Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides ผจญภัยล่าสายน้ำอมฤตสุดขอบโลก

พฤหัส ๑๒ พฤษภาคม ๒๐๑๑ ๐๙:๔๒
วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์สและเจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์ ฟิล์มส์ ภูมิใจเสนอ Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides อำนวยการสร้างโดยเจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์และกำกับโดยร็อบ มาร์แชล ภาคสี่ของแฟรนไชส์ Pirates of the Caribbean นำแสดงโดยนักแสดงหลากหลายเชื้อชาติ ที่ประกอบไปด้วยจอห์นนี่ เด็ปป์, เพเนโลเป้ ครูซ, เอียน แม็คเชน, เควิน อาร์. แม็คแนลลี่, แอสทริด แบร์เจ ฟริสเบ, แซม คลาฟลินและจอฟฟรีย์ รัช ควบคุมงานสร้างโดยไมค์ สเตนสัน, แชด โอมาน, จอห์น เดอลูก้า, แบร์รี่ วัลด์แมน, เท็ด เอลเลียต และเทอร์รี่ รอสซิโอ เรื่องราวและบทภาพยนตร์โดยเท็ด เอลเลียต และเทอร์รี่ รอสซิโอ จากตัวละครที่สร้างสรรค์โดยเท็ด เอลเลียต และเทอร์รี่ รอสซิโอและสจวร์ต บีตตี้ ร่วมด้วยเจย์ วอลเพิร์ต เค้าโครงจากนิยายโดยทิม พาวเวอร์ส

Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides ได้บอกเล่าความสนุกสนาน การผจญภัยและเสียงหัวเราะที่เป็นจุดกำเนิดของแฟรนไชส์ฮิต ในรูปแบบของ Disney Digital 3D จอห์นนี่ เด็ปป์ได้กลับมารับบทกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์อีกครั้งในการผจญภัยที่อัดแน่นไปด้วยแอ็กชันเรื่องนี้ หลังจากที่ได้พบกับสาวสวยลึกลับแองเจลิก้า (เพเนโลเป้ ครูซ) เขาก็ไม่แน่ใจว่านี่คือความรัก หรือว่าเธอเป็นนักต้มตุ๋นที่หลอกใช้เขาเพื่อตามหาน้ำพุอมตะในตำนานกันแน่ เมื่อเธอบังคับให้เขาขึ้นเรือควีนแอนส์ รีเวนจ์ เรือของโจรสลัดเคราดำในตำนาน (เอียน แม็คเชน) แจ็คก็พบว่าตัวเองต้องออกผจญภัยที่ไม่คาดฝัน ซึ่งตัวเขาไม่รู้ว่าควรจะกลัวใครมากกว่ากัน ระหว่างโจรสลัดเคราดำหรือแองเจลิก้า ผู้ซึ่งเขามีความหลังที่น่าเคลือบแคลงด้วย

หลังจากไตรภาค

Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides เป็นภาคล่าสุดของภาพยนตร์ยอดนิยมที่ทำรายได้ถล่มทลายทั้งสามภาคในแฟรนไชส์ Pirates of the Caribbean ซึ่งมีชื่อว่า The Curse of the Black Pearl (2003), Dead Man’s Chest (2005) และ At World’s End (2007)

“ตัวเลขนั้นวิเศษก็จริง” ผู้อำนวยการสร้างเจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์บอก “แต่สิ่งที่เยี่ยมยิ่งไปกว่านั้นคือพวกมันบอกถึงความหมายที่หนังเหล่านั้นมีต่อผู้ชม ผู้ชมตกหลุมรักหนังแนวโจรสลัดอีกครั้งหลังจากห่างหายไปประมาณสามทศวรรษ และพวกเขาก็ตกหลุมรักจอห์นนี่ เด็ปป์ในบทกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์หัวปักหัวปำเลยครับ! มันยังมีการผจญภัยอีกมากที่รอกัปตันแจ็คอยู่ และมือเขียนบทของเรา เท็ด เอลเลียตและเทอร์รี่ รอสซิโอ ก็ได้สร้างโลกใหม่ทั้งใบให้เราได้สำรวจครับ”

จอห์นนี่ เด็ปป์ ผู้ตกหลุมรักตัวละครกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์อย่างเต็มภาคภูมิในสามภาคแรก ยินดีอย่างยิ่งกับโอกาสในการได้ออกผจญภัยอีกครั้งหนึ่ง “ไอเดียของการแสดงภาคสี่หลังจากจบ Pirates 3 อยู่ในความคิดของคุณอยู่แล้ว ประมาณว่า ‘ฉันหวังอย่างนั้นนะ’ น่ะครับ” เด็ปป์ตั้งข้อสังเกต “พอคุณเสร็จจากการรับบทกัปตันแจ็ค การสลัดบทบาทนั้นทิ้งไปก็เป็นเรื่องน่าหดหู่มาก เพราะผมชอบการสวมบทบาทนี้จริงๆ การเล่นบทกัปตันแจ็คทำให้ผมมีความสุขมาก เพราะมันเปิดโอกาสให้ผมทำอะไรเพี้ยนๆ บ้าๆ บอๆ ไม่มีเหตุผลอะไรเลยได้ในทุกสถานการณ์ ผมรู้จักเขาดีจนทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติครับ”

ทั้งเจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์และจอห์นนี่ เด็ปป์ต่างก็เห็นพ้องต้องกันในเรื่องของผู้กำกับ On Stranger Tides ว่าจะต้องเป็นร็อบ มาร์แชล ผู้กำกับ Chicago ที่ได้รับรางวัลอคาเดมี อวอร์ดสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ตามด้วยภาพยนตร์ฟอร์มเยี่ยมอย่าง Memoirs of a Geisha และ Nine

