ขับรถปลอดภัย นิสัยใหม่ที่ฝึกได้ ใน “Ford : Driving Skills for Life — ฉลาดขับ ประหยัด ปลอดภัย”

พุธ ๑๗ มิถุนายน ๒๐๐๙ ๑๕:๐๙
นิสัยใหม่สร้างได้ เพียงแค่เปิดใจรับ…เช่นในโครงการ “Driving Skills for Life — ฉลาดขับ ประหยัด ปลอดภัย” ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ของ ฟอร์ด ประเทศไทย เพื่อรณรงค์การขับรถให้ถูกวิธีปลอดภัย และประหยัด พร้อมปรับเปลี่ยนทัศนคติการใช้รถอย่างถูกต้อง โดยเมื่อได้รับความรู้ที่ถูกต้องไปแล้ว สิ่งสำคัญที่ผู้อบรมต้องทำเป็นอันดับแรก คือ จะต้องเปิดใจเชื่อและยอมรับ ก่อนจะนำไปทดลองและปฏิบัติเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการขับขี่ และหมั่นปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยแล้วใช้เวลาขับประมาณ 16,000 กิโลเมตร จะเกิดเป็นนิสัยใหม่ในการขับรถที่ดีติดตัวไปตลอด นั่นหมายความว่าคุณจะมีความปลอดภัยมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

ดวงกมล อิศรพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า “หลายคนขับรถเป็นแต่น้อยคนนักจะขับรถถูกต้อง ทำให้เกิดอุบัติเหตุยังความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิต โดยอุบัติเหตุบนท้องถนนมีสาเหตุหลักจากผู้ขับขี่มากกว่าปัญหาจากตัวรถถึง 90% จากสถิติขององค์การอนามัยโลก พบว่าการบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2541 และคาดการณ์ว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนจะเป็นสาเหตุการตายอันดับ 3 ของโลกภายใน พ.ศ. 2563 โดยจะมีผู้เสียชีวิตจากสาเหตุนี้มากถึงปีละ 1.2 ล้านคน ส่วนในประเทศไทยอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสาเหตุการตายอันดับ 2 ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากทีเดียว แท้จริงแล้วอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นเราสามารถป้องกันและลดจำนวนได้ ดังนั้น ในฐานะที่ฟอร์ดเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจด้านยานยนต์ และเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้ริเริ่มโครงการ “Driving Skills for Life — ฉลาดขับ ประหยัด ปลอดภัย” ขึ้น ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่ออบรมส่งเสริมการขับรถให้ถูกวิธีและปลอดภัย พร้อมปรับเปลี่ยนทัศนคติเพื่อการใช้รถอย่างถูกต้อง และแนะเทคนิคขับรถอย่างไรให้ประหยัด ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ”

และจากผลสำรวจพบว่าสาเหตุหลักๆ ของการเกิดอุบัติเหตุ คือ 1.การขับรถด้วยความเร็วเกินอัตราที่กำหนด 2.การขับรถโดยประมาท และ 3.การขับรถระยะกระชั้นชิดซึ่งทิ้งระยะห่างจากคันหน้าน้อยเกินไป ในหลักสูตรของโครงการนี้ ฟอร์ดจึงได้เน้นและเพิ่มทักษะตลอดจนปรับทัศนคติใน 3 เรื่องนี้เสียใหม่ เมื่อเกิดเหตุการณ์เฉพาะหน้าโดยไม่คาดฝัน ก็สามารถนำสิ่งที่เรียนรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ เพราะบนถนนทุกอย่างคือเหตุการณ์จริงที่เราไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ดังนั้น สิ่งที่นักขับที่ดีเยี่ยมควรทำเสมอเป็นอันดับแรกเมื่อขึ้นรถนอกจากร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์พร้อมแล้ว คือ การปรับเบาะที่นั่งให้เหมาะสมสะโพกชิดที่นั่งหลังตรง และคาดเข็มขัดนิรภัยให้พาดช่วงไหปลาร้าและกระดูกเชิงกราน พร้อมสำรวจความพร้อมเรื่องของกระจกเพื่อทัศนวิสัยที่ดี, สัญญาณไฟบนแผงหน้าปัดรถ, ระบบเบรกทำงานปกติ, จับพวงมาลัยในตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา เวลาขับรถควรสังเกตสภาพการจราจรเสมอ และไม่ทำกิจกรรมอื่นใดขณะขับรถ เช่น โทรศัพท์ หรือดูทีวีอันทำให้สมาธิในการขับรถ

น้อยลง รวมถึงปรับทัศนคติในเรื่องของการขับขี่ใหม่ เช่น ไม่ควรขับรถระยะกระชั้นชิด แต่ควรรักษาระยะห่างจากคันหน้าในระยะปลอดภัย หมายถึงใน 3 วินาที เพื่อสามารถเบรกหรือหยุดรถทันเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน, มองกระจกบ่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่บอดของรถ ซึ่งกระจกและระดับสายตาของผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นได้, มองหาทางออกเสมอ พยายามอยู่ในพื้นที่ว่าง อย่าใกล้หรือชิดรถคันอื่นมากเกินไปจนไม่มีทางออก, รู้จักถนน และสังเกตป้ายจราจรต่างๆ โดยต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

