เปิดเวทีด้วยเพลง พบพาน , สาวเซียงไฮ้ , ดาราดับแสง , โปรดฟังอีกครั้ง 4 หนุ่ม โอม , เชา , ฟิลิปส์ และ ปาร์ค มาในชุดดำสุดเท่ ยิงเอฟเฟกต์กระหน่ำ เพลงงานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง ทีมงานก็เสกพระจันทร์ดวงโตขึ้นกลางเวทีพร้อมกับแท่นไฮโดรลิกยก โอม ขึ้นไปยืนโชว์เสียงแบบเสียว ๆ เทียบเคียงพระจันทร์เรียกเสียงกรี๊ดและร้องตามกันลั่นฮอลล์ เพลงฮิตยังตามมาเรื่อย ๆ ทั้ง สวัสดีเจ้า , ซ้ำซ้อน , น้ำตาสุดท้าย , ปรารถนาสิ่งใดฤา , เงาของเมื่อวาน , คู่ชีวิต จากนั้น หนุ่ม กะลา แขกรับเชิญคนแรกออกมาในเพลง กาลเวลาพิสูจน์ ก่อนจะโดดกันยับในเพลง แม่ , เป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วค็อกเทลก็พากลับไปฟังเพลงยุคอินดี้ วัย , คิดถึงฉันรึเปล่า , ชีวิต , ในสายตาของเธอ , ริษยา ซึ่งช่วงนี้ค็อกเทลเปลี่ยนชุดเป็นสีขาววิ่งมาเซอร์ไพร้ส์แฟน ๆ บนเวทีมินิสเตจ แถม โอม ยังปีนอัฒจันทร์ฝ่าคนดูขึ้นไปหาคุณแม่คุณพ่อและแจกจุ๊บภรรยากับลูกสาวไปคนละฟอด กลับมาคึกคักที่เวทีใหญ่เมื่อวงออเครสตร้าบรรเลงเพลง เธอ แต่กลับเป็นสาวเซอร์ ปาล์มมี่ ที่จับไมค์เดินออกมาร้องเพลงนี้โดยมี โอม มาฟีจเจอริ่งช่วงท้าย ถือเป็นซีนหวานบนเวทีเลยก็ว่าได้ ไหน ๆ มาแล้ว ปาล์มมี่ เลยจัดเพลง คิดมาก ให้มันกันอีกเพลง ก่อนที่จะเห็นทะเลดาวสวย ๆ ในเพลง อาจเพราะ , หมดห่วง , โปรดเถิดรัก , ช่างมัน แล้ว เจ๋ง บิ๊กแอส แขกรับเชิญคนสุดท้ายออกมาในเพลง ข้าน้อยสมควรตาย , อย่างน้อยค็อกเทลปล่อยพลังชุดใหญ่ช่วงท้ายในเพลง ทำดีไม่เคยจำ , ตราบธุลีดิน , ฉันร้องไห้เป็นหมื่นครั้งเพื่อมาเจอเธอ , เธอทำให้ฉันเสียใจ และปิดเวทีด้วยเพลง คุกเข่า ซึ่งแฟนเพลงทั้งฮอลล์พร้อมใจกันชูป้ายที่เป็นรูปโลโก้ของวงค็อกเทลและเขียนว่า #เล่นด้วยหัวใจเสมอมา เรียกว่าประทับใจทั้งศิลปินและแฟนเพลงกันไปเต็ม ๆ