“ถ้าพูดถึงฉากขนลุกที่ผมรู้สึกว่า ซาบซึ้งใจที่ได้เข้าฉากกับพี่ป๊อกก็มีหลายฉากอยู่เหมือนกันครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากที่แทนกับแม่ต่างฝ่ายต่างระเบิดอารมณ์ใส่กัน ซึ่งต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ผมเองก็ยังไม่ค่อยรู้มาก่อนนะครับว่าพี่ป๊อกเป็นคนอย่างไร แต่พอถึงเวลาที่ต้องถ่ายทำสำหรับฉากนี้ผมก็เลยบอกกับพี่ป๊อกว่าพี่ป๊อกครับพี่ป๊อกช่วยตบหน้าผมจริงๆ หน่อยครับจะได้มีอารมณ์ และมีความรู้สึกจริงๆ พี่ป๊อกเป็นคนที่น่ารักมากพี่ป๊อกบอกว่าฉากนี้เขาจะไม่ทำร้ายร่างกาย แต่รู้มั้ยครับกลายเป็นว่าพอถึงเวลาถ่ายทำพี่ป๊อกเข้าฉากนี้ด้วยอารมณ์น้ำเสียงด้วยแอ็คติ้งที่บอกได้เลยว่า แค่คำพูดแค่น้ำเสียงของพี่ป๊อกทำให้เรารู้สึกหูยมันยิ่งใหญ่กว่าการที่ตบหรือว่าทำร้ายร่างกายหรือว่าทำอะไรที่มันรุนแรงกว่าอีก แค่แววตากับน้ำเสียงที่พี่ป๊อกส่งมาหาเรานี่มันแรงมาก พี่ป๊อกสามารถทำได้ขนาดนี้เลยเหรอว่าเฮ้ยมันยิ่งกว่าการตบอีกมันยิ่งกว่าการที่เราโดนตัวกันอีก”
ในขณะที่ตัว ป๊อก ปิยธิดา เองซึ่งนอกจากต้องรับบทแม่ของเจมส์จิรายุที่ต้องมีการลงไม้ลงมือกับลูกชายแล้วในฉากนี้ยังต้องเป็นฉากสำคัญที่ต้องถ่ายทอดความรู้สึกที่ตัวเองต้องเจ็บปวดในฉากนี้ด้วย
“สำหรับป๊อกแล้วในฉากนี้มันไม่ใช่เป็นแค่การที่เราไปตบหน้า แต่กลับกลายเป็นว่าเราที่เป็นคนตบมีความรู้สึกที่เจ็บยิ่งกว่าคนโดนตบซะอีก ซึ่งป๊อกเองเพิ่งจะเคยรู้ว่าคนที่เป็นคนตบทำไมถึงเจ็บกว่าคนที่โดนตบก็วันนี้ในซีนนี้แหละค่ะ การที่ทำให้คนที่เรารักที่สุดเจ็บมันคือสิ่งที่เราเจ็บยิ่งกว่าตอนแรกก็ไม่เคยเข้าใจจนกระทั่งพอมาอ่านบทแล้วแบบ อืม มันใช่เลยหละ แล้วตัวน้องเจมส์เองดีมากค่ะ คือตอนแรกก็แอบคิดว่าน้องเพิ่งมีประสบการณ์ทางด้านการแสดงไม่เยอะ น้องจะรู้สึกอย่างนั้นรึเปล่า ปรากฎว่าพอเอาเข้าจริงมันใช่แล้ว เจมส์เขารีแอ็คกลับมาได้ดี เจมส์ทำให้เราไม่รู้สึกในความเป็นเจมส์ แต่กลับทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นลูกเรา”
แต่กว่าจะได้ภาพออกมาเต็มอารมณ์และความรู้สึกอย่างที่เห็นบนจอภาพยนตร์จนทำให้ทุกรอบฉายของ “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” เกิดปรากฎการณ์น้ำตาท่วมโรงอยู่ในขณะนี้ ทั้งป๊อกและเจมส์ต้องถ่ายฉากตบหน้าระเบิดอารมณ์กันถึง5เทคเลยทีเดียว ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วอุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตรยืนยันว่าพอใจกับการแสดงระดับสุดยอดจากทั้งคู่ตั้งแต่เทคแรกแล้ว
“ก็เป็นฉากที่ถ่ายทำกันนานมากแล้วก็ที่นานไม่ใช่เพราะว่าใครเล่นไม่ดีแต่ผมอยากได้มุมที่ชัดเจนในการที่จะถ่ายทอดความรู้สึกแบบนี้ออกมาให้ชัดเจนให้ได้ว่าต่างคนต่างเจ็บปวดที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเป็นแม่ที่เฝ้าทะนุถนอมลูกมา เพราะฉะนั้นการที่เขาเองเป็นคนที่จะต้องทำให้ลูกเจ็บครั้งนี้มันเป็นความเจ็บปวดสองสามเท่าสำหรับตัวเขา จริงๆ เทคที่ใช้ได้มันใช้ได้ตั้งแต่เทคหนึ่ง เทคสองแล้วละครับ เพียงแต่ตอนนั้นต้องยอมรับว่าผมอยากทดลองดูว่าถ้าเป็นมุมมองของมัทที่เป็นแม่ผมอยากได้ความรู้สึกของเขา ถ้าเป็นเขา เขาจะคิดยังไงเขาจะแสดงออกยังไง แล้วถ้ากลับกันถ้าเป็นมุมมองของแทนบ้างละที่เป็นลูกเขาจะรู้สึกยังไง เขาจะคิดอะไร คือไม่ใช้ว่าผมไม่แน่ใจแต่ผมอยากเห็นทั้งสองข้างเพื่อที่จะเอามาเลือกดูอีกครั้งหนึ่งว่าในแต่ละข้างเราควรจะเล่าข้างไหนดีกว่ากัน ความรู้สึกของใครที่มันสะเทือนใจกว่ากัน เพื่อจะให้หนังมันมีทางออกมันมีทางเลือกมากขึ้นก็เลยต้องล่อไปสัก 5 เทคได้ครับ”
ไปร่วมพิสูจน์ความทุ่มสุดตัวและการแสดงระดับสุดยอดของทั้งเจมส์-ป๊อกจากการกำกับภาพยนตร์รักของผกก.อุ๋ย นนทรีย์ในหนังที่หลายคนยกย่องให้เป็นภาพยนตร์รักที่ดีที่สุดแห่งปีด้วยตาของคุณเองวันนี้ทุกโรงภาพยนตร์