“ร็อบเป็นผู้กำกับที่ไม่กลัวกับการรับมือกับความท้าทายชิ้นใหญ่และการทำอะไรสุ่มเสี่ยงครับ” บรั๊คไฮเมอร์บอก “ยิ่งไปกว่านั้น แบ็คกราวน์ของเขาในเรื่องละครมิวสิคัล ภาพยนตร์และการออกแบบท่าเต้นก็เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการกำกับหนังเรื่อง Pirates of the Caribbean เพราะคุณต้องการคนที่จะสามารถจัดฉากให้กับแอ็กชันขนาดใหญ่และเข้าใจการเคลื่อนไหวเป็นอย่างดี ร็อบเป็นนักเล่าเรื่องที่วิเศษสุด และเขาก็มีรสนิยมชั้นเลิศด้วยครับ”

ร็อบ มาร์แชล เป็นผู้ทรงอิทธิพลอย่างแท้จริงในแวดวงภาพยนตร์อเมริกันร่วมสมัย ผู้ซึ่งสไตล์ในการถ่ายทำของเขาถูกพูดถึงว่า “เหล็กห่อด้วยกำมะหยี่” ภาพยนตร์เรื่องแรกของมาร์แชล ผู้เข้มแข็งและเป็นสุภาพบุรุษ Chicago ได้รับการเสนอชื่อชิง 13 รางวัลอคาเดมี อวอร์ด และคว้ารางวัลไปได้หกสาขา ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปี 2002 ผลงานสองเรื่องถัดไปของเขา Memoirs of a Geisha และ Nine ได้รับการเสนอชื่อรวมทั้งหมด 10 สาขา และคว้ารางวัลมาได้ 3 สาขา เขาสนใจภาพยนตร์เรื่อง On Stranger Tides ด้วยความชื่นชอบสามภาคแรกของแฟรนไชส์นี้ ความรักที่เขามีต่อเครื่องเล่นของดิสนีย์ และโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับจอห์นนี่ เด็ปป์และเจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์

“ผมก็เหมือนคนส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบเครื่องเล่นในดิสนีย์แลนด์ และสำหรับผมแล้ว ไอเดียของการสร้างหนังแอ็กชันผจญภัยที่ผมไม่เคยทำมาก่อน ก็เป็นสิ่งเหลือเชื่อ ผมเป็นคนแรกๆ ที่ไปยืนต่อแถวรอดูหนังเรื่องนี้ในช่วงซัมเมอร์ ดังนั้น ในฐานะผู้กำกับแล้ว การได้ทำอะไรแบบนี้หลังจาก Chicago, Memoirs of a Geisha และ Nine ก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นจริงๆ”

เท็ด เอลเลียต และเทอร์รี่ รอสซิโอ ทีมนักเขียนบทชื่อดัง ที่ก่อนหน้าจะเขียนบทให้กับ Pirates of the Caribbean ภาคแรก เคยเขียนบทภาพยนตร์คลาสสิกอย่าง Aladdin และ Shrek มาแล้ว ได้ล้วงลึกลงไปอีกในหีบสมบัติของโจรสลัดและประวัติศาสตร์ ตำนานเล่าขานและเทพปกรณัมของการล่องทะเลสำหรับ On Stranger Tides โดยได้เค้าโครงบางส่วนมาจากนิยายชื่อเดียวกันของทิม พาวเวอร์ส “แนวทางหลักของเราคือการสร้างเรื่องราวที่สามารถอยู่ลำพังได้ แทนที่จะเป็นการสานต่อของไตรภาคครับ” รอสซิโอตั้งข้อสังเกต

เมื่อเรื่องราวของทั้งวิลล์ เทิร์นเนอร์ (ออร์ลันโด้ บลูม) และอลิซาเบธ สวอนน์ (เคียร่า ไนท์ลีย์) สิ้นสุดลงใน At World’s End เอลเลียตและรอสซิโอก็ต้องการจะสร้างตัวละครใหม่ๆ แต่ก็ยังคงเก็บตัวละครตัวโปรดของผู้ชมในแฟรนไชส์นี้เอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกัปตันเฮ็คเตอร์ บาร์บอสซา (จอฟฟรีย์ รัช), โจชามี กิ๊บส์ (เควิน อาร์. แม็คแนลลี่) และที่ขาดไม่ได้ กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ นิยายของทิม พาวเวอร์ส ได้นำเสนอโจรสลัดเคราดำในตำนาน โจรสลัดผู้เป็นที่เกรงกลัวมากที่สุด เป็นตัวละครหลัก และเป็นตัวร้ายที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งจะพึงมี นอกจากนั้นแล้ว นางเอกคนใหม่ก็ยังปรากฏกาย เธอคือแองเจลิก้า หญิงสาวผู้สามารถต่อกรกับกัปตันแจ็คได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

เอลเลียตและรอสซิโอร่วมเขียนบทเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดกับเจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์, ร็อบ มาร์แชล, จอห์น เดอลูก้า, จอห์นนี่ เด็ปป์และผู้ควบคุมงานสร้างและหัวหน้าการถ่ายทำของบรั๊คไฮเมอร์ ไมค์ สเตนสันและแชด โอมาน “จอห์นนี่มีบทบาทสำคัญในการออกแบบ On Stranger Tides ครับ” เทอร์รี่ รอสซิโอบอก “ตั้งแต่ในเรื่องของเรื่องราว ไปจนถึงการออกแบบตัวละคร ฉาก ธีม และแน่นอนเรื่องของไดอะล็อคด้วย ถ้าไม่มีเด็ปป์ เราคงจะไม่มีบทภาพยนตร์แบบนี้หรอกครับ เขารู้จักแจ็ค สแปร์โรว์อย่างลึกซึ้ง และคุณก็อยากจะฟังทุกความคิดเห็นและสัญชาตญาณของเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ ผมจินตนาการถึงตัวละครแจ็ค สแปร์โรว์ และจอห์นนี่ใช้ชีวิตเป็นเขาครับ”

