ลีดเวย์ฯ จับมือ ซูมิโตโม ญี่ปุ่นตอกย้ำความเป็นผู้นำ ขยายตลาดเครื่องจักรกลหนัก ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปี 500 คัน ปีหน้าลุยยอดกระฉูดเพิ่มขึ้น 6 %

พุธ ๐๒ ธันวาคม ๒๐๑๕ ๑๐:๐๕
ลีดเวย์ฯ ควงบริษัทแม่ ซูมิโตโม คอนสตรัคชั่น แมชชีนเนอรี่ ประเทศญี่ปุ่น ประกาศรุกตลาดเครื่องจักรกลหนักรถขุดไฮโดรลิกตั้งเป้าสิ้นปี 58 ขายครบ 500 คัน พร้อมนำสื่อมวลชนเยี่ยมชมสายการผลิตในโรงงานที่โตเกียว เมืองชิบะ คาดปีหน้ายอดขายพุ่งเพิ่มขึ้น 6 %

นายฉกาจ แสนจัน กรรมการผู้จัดการบริษัท ลีดเวย์ เฮฟวี่ แมชชีนเนอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักจากญี่ปุ่น ภายใต้แบรนด์ ซูมิโตโม หนึ่งเดียวในประเทศไทย กล่าวถึงการทำตลาดเครื่องจักรกลหนักในประเทศไทยว่า "ปัจจุบัน บริษัท ลีดเวย์ฯ ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยย่างเข้าปีที่ 4 แล้ว โดยมีรถขุดซูมิโตโม ที่จำหน่ายอยู่ในตลาด ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นรถขุดขนาดเล็ก 8-20 ตัน รถขุดขนาดกลาง 20-40 ตัน และรถขุดขนาดใหญ่ 40-80 ตัน โดยบริษัทมีอัตราการเติบโตทุกปี สำหรับรถ 2 รุ่น ที่ลีดเวย์ฯ นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ รถขุด และรถปูยาง แยกตามน้ำหนักและกำลังการใช้งาน ทั้งนี้จุดแข็ง ของแบรนด์ซูมิโตโม ที่ลีดเวย์ฯ นำเข้ามาจำหน่ายคือเทคโนโลยีระบบไฮโดรลิกที่มีสมรรถนะดี มีแรงขุด ขณะเดียวกันยังประหยัดน้ำมัน ต่างจากรถขุดคู่แข่ง ซึ่งถ้ามีแรงขุดดีก็จะสิ้นเปลืองน้ำมันด้วย เพราะซูมิโตโม ได้ถูกพัฒนาเพื่อการ ใช้งานทีคุ้มค่า โดยมีการรับประกันการใช้งานสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 25,000 ชม. ในขณะเดียวกันฟรีค่าบำรุงรักษา 7,000 ชม. ทั้งค่าแรง ค่ารถและค่าอะไหล่"

