อไป”

นายคริส คิลบี ผู้อำนวยการกลุ่มของ CPhI & Pharma ได้ยืนยันเจตนาที่จะเผยแพร่รายงานฉบับเต็มในการประชุมประจำปีนี้ โดยกล่าวว่า “ในการประชุม CPhI เราจะเปิดเผยบทความส่วนที่เหลือจากสมาชิกในกลุ่มอีก 10 ราย ซึ่งจะระบุถึงภาพรวมตลาดในเชิงลึก รวมถึงข้อมูลคาดการณ์อนาคตในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพื่อให้อุตสาหกรรมได้พิจารณาและเตรียมตัว เราได้ออกแบบรายงานโดยเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการอภิปรายกันในแวดวงอุตสาหกรรม ดังนั้นผมจึงขอเชิญชวนทุกท่านอ่านรายงานฉบับเต็ม เพื่อที่จะได้รับทราบถึงมุมมองของผู้เชี่ยวชาญของเราได้กว้างขึ้น นอกจากนี้ ผมขอถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อคณะผู้เชี่ยวชาญที่ได้สละเวลาในการแบ่งปันมุมมองในรายงานฉบับนี้”

สามารถรับชมบทความทั้งหมดจากผู้เชี่ยวชาญ และรายงายโดยรวมได้ที่: http://downloads.deusm.com/pharmaevolution/CPhI-Annual-Industry-report-part-I.pdf

สาระสำคัญในรายงานฉบับนี้

Antibody drug conjugates (ADC):

- เป็นนวัตกรรมยาที่คาดว่าจะสามารถรักษามะเร็งชนิดเป็นก้อนได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า

- ADCs จะเข้าสู่ตลาดเพื่อรักษาโรคที่นอกเหนือจากมะเร็ง เช่น อาการติดเชื้อ ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2566

- ในอีก 5 ปีข้างหน้า ADCs จะถูกใช้เพื่อรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นส่วนใหญ่

- ในอีก 5 ปีข้างหน้า การวิจัย IND จะปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 50%

เทคโนโลยี single-use และ multi- use:

- ภายใน 5 ปีข้างหน้า คาดว่าอุตสาหกรรมจะหันไปใช้ ‘แนวทางที่อิงสุขภาพ’ ในการประเมินความเสี่ยง เพื่อลดต้นทุน

- ผลิตภัณฑ?ยาที่ใช?ในการวิจัย (IMPs) ที่มีข้อมูลประกอบอย่างจำกัด สามารถดำเนินการผลิตได้ในรูปแบบ multiuse

*หากแนวทางปฏิบัติของ EMA ถูกนำไปใช้อย่างเต็มรูปแบบ จะเกิดความเสี่ยงต่อนวัตกรรม เนื่องจากจะเป็นการบีบบังคับผู้ผลิตมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ยา target ใหม่ๆหลายตัวประสบกับปัญหาในการเข้าสู่ขั้นตอนการวิจัยทางคลินิก

การปฏิรูปการกำกับดูแล:

- กฏระเบียบที่เข้มงวดขึ้น อันเป็นผลมาจากการละเมิดสิทธิบัตรยาในวงกว้าง จะทำให้บริษัทขนาดเล็กที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมนั้นไม่สามารถเข้ามาทำตลาดในสหรัฐได้ ซึ่งส่งผลให้มีการแข่งขันน้อยลง

* หน่วยงานกำกับดูแลที่มีความโปร่งใสและเปิดกว้างมากขึ้นจะช่วยอำนวยความสะดวกในการปรับปรุงมาตรฐาน

- ควรมีการจัดตั้งระบบที่ชัดเจนและสอดคล้องมากขึ้นทั่วโลก เพื่อปรับปรุงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ความปลอดภัย และนวัตกรรม

- คาดว่าจะมีการจดหมายเตือนจาก FDA มากขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากเทคโนโลยีเชิงวิเคราะห์ได้ขยายตัวขึ้น

- คาดว่าจะไม่เกิดการรวมตัวระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลในวงกว้าง แม้ว่าจะส่งผลดีอย่างเห็นได้ชัดก็ตาม

- เกิดการละเมิดสิทธิบัตรโดยเจตนาเพิ่มมากขึ้น

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ

เกี่ยวกับรายงานประจำปี และคณะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของ CPhI Pharma Evolution

ในช่วงต้นปีนี้ CPhI ได้เปิดตัวโครงการริเริ่มครั้งใหญ่ด้วยการแนะนำรายงานประจำปี ซึ่งจัดทำร่วมกับ Pharma Evolution และเขียนโดยคณะผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของโลกในแวดวงเภสัชกรรม

โครงการดังกล่าวมีวิสัยทัศน์เพื่อประกาศศักดาของ CPhI ที่ไม่ขึ้นอยู่กับฝ่ายใดในอุตสาหกรรม CPhI จึงสามารถทำการวิเคราะห์อุตสาหกรรมเภสัชกรรมโลกได้อย่างเที่ยงตรง อีกทั้งยังช่วยรวบรวมมุมมองต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน

รายงานประจำปีฉบับนี้ประกอบไปด้วยความคิดเห็นในเชิงลึกของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งระบุถึงเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญมีอิสระที่จะทำการประเมินสถานการณ์อุตสาหกรรมในปัจจุบัน รวมถึงคาดคะเนแนวโน้มของอุตสาหกรรมในอนาคต