รวมทีมนักแสดง

เจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์, ร็อบ มาร์แชล, เท็ด เอลเลียตและเทอร์รี่ รอสซิโอต่างก็รู้ดีถึงประโยชน์ในการพัฒนาตัวละครใหม่ๆ และการสานต่อเรื่องราวของตัวละครที่ยังคงอยู่ แต่สิ่งที่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นคือกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์จะยังคงอยู่ในฐานะกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์เช่นเคย “มันมีเรื่องของการเปลี่ยนแปลงตัวละคร การค้นพาตัวเองเจอ อะไรพวกนั้นครับ” จอห์นนี่ เด็ปป์ตั้งข้อสังเกต “แต่ผมคิดว่ากัปตันแจ็คค้นพบตัวเองมานานแล้วล่ะครับ”

รอสซิโอให้ความเห็นว่า “แจ็ค สแปร์โรว์เป็นหนึ่งในตัวละครที่ไม่เปลี่ยนแปลง ผู้ชมไม่อยากจะให้เขาเปลี่ยนแปลงและผมก็ไม่อยากให้เขาเปลี่ยนแปลงด้วย แต่เขาจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในตัวละครรอบตัวเขา มันสนุกอย่างยิ่งในการจับให้แจ็คมาเจอกับแองเจลิก้า เพราะแจ็คยังไม่เคยเจอกับผู้หญิงที่ต่อต้านเขาจริงๆ จังๆ และสามารถเทียบเขาได้ในเรื่องความเห็นแก่ตัวและความเจ้าเล่ห์น่ะครับ”

ในความเป็นจริงแล้ว นอกเหนือจากโอกาสในการได้กลับมาร่วมงานกับจอห์นนี่ เด็ปป์ ผู้ซึ่งเธอเคยร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Blow มาก่อน แง่มุมนั้นเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เพเนโลเป้ ครูซ นักแสดงหญิงเจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ผู้โด่งดังในเวทีโลก สนใจภาพยนตร์เรื่องนี้ และที่สำคัญ ครูซก็เป็นแฟนของแฟรนไชส์นี้อยู่แล้วด้วย “ฉันเป็นแฟนของสามภาคแรกค่ะ” เธอสารภาพ “และสิ่งที่จอห์นนี่ทำในหนังพวกนั้นด้วย นี่เป็นการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่สำหรับนักแสดงทุกคน ทุกวันเป็นการผจญภัยค่ะ คุณไม่มีวันเบื่อเลย”

สำหรับ ครูซ นี่ยังเป็นโอกาสที่ทำให้เธอได้ร่วมงานกับร็อบ มาร์แชล ผู้กำกับเธอใน Nine ที่ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดอีกครั้ง “ประสบการณ์สองครั้งที่เยี่ยมที่สุดเท่าที่ฉันทำงานมาในวงการนี้คือการได้ร่วมงานกับจอห์นนี่และร็อบค่ะ” ครูซบอก “ร็อบสามารถรับมือกับความกดดันได้มหาศาลและทำตัวเป็นสุภาพบุรุษกับทุกคน เขาเป็นคนที่พิเศษมากๆ ซึ่งฉันคิดว่าทุกคนคงจะบอกกับคุณอย่างเดียวกัน และฉันก็จอห์นนี่ก็มีความสุขกับการได้ร่วมงานกันเมื่อสิบปีก่อน ฉันก็เลยแฮปปี้ที่ได้ร่วมงานกับเขาอีกครั้งหนึ่ง เขาช่างถ่อมตัว ฉลาดและเป็นหนึ่งในคนที่ตลกที่สุดเท่าที่ฉันรู้จัก เขามีพรสวรรค์ที่เหลือเชื่อ แล้วก็เป็นสุภาพบุรุษด้วย เหมือนร็อบเลยค่ะ”

“มีนักแสดงไม่กี่คนหรอกครับที่ผมคิดว่าสามารถแสดงเคียงบ่าเคียงไหล่จอห์นนี่ เด็ปป์ในบทแจ็ค สแปร์โรว์ได้” ร็อบ มาร์แชลบอก “คุณต้องการนักแสดงหญิงที่มีคุณสมบัติหลายอย่าง ทั้งมีอารมณ์ขัน มีเสน่ห์เย้ายวน แข็งแกร่ง ทรงพลัง มีความงาม และมีความรู้สึกรุนแรง หลังจากได้ร่วมงานกับเพเนโลเป้ ผมก็รู้ว่าเธอมีคุณสมบัติทั้งหมดนี้ครับ”

“แองเจลิก้าเคยมีความหลังกับแจ็ค สแปร์โรว์ แต่เขาทรยศเธอและหักอกเธอค่ะ” ครูซอธิบาย “ตอนนี้ เธอมีความสุขกับการรอคอยที่จะได้แก้แค้นเขา แองเจลิก้ามีความนึกคิดแบบโจรสลัด และเธอก็เป็นจอมบงการ เป็นนักโกหกและเป็นนักแสดงชั้นเยี่ยมด้วย เธอสามารถหลอกคนได้ แต่เธอก็มีจิตใจดีงาม เธอต้องการแจ็ค สแปร์โรว์เหมือนที่เขาต้องการเธอ เพื่อไปให้ถึงน้ำพุอมตะค่ะ”

สำหรับบทที่ท้าทายของโจรสลัดชื่อฉาวโฉ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ บรั๊คไฮเมอร์และมาร์แชลได้เลือกเอียน แม็คเชน ผู้ซึ่งมีผลงานที่โดดเด่นทั้งจอแก้วและจอเงินยาวนานตลอดเกือบ 50 ปี และร้อนแรงยิ่งกว่าแต่ก่อนเนื่องด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยมของเขาในบทอัล สแวร์เรนเกนในซีรีส์เวสเทิร์นเอชบีโอเรื่อง Deadwood

