"ลูกค้าถือเป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำที่นิสสัน และเราต้องการแบ่งปันความรู้สึกที่มีเต็มไปด้วยพลังของลูกค้านิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีจาก นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ ที่จะเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตและการขับขี่ ช่วยให้ลูกค้าของเราเดินทางไปได้ทุกที่" สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธาน สายงานการตลาดของนิสสัน ประเทศไทย กล่าว
"เทอร์ร่า ใหม่ เป็นรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัวสมัยใหม่ที่กำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น ที่สามารถเดินทางไปด้วยกันได้ทุกที่ เราอยากให้กิจกรรมนี้แสดงให้ลูกค้าเห็นว่า พวกเขาสามารถสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ โดยใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่อย่างมากมายของเอสยูวีพรีเมี่ยมใหม่คันนี้" สุรีทิพย์ กล่าวเสริม
เทอร์ร่า ใหม่ ผสมผสานสมรรถนะเครื่องยนต์ใหม่ที่ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน มีพื้นที่ใช้สอยภายในที่กว้างขวางแบบ 7 ที่นั่ง รวมถึงเทคโนโลยีทันสมัยจากนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility) ที่ทำให้ลูกค้าเดินทางไปได้ทุกที่ด้วยความมั่นใจ
"นี่นับเป็นโอกาสที่ดีเพื่อพิสูจน์ว่านิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ สามารถมอบการขับขี่ที่ราบรื่นภายในเมือง และให้ความปลอดภัยและความสะดวกสบายสูงสุดในการเดินทาง ที่ท้าทายของทุกครอบครัวบนเส้นทางทั้งในแบบทั่วไปและแบบออฟโรด" สุรีทิพย์ กล่าว
การเดินทางของ "เทอร์ร่า คาราวาน" ในกิจกรรมนี้มีระยะทางไปกลับ กว่า 600 กิโลเมตร จากกรุงเทพไปยัง อ. ทองผาภูมิ พร้อมเส้นทางพิเศษที่พิสูจน์สมรรถนะในการขับขี่ออฟโรดผ่านพื้นที่อุทยานแห่งชาติต่างๆ และทุกครอบครัวที่เข้าร่วมกิจกรรมยังได้ขับรถเข้าชมอุโมงค์สามมิติที่มีชื่อเสียง โดยอุโมงค์แห่งนี้ห่าง อ. เมืองกาญจนบุรี 147 กิโลเมตร
สำหรับ เมืองเล็ก ๆ อย่าง อำเภอทองผาภูมิ แห่งนี้เคยเป็นเมืองที่ห่างไกลที่น้อยคนจะรู้จักและมีถนนเพียงไม่กี่สาย จนกระทั่งเมื่อทางหลวงแผนดินหมายเลข 323 ได้สร้างเสร็จ ทำให้การเดินทางเข้าถึงตัวเมืองสะดวกขึ้น ถนนได้เปลี่ยนชุมชนเล็ก ๆ ให้เป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและสำหรับนักผจญภัยของจังหวัดกาญจนบุรี
โดยอำเภอเล็กๆ แห่งนี้ เป็นที่รู้จักในเรื่องความงามของธรรมชาติ โดยตั้งอยู่ท่ามกลางเนินเขาหินปูนและเขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักเดินทางที่มาชมความงามจากธรรมชาติ เช่น เส้นทางเดินป่าและน้ำตก
ขณะที่คาราวานเดินทางเข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี เอสยูวีอย่าง นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ให้การขับขี่ที่สะดวกสบายไม่ว่าจะบนเส้นทางขึ้นลงเขาสูงชัน ทางที่คดเคี้ยว หรือถนนหลวง รวมถึงการพิสูจน์กับเส้นทางที่ท้าทาย อาทิสภาพของถนนที่ลื่น ภายในอุโมงค์สามมิติที่มีความซับซ้อน
วราภรณ์ เทพมณี หนึ่งในลูกค้าที่ได้ร่วมกิจกรรมทดสอบขับขี่เทอร์ร่า ใหม่ บอกเล่าความประทับใจของการเดินทางว่า "ก่อนที่เราจะเข้าไปในอุโมงค์ รู้สึกไม่มั่นใจมาก แต่เมื่อเข้าไปในถ้ำ เทคโนโลยีความปลอดภัยของนิสสันทำให้เข้าใจการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น เช่น กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) และเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ (Smart Rear View Mirror) ที่ช่วยให้เรามองเห็นทุกมุมได้ชัดเจน" นอกจากนี้ยังเสริมว่า "เทอร์ร่า ใหม่นี้ ยังมีระบบ 4WD ที่เชื่อถือได้ทำให้การขับขี่แบบออฟโรดปลอดภัยและสะดวก ดิฉันประทับใจมากกับทริปนี้ การขับนิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับครอบครัวและดิฉัน"
