จับตาวาระ กทค. ครั้งที่ 5/2559 : เรื่องร้องเรียนกรณีผู้บริโภคประสบปัญหากรณีถูกเรียกเก็บค่าบริการในระหว่างการถูกระงับบริการ และกรณีผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน

เสาร์ ๐๕ มีนาคม ๒๐๑๖ ๑๕:๓๕
ในการประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ครั้งที่ 5/2559 วันพุธที่ 2 มีนาคม 2559 มีวาระที่สำนักงาน กสทช. เตรียมเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องทั่วไปที่มีลักษณะเป็นงานประจำ เช่น การพิจารณาให้ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทที่ 1 การจัดสรรเลขหมายแบบสั้น 4 หลัก การพิจารณาสัญญาการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม เป็นต้น ส่วนในการพิจารณาแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนผู้บริโภค ในการประชุมครั้งนี้มีเรื่องร้องเรียนที่น่าสนใจซึ่งที่ประชุมต้องพิจารณาทั้งสิ้น 2 วาระด้วยกัน คือกรณีที่ผู้ร้องเรียนประสบปัญหาถูกเรียกเก็บค่าบริการในระหว่างการถูกระงับบริการ และกรณีผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน

วาระเรื่องร้องเรียนกรณีผู้บริโภคประสบปัญหากรณีถูกเรียกเก็บค่าบริการในระหว่างการถูกระงับบริการ

กรณีนี้มีสาเหตุจากผู้ร้องเรียนประสบอุบัติเหตุขณะขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ทำให้โทรศัพท์เคลื่อนที่เสียหายและไม่สามารถใช้งานได้ แต่ไม่ได้แจ้งยกเลิกบริการ อย่างไรก็ตาม ภายหลังถูกผู้ให้บริการระงับบริการ พร้อมทั้งเรียกเก็บค่าบริการในระหว่างนั้นทั้งที่ไม่มีการใช้งานจำนวน 1,503.51 บาท ต่อมาผู้เดือดร้อนรายนี้ได้ร้องเรียนมายังสำนักงาน กสทช. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม โดยยินดีที่จะชำระค่าบริการบางส่วนที่เกิดจากการใช้งาน และขอเปิดใช้งานเลขหมายโทรศัพท์เดิม ซึ่งผลการเจรจาแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน ผู้ให้บริการยินยอมปรับลดค่าบริการโดยยืนยันให้ผู้ร้องเรียนชำระค่าบริการเฉลี่ยตามวันที่มีการใช้งานจริง เป็นจำนวนเงิน 342 บาท ส่วนเรื่องเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ร้องเรียน ปรากฏว่าผู้ให้บริการได้มีการจำหน่ายให้กับผู้ใช้บริการรายอื่นไปแล้ว

ทั้งนี้ การพิจารณาแก้ไขเรื่องร้องเรียนในชั้นคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม คณะอนุกรรมการมีความเห็นว่า ผู้ให้บริการมีสิทธิเรียกเก็บค่าบริการเฉพาะตามวันที่มีการใช้งานจริง แม้จะใช้บริการไม่ครบตามเวลาที่กำหนดในรอบบิลก็ตาม ส่วนเรื่องที่ผู้ร้องเรียนถูกยกเลิกบริการนั้น จากข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ร้องเรียนไม่ได้ชำระค่าบริการเกินกว่า 2 รอบบิลติดต่อกัน ผู้ให้บริการจึงมีสิทธิยกเลิกบริการตามข้อ 33 (2) ของประกาศ กทช. เรื่องมาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ขณะที่เรื่องผู้ให้บริการนำเลขหมายจำหน่ายให้ผู้ใช้บริการรายอื่น เนื่องจากข้อ 24 ของประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การจัดสรรและบริหารเลขหมายโทรคมนาคม พ.ศ. 2557 กำหนดว่าผู้ให้บริการสามารถนำเลขหมายซึ่งสิ้นสุดเงื่อนไขการให้บริการกลับมาให้บริการใหม่ได้ ต้องพ้นระยะเวลา 90 วัน นับจากวันที่สิ้นสุดเงื่อนไขการให้บริการ ซึ่งกรณีนี้ผู้ร้องเรียนได้ร้องเรียนปัญหาเข้ามายังสำนักงาน กสทช. ภายหลังการถูกยกเลิกบริการล่าช้ากว่าครึ่งปี จึงไม่เข้าเงื่อนไขข้อกฎหมายดังกล่าว และผู้ร้องเรียนไม่สิทธิในเลขหมายเดิมอีกต่อไป