“เคราดำอาจเป็นโจรสลัดที่อื้อฉาวที่สุดเท่าที่เคยมีชีวิตอยู่ครับ” แม็คเชนตั้งข้อสังเกต “มันมีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับตัวเขา และไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ตอนนี้เขาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของตำนานโจรสลัดไปแล้วล่ะครับ”

“ความงดงามของตัวละครตัวนี้” จอห์นนี่ เด็ปป์พูดถึงศัตรูของกัปตันแจ็คใน On Stranger Tides ว่า “โดยผิวเผินแล้ว เขาดูเหมือนคนมีเหตุผล แต่ยิ่งคุณรู้จักเขามากเท่าไหร่ คุณก็จะตระหนักได้ว่าเขาเป็นนักฆ่าเลือดเย็น ที่ไร้หัวใจ เขาสามารถหลอกลวงทุกคนเพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการ ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาเป็นตัวอันตราย และผมก็คิดว่าไม่มีใครที่เหมาะกับบทนี้ยิ่งไปกว่าเอียน แม็คเชนอีกแล้วล่ะครับ”

ผู้ที่กลับมารับบทเฮ็คเตอร์ บาร์บอสซา เป็นครั้งที่สี่ก็คือเจฟฟรีย์ รัช ผู้ซึ่งใน Pirates ภาคก่อนๆ ได้สร้างหนึ่งในตัวละครสุดเจ้าเล่ห์ ที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมมากที่สุดในแฟรนไชส์นี้ “ผมตื่นเต้นมากตอนที่ได้ยินว่าจะมีภาคสี่เพราะผมชื่นชอบการได้ร่วมงานกับจอห์นนี่ครับ” รัชบอก “ผมพบว่าความขัดแย้งต่อเนื่องระหว่างแจ็ค สแปร์โรว์และบาร์บอสซาเป็นอะไรที่เล่นแล้วสนุกมาก”

“แม้กระทั่งตอนที่กัปตันแจ็คและบาร์บอสซาอยู่ฝ่ายเดียวกัน" จอห์นนี่ เด็ปป์ตั้งข้อสังเกต "พวกเขาก็มักจะอยู่คนละข้าง ผมรู้สึกเสมอว่าตัวละครทั้งสองตัวนี้ทะเลาะกันเหมือนแม่บ้านแก่ๆ ในวงไพ่ ที่คอยจิกกัดกันแม้แต่เรื่องที่เล็กน้อยที่สุด ผมกับเจฟฟรีย์มองความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นแบบนี้ตั้งแต่วันแรก และเขาก็เป็นคู่ปรับที่คู่ควรจริงๆ ครับ"

ผู้ที่กลับมาร่วมแสดงใน Pirates ภาคนี้ด้วย ในบทโจชามี กิ๊บส์ ลูกน้ำเค็ม คือเควิน อาร์. แม็คแนลลี่ ผู้แสดงใน Pirates of the Caribbean ครบทั้งสี่ภาค "ในตอนที่พวกเขามาขอให้ผมเล่นหนัง Pirates อีกเรื่อง" แม็คแนลลี่สารภาพ "ผมก็แปลกใจเพราะตั้งแต่หลายปีก่อนที่เราเริ่มต้นถ่ายทำ ผมไม่เคยคิดเลยซักนิดว่าเราจะยังคงสร้างมันมาจนถึงวันนี้! มันน่าตื่นเต้นจริงๆ เพราะมันหาได้ยากนะครับที่คุณจะมีโอกาสได้กลับไปรับบทตัวละครตัวเดิม ได้เห็นพวกเขาอีกครั้งหนึ่งน่ะครับ"

สำหรับผู้ที่รับบทตัวเอกรุ่นหนุ่มสาวของเรื่อง ไซเรนา นางเงือกสาว ผู้มีเสน่ห์เย้ายวนใจ และมิสชันนารีหนุ่ม ฟิลิป สวิฟท์ บรั๊คไฮเมอร์และมาร์แชล ร่วมด้วยฟรานซีน ไมส์เลอร์ ผู้กำกับฝ่ายคัดเลือกนักแสดงฝั่งอเมริกาและลูซี บีแวนและซูซี ฟิกกิส ผู้กำกับฝ่ายคัดเลือกนักแสดงฝั่งอังกฤษ ได้ออกค้นหานักแสดงที่เหมาะสมทั่วโลก และผู้ที่ได้รับเลือกจากตัวเลือกหลายพันคนก็คือแอสทริด แบร์เจ ฟริสเบ ชาวฝรั่งเศสและแซม คลาฟลิน ชาวอังกฤษ ทั้งคู่มีอายุยี่สิบต้นๆ และมีประสบการณ์การแสดงมาบ้างแล้วในประเทศบ้านเกิด แต่พวกเขายังไม่เคยผ่านงานระดับโลกมาก่อน

“การทดสอบหน้ากล้องของทั้งแอสทริดและแซมทำให้เราตื่นเต้นอย่างมากครับ เรารู้เลยว่าพวกเขามีคุณสมบัติที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมบนจอเงินได้" เจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์บอก

“ผมรับบทเป็นมิสชันนารีชื่อฟิลิป สวิฟท์ ผู้ยืนหยัดเพื่อสิ่งที่เขาเชื่อและพยายามจะแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดของเคราดำครับ" คลาฟลินตั้งข้อสังเกต "ระหว่างเรื่อง ฟิลิปจะได้ผ่านการผจญภัยที่น่าประหลาดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้พบกับไซเรนา เขาไม่เคยได้พบปะพูดคุยกับผู้หญิงมาก่อน มันก็เลยเป็นเหตุการณ์ที่พลิกผันสุดๆ เลยครับ"