ส่วนเป้าหมายในการขาย ลีดเวย์ฯ ตั้งเป้าในการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งในสิ้นปี 2558 นี้ ลีดเวย์ฯ ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 500 คัน และในปีหน้า ทั้งลีดเวย์ และซูมิโตโมตั้งเป้ายอดขายรถขุดเพิ่มจากเดิมไว้ที่ 250 คัน รถปูยาง 25 คัน ซึ่งคาดว่าจะทำให้ยอดขายรวมของปีหน้าเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 750 คัน กลยุทธ์ในการทำตลาดของบริษัทลีดเวย์ คุณฉกาจ กล่าวเสริมว่า "ในปีหน้าเราจะเจาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดให้มากขึ้นเพื่อตอบสนองมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในนิคมอุตสาหกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นบนพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ สำหรับรถขุดของซูมิโตโม ทางภาคกลางถือว่ามียอดจำหน่ายสูงสุด คิดจากยอดขายรวมแล้วอยู่ที่ 42% เป็นแหล่งรวมรถขุดขนาด 35 ตัน และ 48 ตัน ส่วนทางภาคใต้นั้นจะอยู่ที่ 27% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20% ในปีหน้านี้ ลีดเวย์ฯ จะเจาะตลาดไปยังภาคเหนือมากขึ้น โดยใช้กลยุทธ์แบบป่าล้อมเมือง เพราะลีดเวย์ฯ เพิ่งเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเพียงแค่ 3 ปี จึงใช้รูปแบบการขายแบบเซลส์และโบรกเกอร์ ซึ่งเป็นนายหน้าทีมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่นั้น ๆ มาช่วยขาย เช่น ต่างจังหวัดและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ขณะเดียวกัน ลีดเวย์ฯ จะติดตามโครงการภาครัฐในส่วนการลงทุนสาธารณูโภคพื้นฐาน ทั้งเรื่องระบบชลประทาน การสร้างรถไฟฟ้า เหมืองแร่ ซึ่งมีส่วนผลักดันให้สินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยเฉพาะรถขุดสามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น ลีดเวย์ฯ มองว่าเศรษฐกิจดีขึ้น อยู่ที่การพัฒนาพื้นฐานก่อน ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่ต้องพัฒนา ขยาย และ ซ่อมแซม โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการจัดการน้ำถือเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องทำแน่นอน"

ด้านนายมิคิโอะ อิเดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวถึงตลาดรถขุดไฮโดรลิกในภูมิภาคเอเซียนว่า "นอกจากตลาดใหญ่ๆ อย่างในญี่ปุ่น จีน อเมริกาเหนือ และในยุโรปแล้ว ตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยก็ถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีความสำคัญไม่แพ้กันและเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในภาคพื้นเอเชีย

อย่างแท้จริง ซูมิโตโมจึงได้ก่อสร้างโรงงานผลิตขึ้นในอินโดนีเซียเมื่อสี่ปีที่ผ่านมา และได้มีการจัดส่งผลิตภัณฑ์ในรุ่นต่างๆ ไปยังประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่ที่มีความต้องการรถขุดไฮโดรลิคเป็นอันดับสองของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซูมิโตโมเองมีความมุ่งมั่นที่จะตอบ สนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทยทั้งในเรื่องผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับโลก รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ

นอกจากนี้ ในช่วงสองปีที่ผ่านมาอีกเช่นกันที่ซูมิโตโมได้เปิดตัว SH130-5 MaCan ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นแรกที่ออกแบบสำหรับใช้ในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่าง น้ำมันปาล์ม ในประเทศอินโดนีเซีย ไทย และทางตะวันออกของมาเลเซีย ในส่วนของตลาดในญี่ปุ่นเองนั้น ในระยะ เวลาครึ่งปีแรกของปีนี้ ซูมิโตโมมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 12% ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่น่าภูมิใจยิ่ง เราคาดหวังที่จะต่อยอดความแข็งแกร่งทางธุรกิจนี้ทั้งในญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ รวมทั้งประเทศไทยด้วย"

ด้านนายมาซูฮิโก ซาซากิ ประธานอำนวยการ กล่าวว่า "ธุรกิจรถขุดไฮโดรลิคของซูมิโตโมได้เข้ามาในประเทศไทย เมื่อประมาณ 40 ปีมาแล้ว โดยเริ่มจากรถขุดมือสองส่งลงเรือมาจากญี่ปุ่น ในช่วงแรกใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองพลอย ที่กาญจนบุรี จากนั้นรถขุดของซูมิโตโมก็เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมเลี้ยงกุ้งในกระบี่ และภูเก็ต ในช่วงสามปีที่ผ่านมา หลังจากที่ร่วมธุรกิจเป็นพันธมิตรกับลีดเวย์ฯ ตลาดรถขุดไฮโดรลิคของซูมิโตโมก็ขยายใหญ่ขึ้น ปีนี้เรามีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทยถึง 7% และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น ความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากการยอมรับในคุณภาพผลิตภัณฑ์ของผู้ใช้ และการให้บริการดูแลและให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ รวมทั้งบริการหลังการขายถึง 7,000 ชั่วโมงการใช้งาน หลังจากส่งมอบสินค้าแล้ว เรามั่นใจในความสำเร็จที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้สนับสนุนธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องจักรหนักนี้ให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป"