เรื่องร้องเรียนกรณีนี้นับเป็นอุทาหรณ์ที่น่าเรียนรู้สำหรับผู้บริโภค เนื่องจากทุกวันนี้มีผู้บริโภคจำนวนมากที่ประสบปัญหาถูกเรียกเก็บค่าบริการในระหว่างการถูกระงับบริการ ซึ่งโดยหลักการแล้ว หากผู้บริโภคไม่ได้ใช้บริการ เช่นโทรออกไม่ได้ รับสายไม่ได้ ผู้ให้บริการก็ไม่มีสิทธิเรียกเก็บค่าบริการ โดยเรื่องทำนองนี้ กทค. ได้เคยพิจารณาและมีมติเป็นบรรทัดฐานมาก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนเรื่องการถูกยกเลิกบริการ หากผู้บริโภคไม่ต้องการถูกระงับหรือยกเลิกบริการ ก็ต้องระมัดระวังไม่ผิดนัดชำระค่าบริการเกินกว่า 2 รอบบิลติดต่อกัน แต่ผู้ให้บริการจะสามารถยกเลิกได้ ก็ต้องมีการเตือนและแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงวันครบกำหนดที่แน่นอนเป็นการล่วงหน้าในใบแจ้งเรียกเก็บค่าบริการที่ชัดเจนด้วย แล้วกรณีที่ผู้บริโภคถูกยกเลิกบริการแล้ว แต่ยังต้องการรักษาเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่เดิมไว้ใช้งานต่อไป ก็มีระยะเวลา 90 วันในการไปชำระค่าบริการ เพราะไม่เช่นนั้นเลขหมายดังกล่าวอาจถูกจำหน่ายไปให้ผู้ใช้บริการรายอื่น หรือหากในระหว่างนั้นพบว่ามีการเรียกเก็บค่าบริการผิดพลาด และยังไม่ต้องการชำระค่าบริการ ก็สามารถร้องเรียนมายังสำนักงาน กสทช. ผ่านทางโทรสายด่วน 1200 ซึ่งในกรณีที่ข้อพิพาทอยู่ในระหว่างกระบวนการแก้ไขเรื่องร้องเรียน ผู้ให้บริการก็ไม่มีสิทธินำเลขหมายไปจัดสรรให้กับบุคคลอื่นได้ จนกว่าการพิจารณาแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนจะถึงที่สิ้นสุด

วาระเรื่องร้องเรียนกรณีผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน

เรื่องร้องเรียนกรณีนี้เกิดจากผู้ร้องเรียนประสบปัญหาได้รับข้อมูลจากผู้ให้บริการไม่ครบถ้วน ทำให้เสียประโยชน์ในการใช้บริการ โดยเรื่องสืบเนื่องจากผู้ร้องเรียนใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบพรีเพดของผู้ให้บริการรายหนึ่ง และมีการสมัครใช้บริการ All Together Bonus (ATB) ซึ่งเปรียบเหมือนเป็นกระเป๋าเงินที่สอง กล่าวคือเมื่อโทรศัพท์ไปยังเลขหมายของเครือข่ายเดียวกัน ในนาทีแรกจะหักค่าบริการจากกระเป๋าหลัก 1.50 บาท และนาทีต่อไปจะหักจากกระเป๋าที่สอง ต่อมาผู้ร้องเรียนได้ย้ายบริการไปยังผู้ให้บริการรายใหม่ในเครือข่ายเดียวกัน พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงรายการส่งเสริมการขายใหม่ ซึ่งพนักงานแจ้งว่ายังคงสามารถใช้บริการ ATB ได้เหมือนเดิม แต่เมื่อภายหลังผู้ร้องเรียนมีการเปลี่ยนแปลงรายการส่งเสริมการขายใหม่อีกครั้ง โดยเลือกจากเอกสารประชาสัมพันธ์ของผู้ให้บริการ ซึ่งก็ไม่มีรายการส่งเสริมการขายใดที่ระบุว่าไม่สามารถใช้ร่วมกับบริการ ATB ได้ ผู้ร้องเรียนจึงคาดหวังว่าจะยังคงสามารถใช้บริการดังกล่าวได้เช่นเดิม แต่ภายหลังเมื่อตรวจสอบการหักค่าบริการ ก็พบว่ารายการส่งเสริมการขายที่ใช้ไม่สามารถใช้ร่วมกับบริการ ATB ได้ จึงไม่พอใจและร้องเรียนมายังสำนักงาน กสทช. ซึ่งในกรณีนี้แม้ผู้ให้บริการยินยอมเปลี่ยนรายการส่งเสริมการขายของผู้ร้องเรียนให้สามารถใช้ร่วมกับบริการ ATB ได้ แต่ผู้ร้องเรียนเห็นว่า ผู้ให้บริการเจตนาแสดงข้อมูลไม่ถูกต้อง และไม่ครบถ้วน เพื่อให้ผู้ใช้บริการเข้าใจผิดและเสียเงินเพิ่มโดยไม่รู้ตัว จึงประสงค์ให้ผู้ให้บริการแก้ไขระบบการแจ้งเงื่อนไขรายการส่งเสริมการขายให้ครอบคลุมถึงสิทธิการใช้บริการ ATB ด้วย

ในกรณีนี้ ผลการวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม เห็นว่า ผู้ให้บริการมีหน้าที่ต้องแจ้งรายละเอียดของการให้บริการโทรคมนาคมในแต่ละบริการอย่างชัดเจนและครบถ้วนผ่านสื่อที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย เพื่อให้ผู้บริโภคทราบและใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกใช้บริการได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งเป็นไปตามข้อ 6 ของประกาศ กทช. เรื่องมาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ที่มีการกำหนดหน้าที่ของผู้ให้บริการในเรื่องการแจ้งรายละเอียดของการให้บริการโทรคมนาคมไว้ ดังนั้นผู้ให้บริการจึงต้องแก้ไขระบบการแจ้งเงื่อนไขรายการส่งเสริมการขายให้ครอบคลุมถึงสิทธิการใช้บริการ ATB ด้วย ซึ่งคงต้องติดตามดูว่า กทค. จะมีมติไปในทิศทางเดียวกับคณะอนุกรรมการฯ หรือไม่

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?