แบร์เจ-ฟริสเบ พูดถึงตัวละครของเธอว่า "ไซเรนาแตกต่างจากนางเงือกคนอื่นๆ เพราะในเรื่อง เธอได้ผูกพันกับตัวละครมนุษย์ ซึ่งก็ทำให้ตัวเธอเปลี่ยนแปลงไป ฟิลิปเปลี่ยนไซเรนา และไซเรนาก็เปลี่ยนฟิลิป เพราะนับตั้งแต่วินาทีแรกที่ทั้งคู่ได้พบกัน พวกเขาก็เห็นสิ่งที่คล้ายคลังกับตัวเองในอีกฝ่ายค่ะ"

นักแสดงคนอื่นๆ ที่เหลือประกอบไปด้วยทีมนักแสดงนานาชาติที่โด่งดังทั้งสิ้น ซึ่งได้แก่สตีเฟน เกรแฮม นักแสดงชาวอังกฤษ ผู้เคยร่วมแสดงกับเด็ปป์มาก่อนใน Public Enemies ในบทสครัม, ริชาร์ด กริฟฟิธส์, โรเจอร์ อัลแลม, เกร็ก เอลลิสและเดเมียน โอ' แฮร์ (สองคนหลังกลับมารับบทโกรฟส์และยิลเล็ตต์อีกครั้ง), ร็อบบี้ เคย์ วัย 13 ปี เด็กคนแรกที่รับบทโจรสลัดในเรื่อง, ออสการ์ แจนาดาและฮวน คาร์ลอส เวลลิโด ชาวสเปน, ยูกิ มัตซุซากิ ชาวญี่ปุ่น, เจ็มมา วอร์ด ซูเปอร์โมเดลชาวออสเตรเลีย ในบทนางเงือกทามาราและสาวสวยชาวอาร์เจนไตน์ จอร์เจลินา ไอรัลดี้ ในบทนางเงือกเช่นเดียวกัน

ผู้ที่กลับมาร่วมแสดงใน Pirates ภาคนี้อีกครั้งคือคีธ ริชาร์ดส์ มือกีตาร์แห่งโรลลิง สโตนส์ วงดนตรีในตำนาน ผู้กลับมารับบทกัปตันที้กอีกครั้งหนึ่ง

โลเกชันและฉาก: ภาพวิชวลที่น่าตื่นตาตื่นใจ

“เราอยากจะพาผู้ชมร่วมเดินทางในการผจญภัยที่อยู่นอกเหนือขอบเขตและแตกต่างจากสิ่งที่พวกเขาเคยเห็นใน Pirates ภาคก่อนๆ ครับ” เจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์ตั้งข้อสังเกต “ใน Stranger Tides เราได้ร่วมงานกับผู้ออกแบบงานสร้างเจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ด จอห์น ไมห์ ผู้ซึ่งร็อบ มาร์แชลเลือกเข้ามา และเราก็ได้ถ่ายทำในโลเกชันใหม่ๆ ที่มีตั้งแต่ฮาวาย คาริบเบียน ไปจนถึงลอนดอนด้วยครับ”

ทีมผู้สร้างและไมห์ (ผู้ได้รับรางวัลออสการ์จากงานจำลองยุคแจ๊สที่น่าตื่นตาตื่นใจใน Chicago และการสร้างเมืองเกียวโตที่น่าอัศจรรย์ใจของเขาใน Memoirs of a Geisha) ได้ร่วมทีมเพื่อเนรมิตให้ไอเดีย คอนเซ็ปต์และความฝันสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นความจริงในรูปแบบสามมิติ ซึ่งทีมที่ว่านั้นประกอบไปด้วยนักตกแต่งฉาก กอร์ดอน ซิม ผู้ร่วมรับอคาเดมี อวอร์ดกับไมห์สำหรับ Chicago, หัวหน้าผู้กำกับศิลป์จากอเมริกา โทมัส วอธ, หัวหน้าผู้กำกับศิลป์จากอังกฤษ แกรี ฟรีแมนและบรรดานักออกแบบ นักเขียนดราฟท์ และศิลปินจากฝั่งแปซิฟิคและแอตแลนติกของ Pirates

“ถึงแม้ว่าเราจะถ่ายทำ Pirates ทั้งสามภาคในคาริบเบียนจริงๆ เป็นหลัก” เจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์ตั้งข้อสังเกต “สำหรับ On Stranger Tides เราต้องการภูมิประเทศที่งดงามราวกับเป็นอีกโลกหนึ่งเลยครับ” หลังจากเสาะหาโลเกชันไปทั่ว ทีมผู้สร้างก็ตัดสินใจเลือกเกาะคาวีและโออาฮู ในฮาวาย ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นผืนแผ่นดินและทะเล

“เกาะทั้งสอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาวี มีป่า ภูเขาและชายหาดที่พิเศษสุดครับ” ร็อบ มาร์แชลกล่าวเสริม “พวกมันมีขนาดใหญ่ อุดมสมบูรณ์และน่าทึ่งจริงๆ ส่วนโออาฮูก็มีภูมิประเทศที่งดงาม นอกจากนั้นแล้ว เราก็ถ่ายทำในทะเล ซึ่งรวมถึงบนเรือควีนแอนส์ รีเวนจ์ ของโจรสลัดเคราดำด้วยครับ”

