"เราใช้ประสิทธิผลที่เกิดขึ้นจากผลกำไรที่ดีเยี่ยมมาอย่างยาวนานของเรา เปรียบเสมือนแหล่งเงินทุนในการค้นคว้าวิจัยเพื่อสร้างสรรค์ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าและนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำยุค" "สายเลือดของรถสปอร์ตพันธุ์แท้จาก 911 ได้รับการถ่ายทอดไปยังรถยนต์ทุกรุ่น เห็นได้ชัดจาก พานาเมร่า (Panamera) และ คาเยนน์ (Cayenne) รุ่นล่าสุด ที่สามารถสร้างความประทับใจให้แก่กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของเราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ เรายังตระหนักถึงแนวโน้มที่ดี ในแง่ของการยอมรับเทคโนโลยีขับเคลื่อนแบบ ปลั๊กอิน-ไฮบริด (plug-in hybrid) นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราเปิดตัว พานาเมร่า (Panamera) และ พานาเมร่า สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Sport Turismo) รุ่นเรือธงที่มีพละกำลังสูงสุดด้วยการติดตั้งระบบขับเคลื่อนไฮบริด ส่วนในปี 2019 นับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของการก้าวไปสู่อนาคตที่รุ่งโรจน์ของปอร์เช่ ด้วยการมาถึงของยนตกรรมสปอร์ตที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบเป็นครั้งแรก และนั่นคือ Misson E" Blume กล่าวเสริม
Lutz Meschke รองประธานและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผูดูแลรับผิดชอบส่วนงานการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เน้นย้ำถึงการทุ่มเทอย่างหนักในการลงทุนค้นคว้าวิจัยทั้งการสร้างสรรค์ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าและนวัตกรรมดิจิทัลซึ่งถือเป็นความท้าทายอันยิ่งใหญ่ของบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตชั้นนำของโลกแห่งนี้ ปอร์เช่กำลังอยู่ระหว่างการลงทุนที่เปี่ยมไปด้วยความสำคัญจากเม็ดเงินมากกว่า 3.0 พันล้านยูโร ในส่วนของการพัฒนารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ ปลั๊กอิน ไฮบริด (plug-in hybrid) และ ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ภายในระยะเวลา 5 ปีต่อจากนี้ และผลสืบเนื่องจากการลงทุนดังกล่าวได้ช่วยสร้างตำแหน่งงานใหม่มากกว่า 1,200 ตำแหน่ง ที่โรงงาน Zuffenhausen "ทั้งหมดนี้คือการลงทุนพัฒนาเพื่อวันข้างหน้าขององค์กรมุ่งไป ตามแนวทางวัตถุประสงค์หลักของแผน กลยุทธ์ เพื่อนำมาซึ่งผลการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จจากตัวเลขกำไรเบื้องต้น อย่างน้อย 15 เปอร์เซ็นต์ต่อเนื่องไปในอนาคต ทั้งนี้ การจะไปให้ถึงเป้าหมายดังกล่าวนั้นสามารถทำได้ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่การบริหารจัดการโครงสร้างต้นทุนของเรานั่นเอง" ด้วย Meschke กล่าวสรุปทิ้งท้าย
สำหรับปีงบประมาณ 2017 ที่กำลังดำเนินไปในปัจจุบัน Blume และ Meschke คาดการณ์ถึงผลการดำเนินงานเมื่อสิ้นสุดปีนี้ ด้วยตัวเลขที่กระเตื้องขึ้นจากความสำเร็จระดับสูงของปีที่แล้วในสัดส่วนเพียงเล็กน้อย โดยหวังว่าจำนวนยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่และรายรับของบริษัทจะเป็น 2 ส่วนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น