ด้านแผนการลงทุนในอนาคต ลีดเวย์ฯ จะใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท ในการนำเข้ารถขุดพร้อมทั้งขยายสาขาเพิ่มอีก 4 สาขาเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าและการดูแลบริการหลังการขายได้สะดวกมากยิ่งขึ้น จากเดิม 6 สาขาที่ลำปาง ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช อุบลราชธานี และบางปะกง รวมทั้งจะมีการเพิ่มบุคลากรเพื่อขยายตลาดและให้ครอบคลุมการดูแลบริการหลังการขายมากยิ่งขึ้น

ไม่เพียงแต่ตลาดในประเทศเท่านั้นที่ลีดเวย์ฯ จะขยายการลงทุน แต่ลีดเวย์ฯ ให้ความสำคัญกับตลาดในต่างประเทศเช่นเดียวกัน โดยจะเริ่มผลักดันตลาดที่พม่าให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมามียอดขายในประเทศพม่า 100 คัน ซึ่งเราตั้งเป้าไว้ 120 คันภายในสิ้นปี 2558 นี้ ส่วนปีหน้าตั้งเป้าไว้ที่ 150 คัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๑ ALLY ผนึก Mural ลงทุนซื้อหุ้นสมาคมมวยปล้ำสเปน หวังผลักดันมวยปล้ำสเปนขึ้นแท่นลีกหลักในยุโรปและลาตินอเมริกา
๑๖:๓๙ โอกาสจองซื้อหุ้นกู้บริษัทชั้นนำ ช.การช่าง เสนอขายช่วงวันที่ 25 - 29 เมษายน 2567 ชูผลตอบแทน 3.40 - 4.10% ต่อปี อันดับความน่าเชื่อถือ A- ติดต่อผ่าน ธ.กรุงเทพ และ ธ.กรุงไทย
๑๖:๕๔ บางจากฯ สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาเยาวชนในทักษะแห่งอนาคต ผ่านโครงการ SI Sphere: Sustainable Intelligence-based Society Sphere โดย UN Global Compact Network
๑๕:๑๓ เปิดไลน์อัพ 10 ศิลปินหน้าใหม่มาแรงแห่งปีจาก Spotify RADAR Thailand 2024
๑๕:๐๘ อาร์เอส กรุ๊ป เดินหน้ากลยุทธ์ Star Commerce ยกทัพศิลปิน-ดารา เป็นเจ้าของแบรนด์ และดันยอดขายด้วย Affiliate Marketing ประเดิมส่งศิลปินตัวแม่ ใบเตย อาร์สยาม
๑๕:๒๐ กสิกรไทยผนึกกำลังเจพีมอร์แกน เปิดตัวโปรเจกต์คารินา ดึงศักยภาพบล็อกเชน ลดระยะเวลาธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ
๑๕:๐๖ สเก็ตเชอร์ส จัดกิจกรรม SKECHERS PICKLEBALL WORKSHOP ส่งเสริมสุขภาพและขยายคอมมูนิตี้กีฬา Pickleball ในไทย
๑๕:๕๖ SHIELD จับมือแอสเซนด์ มันนี่ และ Money20/20 Asia จัดกิจกรรมระดมเงินบริจาคแก่มูลนิธิรามาธิบดี
๑๕:๔๓ 'ASW' เตรียมโอนกรรมสิทธิ์ 4 คอนโดฯ ใหม่ ไตรมาส 2 ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และภูเก็ตมูลค่ารวมกว่า 6,600 ล้านบาท
๑๕:๔๑ โก โฮลเซลล์ สนับสนุนเกษตรกรไทย ปูพรมจำหน่ายผลไม้ฤดูกาล สดจากสวนส่งตรงถึงมือคุณ