ตามที่จอห์น ไมห์ได้จินตนาการ เรือควีนแอนส์ รีเวนจ์ ซึ่งเป็นเรือของเคราดำ เป็นสัตว์ร้ายแห่งท้องทะเล ที่น่าเกรงขาม ดุดันและงดงามจนน่ากลัว เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงมุมมองที่มืดหม่นต่อชีวิต…และความตายของเคราดำเอง เรือลำนี้มีการใช้โครงกระดูกของเหยื่อของเคราดำในการออกแบบ ด้วยการใช้กระดูกแขนและขาเป็นโครงสร้าง และใช้หัวกะโหลกเป็นผนัง และมีไอเดียที่ว่าเคราดำได้เผาร่างเหยื่อของตัวเองในโคมไฟขนาดใหญ่ ที่อยู่ท้ายเรือ ทั้งหมดนี้ทำให้ฉากเรือที่ใช้งานได้สมบูรณ์ลำนี้เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ หัวเรือถูกสร้างขึ้นจากธงเคราดำจริงๆ ซึ่งเป็นรูปโครงกระดูกมีเขา มือหนึ่งถือแก้วไวน์ อีกมือหนึ่งถือหอก ราวกับเขากำลังดื่มให้กับเหยื่อของตัวเอง

เรือควีนแอนส์ รีเวนจ์ไม่ใช่เพียงฉากสำหรับซีนแอ็กชันและเรื่องราวโกลาหลเหนือธรรมชาติ แต่มันยังเป็นฉากสำหรับการเต้นรำใต้แสงจันทร์ ที่เต็มไปด้วยความโรแมนติก ความหลอกลวงและความเจ้าเล่ห์ของกัปตันแจ็คและแองเจลิก้า ที่ออกแบบท่าเต้นโดยผู้ควบคุมงานสร้าง จอห์น เดอลูก้า สำหรับดนตรีแมนโดลา ที่เล่นโดยสตีเฟน เกรแฮมในบทสครัมอีกด้วย

หลังจากที่ทิ้งชายหาดที่สวยงามของฮาวายไว้เบื้องหลัง ทีมงาน On Stranger Tides ก็บินไปลอสแองเจลิส ที่ซึ่งพวกเขาได้ถ่ายทำนอกชายฝั่งลองบีช บนเรือเอชเอ็มเอส เซอร์ไพรส์ เรือที่จำลองมาจากเรือฟริเกทอังกฤษปี 1757 ที่ชื่อเอชเอ็มเอส โรส ซึ่งถูกใช้เป็นเรือโพรวิเดนซ์ ภายใต้การบังคับบัญชาของกัปตันบาร์บอสซา

หลังจากนั้น พวกเขาก็เดินทางไปยังกองถ่ายที่ไวท์แค็ป เบย์ ที่มีความยาว 343 ฟุต และลึก 22 ฟุต ภายใต้การออกแบบของจอห์น ไมห์ และ สร้างขึ้นโดยฝีมือยอดเยี่ยมของเกร็ก คัลลัส ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายก่อสร้างของอเมริกา และทีมงานของเขาที่แผนกฟอลส์ เลคของยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ในลอสแองเจลิส ฉากไวท์แค็ป เบย์ ซึ่งเหมาะสำหรับฉากผาดโผนซับซ้อนที่เกี่ยวกับน้ำ และประกอบไปด้วยแทงค์น้ำคอนกรีตที่เชื่อมต่อกัน เป็นสิ่งแวดล้อมภายใต้การควบคุมอย่างสมบูรณ์ ซึ่งสามารถสร้างฉากขึ้นมาภายใน หรือด้านบน แล้วปล่อยให้น้ำเข้าท่วมได้

“ไวท์แค็ป เบย์เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางเพื่อตามหาน้ำพุอมตะครับ” ไมห์บอก “ไวท์แค็ป เบย์เป็นที่ที่นางเงือกมารวมตัวกันหลายร้อยปี สร้างความสะพรึงกลัวให้กับบรรดากะลาสีและโจรสลัดทุกผู้ทุกนามตลอดมา”

นอกเหนือจากไซเรนา ที่รับบทโดยแอสทริด แบร์เจ-ฟริสเบแล้ว นางเงือก “จริงๆ” ยังมาในรูปแบบของนางแบบ/นักแสดงสาวสวยเจ็ดคนและทีมนักว่ายน้ำซิงโครไนซ์ 22 คน ซึ่งบางคนเคยลงแข่งในโอลิมปิคที่ปักกิ่งเมื่อปี 2008 ที่จัดกลุ่มและออกแบบท่าให้โดยแคนเดซ ฮิปป์และสวมชุดโมชัน แคปเจอร์ เพื่อการเปลี่ยนให้เป็นนางเงือก “ในหนัง” โดยซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายวิชวล เอฟเฟ็กต์ ชาร์ลส์ กิ๊บสันและเบน สโนว์จากอินดัสเทรียล ไลท์ แอนด์ เมจิค

หลังจากนั้น ที่สุดแล้วทีมงาน On Stranger Tides ก็พบตัวเองอยู่ในทะเลคาริบเบียนจริงๆ เมื่อพวกเขาบินจากลอสแองเจลิสไปเปอร์โตริโกเพื่อถ่ายทำฉากคัสติลโล ซาน คริสโตบัลในโอลด์ ซาน ฮวน สำหรับภายนอกของปราสาทสเปนและเกาะร้างคลาสสิกที่เรียกว่า พาโลมินิโต ที่อยู่นอกชายฝั่งตะวันออกของเมืองฟาจาร์โด

ช่วงสุดท้ายของการถ่ายทำพาทีมงานและนักแสดงไปยังอังกฤษ ในโลเกชันที่แปลกประหลาดสำหรับแฟรนไชส์ Pirates of the Caribbean “หนึ่งในแง่มุมที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับ On Stranger Tides” เจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์กล่าว “คือนี่เป็นครั้งแรกที่เราใช้ฉากของลอนดอนในเรื่อง แทนที่จะเป็นป่า มหาสมุทร หรือเมืองชายทะเลของคาริบเบียน มันช่วยสร้างลุคและความรู้สึกที่แตกต่างให้กับหนังเรื่องนี้จริงๆ ครับ”