เกี่ยวกับ CPhI

CPhI ผลักดันการเติบโต และนวัตกรรมในทุกๆย่างก้าวของห่วงโซ่อุปทานเภสัชกรรมทั่วโลก ตั้งแต่การคิดค้นตัวยาไปจนถึงการกำหนดปริมาณยา CPhI เป็นศูนย์รวมของผู้เชี่ยวชาญในวงการเภสัชกรรมกว่า 100,000 คนทุกปีที่รวมตัวกันสร้างเครือข่าย สร้างโอกาสทางธุรกิจ และขยายตลาดไปทั่วโลก ผ่านงานแสดงสินค้า การประชุม และสังคมออนไลน์ งานสำคัญอย่าง CPhI Worldwide จัดขึ้นในยุโรป และมีงานอื่นๆอีกในจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รัสเซีย และอเมริกาใต้ รวมกับการบริการด้านสัญญาจาก ICSE, เครื่องมือจาก P-MEC, บรรจุภัณฑ์จาก InnoPack และผลิตภัณฑ์ด้านชีวเวชภัณฑ์จาก BioPh CPhI-Online.com ยังนำเสนอรายชื่อผู้ซื้อ และผู้ขายบนโลกออนไลน์ CPhI จัดตั้งสังคมระดับโลกในด้านข่าวสาร และการวิเคราะห์ที่ PharmaEvolution.com

รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: http://www.cphi.com

กำหนดการจัดงานด้านเภสัชกรรมประจำปีของ UBM Live ได้แก่ งาน CPhI Worldwide, ICSE, P-MEC Europe และ InnoPack (วันที่ 22-24 ตุลาคม 2556 ที่ Messe Frankfurt ประเทศเยอรมนี) งาน CPhI and P-MEC India (วันที่ 3-5 ธันวาคม 2556 ที่ Bombay Exhibition Centre เมืองมุมไบ) งาน CPhI, ICSE, P-MEC, BioPh and Pharmatec Japan (วันที่ 9-11 เมษายน 2557 ในกรุงโตเกียว) CPhI Russia and IPhEB (วันที่ 16-17 เมษายน 2557 ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย) งาน CPhI, P-MEC and Innopack South East Asia (วันที่ 20-22 พฤษภาคม 2557 ที่กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย) งาน CPhI Istanbul (วันที่ 4-6 มิถุนายน 2557 ที่ตุรกี) และงาน CPhI, Hi and Fi, ICSE, P-MEC, BioPh and LabWorld China (วันที่ 26-28 มิถุนายน 2557 ที่ SNIEC นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน)

เกี่ยวกับ CPhI Pharma Evolution

CPhI Pharma Evolution ( http://www.pharmaevolution.com ) ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2556 เพื่อเป็นชุมชนโลกออนไลน์สำหรับเหล่าผู้เชี่ยวชาญทั่วภาคการผลิตเภสัชภัณฑ์ ให้เข้ามาพูดคุยและแบ่งปันวิธีการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด อีกทั้งข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับข้อบังคับด้านส่วนประกอบยา และสถานที่การผลิต Pharma Evolution เป็นชุมชมแห่งใหม่ที่มีความน่าเชื่อถือสำหรับผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรม เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดและเครือข่ายในขอบข่ายสำคัญๆ เช่น สูตรยา APIs สารปรุงแต่งยา การนำส่งยา การทำ R&D การผลิตและคุณภาพในการผลิต บรรจุภัณฑ์และวิธีป้องกันสินค้าปลอมแปลง การดำเนินงานตามข้อบังคับ ตลอดจนการจัดจ้างหน่วยงานภายนอก และบริหารห่วงโซ่อุปทาน Pharma Evolution ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นส่วนต่อขยายธุรกิจการจัดงานของ CPhI ทั่วโลก เพื่อใช้เป็นแหล่งแสดงความคิดเห็นและแหล่งข้อมูลสำหรับผู้เชี่ยวชาญได้ทุกวัน Pharma Evolution ถูกจัดทำโดย CPhI และ UBM DeusM ( http://www.deusm.com ) ซึ่งเป็นฝ่ายบริการทางการตลาดของ UBM โดยมีความเชี่ยวชาญในการสร้างและบริหารจัดการชุมชนคุณภาพในตลาดแบบ B2B ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นในด้านเนื้อหาและเทคโนโลยี

เกี่ยวกับ UBM Live

ยูบีเอ็ม ไลฟ์ เชื่อมต่อผู้คน และสร้างโอกาสให้กับบริษัทต่างๆทั่วทั้ง 5 ทวีป เพื่อพัฒนากิจการใหม่ๆ ตอบสนองความต้องการของลูกค้า สรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ส่งเสริมแบรนด์ และขยายตลาดของตนเอง งานแสดงสินค้า การประชุม รายการประกาศรางวัล สื่อสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ รวมถึงโปรแกรมการรับรอง และอบรมของยูบีเอ็ม ไลฟ์ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาดของบริษัทต่างๆในอุตสาหกรรมกว่า 20 ประเภท ผ่านแบรนด์ดังๆอย่าง TFM&A, Internet World, IFSEC, MD&M, CPhI, Cruise Shipping Miami, Concrete Show และแบรนด์อื่นๆอีกมากมาย

สื่อมวลชนกรุณาติดต่อสอบที่

อเล็กซ์ ฮีลี่ย์ (Alex Heeley) หรือ ทริสตัน เจอร์วิส (Tristan Jervis)

De Facto Communications

โทร. +44(0)207-203-6745 / 6740

อีเมล: [email protected] / [email protected]

แหล่งข่าว: UBM Live

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?