พิมพ์ชญาภัค แพทย์ประเสริฐ อีกหนึ่งผู้เข้าร่วมคาราวาน กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ขับรถพาครอบครัวไปผจญภัย ในที่ที่ไม่เคยไปมาก่อนพร้อมกับเทอร์ร่า ใหม่ "ต้องบอกว่านิสสัน เทอร์ร่า ใหม่เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่สะดวกสบายที่สุด ทุกคนนั่งสบายไปตลอดทาง ไม่ว่าจะขึ้นบนภูเขาและเข้าไปในอุโมงค์สามมิติ รู้สึกตื่นเต้น แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด" พิมพ์ชญาภัค กล่าว "และสิ่งที่ยอดเยี่ยมของนิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ อีกอย่างคือ ภายในที่กว้างขวางและสะดวกสบายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้วยระบบพับเบาะอัตโนมัติ (1-Touch Remote Fold and Tumble Seats) ดิฉันคิดว่าตัดสินใจถูกต้องแล้วที่เลือกซื้อเทอร์ร่า ใหม่"
ด้าน ภาณุวัฒน์ ขาวขำ รู้สึกตื่นเต้นมากกับกิจกรรมของคาราวานและเส้นทางที่ผ่านภูเขาและป่าในเขตอุทยาน "เมื่อเราเข้าสู่อุโมงค์สามมิติ น่าทึ่งมากครับ ทำให้ผมรู้สึกมั่นใจกับการออกแบบที่ดูแข็งแกร่งและทนทานของเทอร์ร่า ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในแบบของคนที่ชอบการผจญภัย รวมถึงเวลาขับลุยในพื้นที่ที่มีระดับน้ำสูง" นอกจากนี้ยังกล่าวเสริมว่า เทอร์ร่า ใหม่ มีสมถรรนะการขับขี่ในการย่านความเร็วสูงที่ดีเยี่ยมบนถนน เกาะถนนดีบนถนนที่คดเคี้ยว และด้วยระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อ หรือ 4WD ทำให้การขับขี่เพิ่มความปลอดภัยและมั่นใจในทุกสภาวะถนน
การเดินทางครั้งนี้ได้เปิดประสบการณ์ใหม่หรือ "Life Lives Outside" กับนิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ซึ่งพร้อมไปด้วยคุณสมบัติใหม่ล่าสุดของเทคโนโลยีจากนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ อาทิ เทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทางอัจฉริยะ หรือ Intelligent Lane Intervention (ILDW) เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Intelligent Blind Spot Intervention - IBSW) และกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) พร้อมเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection – MOD) โดยเทคโนโลยีทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยทั้งในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ (Active Safety) และระบบลดความรุนแรง ความเสียหายจากอุบัติเหตุ (Passive Safety)
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 180 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด
นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2560 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.77 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.9 ล้านล้านเยน ในวันที่ 1 เมษายน 2560 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะกลาง Nissan M.O.V.E. to 2022 ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ 6 ปีที่มีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ 30% เป็นมูลค่า 16.5 ล้านล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยมีกระแสเงินสดสะสมจำนวน 2.5 ล้านล้านเยน ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว นิสสันมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และ ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันมากกว่า 10.76 ล้านคันในปี 2561
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com, Facebook, Instagram, Twitter , LinkedIn และรับชมวีดีโอล่าสุดที่ YouTube