แม้ว่าไพน์วู้ด สตูดิโอส์ อันโด่งดัง ที่ตั้งอยู่นอกกรุงลอนดอนจะเป็นสถานที่กว้างขวางให้จอห์น ไมห์, หัวหน้าผู้กำกับศิลป์จากอังกฤษ แกรี ฟรีแมน และทีมงานแผนกศิลป์ของพวกเขา ได้สร้างฉากของพวกเขา สถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ที่โด่งดังที่สุดของภูมิภาคนี้และสถานที่อื่นๆ ก็ยังคงถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ On Stranger Tides ด้วยเช่นกัน

โอลด์ รอยัล นาวัล คอลเลจในกรีนนิช ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นศูนย์รวมอาคารเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่สมัยปลายศตวรรษที่ 17 ไปจนถึงกลางศตวรรษที่ 18 กลายเป็นสถานที่ถ่ายทำนานกว่าสามสัปดาห์

พื้นที่ส่วนใหญ่ของโอลด์ รอยัล นาวัล คอลเลจ ซึ่งรวมถึงภายนอกของวิหารเซนต์ปีเตอร์และเซนต์ปอล, แกรนด์ สแควร์, ควีน แมรี คอร์ทและอาคารที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยกรีนนิชและไทรนิตี้ คอลเลจ ออฟ มิวสิค ยังถูกใช้ในซีเควนซ์ไล่ล่ากันทางรถม้าที่แสนตื่นเต้นของเรื่องอีกด้วย

แต่ฉากที่ท้าทายที่สุดสำหรับจอห์น ไมห์ก็หนีไม่พ้นฉากน้ำพุอมตะ คอนเซ็ปต์สุดท้ายของน้ำพุอมตะถูกออกแบบโดยไมห์และทีมผู้กำกับศิลป์ของเขา และถูกสร้างขึ้นอย่างงดงามโดยแผนกก่อสร้างของแอนดี้ อีวานส์ บนสเตจอัลเบิร์ต อาร์. บร็อคโคลี่ 007 ที่เลื่องชื่อในไพน์วู้ด สตูดิโอส์ ซึ่งเป็นสตูดิโอที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ฉากนี้ ซึ่งใช้พื้นที่แทบส่วนของอาณาบริเวณ 59,000 ตารางฟุตที่มีอยู่ ซึ่งเป็นสเตจเดียวที่ใหญ่พอจะรองรับวิสัยทัศน์ของไมห์ได้ ใช้เวลาสร้างนานสามเดือน

ภาพภายนอกอื่นๆ ในอังกฤษถ่ายทำที่แฮมป์ตัน คอร์ท พาเลซในกรุงลอนดอน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นวังของกษัตริย์เฮนรี่ที่แปด สำหรับฉากที่กัปตันแจ็คถูกจับกุมตัวโดยทหารองครักษ์ และอาคารโนล เฮาส์ในเซเวนโอ๊คส์, เคนท์ คฤหาสน์ชนบทสมัยศวรรษที่ 15 ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยอาร์คบิช็อปแห่งแคนเตอร์เบรี และเป็นที่พำนักของตระกูลแซ็ควิลล์ตั้งแต่ปี 1604

ลุคตัวละคร

กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์, แองเจลิก้า, เฮ็คเตอร์ บาร์บอสซา, โจรสลัดเคราดำ, กิ๊บส์, ฟิลิป, ไซเรนา และตัวละครอีกกว่าพันตัวใน On Stranger Tides แสดงให้เห็นถึงการร่วมแรงร่วมใจกันของนักแสดงผู้สวมบทบาท ทีมผู้สร้าง และทีมงานอื่นๆ ที่ดูแลในเรื่องของเสื้อผ้า ผม เมคอัพและอุปกรณ์ประกอบฉาก

นี่เป็นครั้งที่สี่แล้วที่เพ็นนี โรส ผู้น่ายกย่อง ได้เสาะหาเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมสำหรับทั้งตัวละครหลัก ตัวละครสมทบ รวมไปถึงตัวประกอบหลายร้อยตัวไปทั่วโลก “พวกเสื้อผ้าถูกตัดเย็บขึ้นมาอย่างสมจริงค่ะ” โรสยืนยัน “มันไม่ได้มีกิมมิคสมัยใหม่เลย คุณจะไม่เจอซิปหรือตะขอเกี่ยวในเสื้อผ้าพวกนี้หรอกค่ะ!”

ด้วยความที่ว่า “กัปตันแจ็คค้นพบตัวเองนานแล้ว” อย่างที่จอห์นนี่ เด็ปป์ว่าเอาไว้ มันก็เลยไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปยุ่งกับลุคที่ตอนนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเจ้าตัวไปแล้ว แม้ว่าผมเดร็ดล็อคของเขาก็ยาวขึ้น บางเส้นกลายเป็นสีเทา ส่วนบางเส้นก็มีสีที่จางลงด้วยความที่โดนแสงแดดจากทะเลคาริบเบียนแผดเผา นอกจากนั้นแล้ว ที่แก้มซ้ายของเขายังปรากฏรอยกากบาทสีแดงลึกลับ และฟันทองของเขาก็ฝังไข่มุกดำเอาไว้ (แทนที่ซี่ที่ถูกแขวนไว้ตรงผ้าโพกศีรษะของเขา) แต่ลุคหลักๆ ที่ถูกสร้างขึ้นใน The Curse f the Black Pearl ก็ยังคงเดิม

สำหรับเพเนโลเป้ ครูซในบทแองเจลิก้า โรสต้องการภาพของโจรสลัดโรแมนติก เธอได้ใช้แจ็คเก็ตของผู้ชายมาตัดทรงสำหรับผู้หญิง ด้วยกางเกงและบู๊ททรงสูง ที่สำคัญ เธอได้ให้ครูซสวมหมวกติดขนนก ซึ่งช่วยสร้างสีสันที่เหมาะกับตัวละครของเธอด้วย