นอกเหนือจากนั้น ควรรู้จักการใช้อุปกรณ์ในรถเพื่อความปลอดภัยให้เป็น และเรียนรู้ว่าทำงานอย่างไร พร้อมเตรียมวิธีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า อาทิ ระบบเบรก ABS (Antilock Braking System) เมื่อใช้ควรเหยียบเบรกแรงๆ ทีเดียวแล้วค้างไว้ เพื่อให้ระบบทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ สำหรับในกรณีฉุกเฉินอย่างมีรถตัดหน้าจะได้ไม่ตกใจและควบคุมรถได้ปกติไม่ลื่นไถล หรือระบบ ESP (Electronic Stability Program) จะช่วยชดเชยและปรับสภาพให้รถทรงตัวอยู่ในสภาวะปกติทันที ในกรณีรถเกิดสไลด์ออกซ้ายหรือขวาเมื่อขับรถบนถนนเปียกลื่น หรือการจับพวงมาลัยให้ถูกต้อง ในกรณีฉุกเฉินเกิดอันเดอร์สเตียร์ (Understeer) หรือ อาการหน้าดื้อโค้ง ท้ายสะบัดออกไปทางด้านข้าง ในขณะที่เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง วิธีแก้ไขคือผ่อนคันเร่งคืนพวงมาลัยและค่อยๆ หมุนกลับไปใหม่ หรือการเปลี่ยนช่องทางเดินรถฉุกเฉิน กรณีเมื่อมีอะไรตัดหน้าจะทำให้ไม่มีโอกาสเบรกทันที ดังนั้น ไม่ควรตกใจ ควรหักหลบและควบคุมรถให้อยู่ในเลนก่อนที่จะเบรกรถเพื่อหยุด เป็นต้น ในขณะที่เทคนิคในการขับขี่อย่างประหยัด ฟอร์ดแนะว่าควรขับขี่ที่รอบเครื่องยนต์ต่ำไม่เกิน 2,000 รอบต่อนาทีด้วยเกียร์ที่เหมาะสม และไม่ควรบรรทุกของหนัก เพราะการบรรทุกน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทุก 20 กิโลเมตร รถจะกินน้ำมันเพิ่มขึ้น 1%

ทั้งนี้ โครงการ “Driving Skills for Life — ฉลาดขับ ประหยัด ปลอดภัย” จะจัดในกรุงเทพฯ ในวันที่ 20-21 มิถุนายน 18-19 กรกฎาคม และ 8-9 สิงหาคม รวมทั้งจะโรดโชว์ต่อไปที่ จ.ชลบุรี จ.เชียงใหม่ และปิดท้ายที่ จ.กำแพงเพชร ในเดือนตุลาคมนี้ สนใจร่วมเข้ารับการอบรม หรือขอรายละเอียดได้ที่ฟอร์ด คอล เซ็นเตอร์ โทร 02-686-5899 หรือติดตามความเคลื่อนไหวผ่านเว็บไซต์ www.drivingskillsforlife.com ซึ่งจะมีภาคภาษาไทยช่วงปลายปีนี้

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300, 0-2434-8547

คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณปิติยา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๑ ALLY ผนึก Mural ลงทุนซื้อหุ้นสมาคมมวยปล้ำสเปน หวังผลักดันมวยปล้ำสเปนขึ้นแท่นลีกหลักในยุโรปและลาตินอเมริกา
๑๖:๓๙ โอกาสจองซื้อหุ้นกู้บริษัทชั้นนำ ช.การช่าง เสนอขายช่วงวันที่ 25 - 29 เมษายน 2567 ชูผลตอบแทน 3.40 - 4.10% ต่อปี อันดับความน่าเชื่อถือ A- ติดต่อผ่าน ธ.กรุงเทพ และ ธ.กรุงไทย
๑๖:๕๔ บางจากฯ สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาเยาวชนในทักษะแห่งอนาคต ผ่านโครงการ SI Sphere: Sustainable Intelligence-based Society Sphere โดย UN Global Compact Network
๑๕:๑๓ เปิดไลน์อัพ 10 ศิลปินหน้าใหม่มาแรงแห่งปีจาก Spotify RADAR Thailand 2024
๑๕:๐๘ อาร์เอส กรุ๊ป เดินหน้ากลยุทธ์ Star Commerce ยกทัพศิลปิน-ดารา เป็นเจ้าของแบรนด์ และดันยอดขายด้วย Affiliate Marketing ประเดิมส่งศิลปินตัวแม่ ใบเตย อาร์สยาม
๑๕:๒๐ กสิกรไทยผนึกกำลังเจพีมอร์แกน เปิดตัวโปรเจกต์คารินา ดึงศักยภาพบล็อกเชน ลดระยะเวลาธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ
๑๕:๐๖ สเก็ตเชอร์ส จัดกิจกรรม SKECHERS PICKLEBALL WORKSHOP ส่งเสริมสุขภาพและขยายคอมมูนิตี้กีฬา Pickleball ในไทย
๑๕:๕๖ SHIELD จับมือแอสเซนด์ มันนี่ และ Money20/20 Asia จัดกิจกรรมระดมเงินบริจาคแก่มูลนิธิรามาธิบดี
๑๕:๔๓ 'ASW' เตรียมโอนกรรมสิทธิ์ 4 คอนโดฯ ใหม่ ไตรมาส 2 ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และภูเก็ตมูลค่ารวมกว่า 6,600 ล้านบาท
๑๕:๔๑ โก โฮลเซลล์ สนับสนุนเกษตรกรไทย ปูพรมจำหน่ายผลไม้ฤดูกาล สดจากสวนส่งตรงถึงมือคุณ