สำหรับโจรสลัดเคราดำ ที่รับบทโดยเอียน แม็คเชน แม้ว่าจะมีข้อมูลทางประวัติศาสตร์มากมายเกี่ยวกับโจรสลัดตัวจริง และทีมงานก็เตรียมพร้อมที่จะเสริมแต่งสีสันให้กับเขาในแบบของพวกเขาเอง “เราต่างก็รู้จักเคราดำค่ะ” โรสบอก “เขาไม่ได้ดูดีนัก และก็ค่อนข้างน่าเกลียดน่ากลัว แต่แน่นอนว่าสำหรับหนังเรื่องนี้ เราอยากให้เขาดูดีค่ะ”

โรสคิดลุคสิงห์มอเตอร์ไซค์ที่ทำให้เอียน แม็คเชนต้องสวมชุดหนังเก่าๆ และกระดุม เมื่อมีการเพิ่มเครายาวที่ถักเป็นเปีย อันเป็นเครื่องหมายการค้าของเขาเข้าไป เอียน แม็คเชนก็แปลงร่างกลายเป็นโจรสลัดเคราดำที่น่าสะพรึงกลัว

ตัวละครตัวหนึ่งจาก Pirates of the Caribbean ภาคที่ผ่านๆ มา ผู้ซึ่งผ่านการเปลี่ยนแปลงมากพอควรใน On Stranger Tides คือเฮ็คเตอร์ บาร์บอสซา ในภาพยนตร์เรื่องนี้ บาร์บอสซากลายเป็นเจ้าหน้าที่ของทางการ เขาก็เลยได้สวมเครื่องแบบผู้บังคับบัญชาของทหารเรือหลวง ซึ่งแตกต่างอย่างมากกับชุดโจรสลัดที่รัชเคยสวมในอดีต

“PIRATES” ในสามมิติ

“วิธีเดียวที่เราจะนำ Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides เข้าฉายในรูปแบบ 3D” เจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์บอก “คือการที่หนังเรื่องนี้จะถ่ายทำใน 3D จริงๆ และนี่ก็เป็นหนึ่งในผจญภัยฟอร์มยักษ์เรื่องแรกๆ ที่ถ่ายทำในระบบ 3D ตามโลเกชันต่างๆ แทนที่จะเป็นการถ่ายทำกับกรีนสกรีนหรือในซาวน์สเตจทั้งหมดครับ”

Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides ถ่ายทำในป่า บนชายหาด และในท้องถนนของกรุงลอนดอนศตวรรษที่ 18 ดังนั้น การรับมือกับสภาพแวดล้อมจึงยุ่งยากขึ้นเมื่อต้องใช้กล้องสองตัว แทนที่จะเป็นตัวเดียว และใช้ทั้งเวลาและงบประมาณมากขึ้น แต่อย่างที่บรั๊คไฮเมอร์ตั้งข้อสังเกตว่า “การถ่ายทำในดิจิตอล 3D ช่วยสร้างมิติและขนาดที่แท้จริงให้กับหนังเรื่องนี้ครับ”

ร็อบ มาร์แชลกล่าวเสริมว่า “เทคโนโลยีน่าตื่นเต้นมากเพราะคุณจะรู้สึกเหมือนว่าคุณอยู่ในหนัง มันเป็นวิธีการมอง Pirates of the Caribbean แบบใหม่เพราะตอนนี้คุณเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์นั้นแล้ว”

นอกจากนี้ On Stranger Tides ยังเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ถ่ายทำในระบบดิจิตอล 3D ด้วยกล้องดิจิตอล RED ที่ล้ำสมัยอีกด้วย

เมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์…

Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides มีแนวโน้มที่จะสานต่อความยิ่งใหญ่ของแฟรนไชส์ Pirates ด้วยเรื่องราวผจญภัยสุดอลังการอัดแน่นไปด้วยแอ็กชัน ที่นำแสดงโดยตัวละครเก่าและใหม่ อารมณ์ขันและความน่าตื่นเต้น ฉากน่าทึ่งและโลเกชันน่าอัศจรรย์ พร้อมๆ กันกับความพยายามในการสร้างสรรค์ความทรงจำดีๆ ให้กับคอหนังทั่วโลก ความทรงจำที่ดีที่สุดจะยังคงอยู่ภายในใจทีมผู้สร้าง ผู้ซึ่งการร่วมงานกันใน Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides ได้นำพวกเขาไปสู่ขอบเขตด้านการสร้างสรรค์ใหม่ และมิตรภาพใหม่ด้วย

ตามที่เจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์ได้สรุปเอาไว้ว่า “ความทรงจำที่ดีที่สุดในการถ่ายทำ Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides คือความสัมพันธ์กับนักแสดงและทีมงานครับ จอห์นนี่กลับมา จอฟฟรีย์กับเควินก็กลับมา และตอนนี้ เราก็ได้สานสายสัมพันธ์ใหม่กับร็อบ, จอห์น [เดอลูก้า], เพเนโลเป้, เอียน, แซมและแอสทริดด้วย ความสนุกสนานก็คือการสร้างเพื่อนใหม่ๆ และการได้ร่วมงานกับพวกเขาครับ”

และด้วยบทเพลงประกอบโดยฮันส์ ซิมเมอร์ เจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ซึ่งรวมถึงการร่วมงานเป็นครั้งแรกกับโรดริโก อิ กาเบรียลลา คู่หูมือกีตาร์ชื่อดังชาวเม็กซิกัน Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides ก็พร้อมแล้วที่จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศในวันที่ 19 พฤษภาคม ปี 2011 และในระบบ Disney Digital 3D?, IMAX 3D

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา