รอบนี้ประเดิมความสนุกกันด้วยโชว์ศิลปะการแสดงหนังตะลุงของภาคใต้ที่หาชมได้ยาก เรียกเสียงหัวเราะกันไปก่อนจะเปิดเวทีพลังเสียงที่หน้ากากกอไผ่ ที่มาในเพลงซึ้งๆดังอารมณ์ในเพลงเหงา ต่อด้วยหน้ากากตะกร้อ กับน้ำเสียงชวนให้กำลังในเพลงใจกลางเมือง และปิดท้ายด้วยหน้ากากจอกแหน ที่เจ้าตัวนั้นถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้เป็นอย่างดีในเพลงคืนจันทร์ กับเสียงใสๆชวนทอดอารมณ์
และวินาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงกับการตัดสิน ผลออกมา หน้ากากกอไผ่ และหน้ากากจอกแหน ผ่านเข้ารอบต่อไป และมากระชากหน้ากากตะกร้อพร้อมๆกัน ทำเอาเสียงเองลั่นเมื่อเปิดมาเป็น ติ๊ก นำวง Playground แต่ที่ออกอาการหนักคงจะเป็น พิธีกรที่เป็นแฟนคลับตัวยงของวง Playground หลังถอดหน้ากากเจ้าตัวนั้นบอกว่า "ที่มาของหน้ากากตะกร้อ ผมอยากจะเลือกกีฬาที่เป็นกีฬาของไทย กีฬาเป็นตัวแทนของการที่เราอยากจะทำความฝันให้เป็นจริง ผมรู้สึกว่าตอนที่ผมร้องเพลงผมเริ่มจากที่เรามีความฝัน เราอยากจะทำมัน ผมรู้สึกตลอดว่าตัวเราเองเป็นคนทื่ไม่เก่ง เป็นคนที่ไม่มีความชำนาญหรือเชี่ยวชาญมาก แต่เรามีใจที่รักมัน และเราอยากจะทำให้ได้ดี หน้ากากตะกร้อเป็นตัวแทนในการที่ใครก็ตามที่มีสิ่งที่เรารักแล้ว ก็จงทำมันต่อไป เพราะว่าความฝันมันทำให้เรามีความสุขแน่นอน ผมเชื่อครับว่าโลกใบนี้ไม่มีคนแปลกหน้าครับ มีแต่เพื่อนที่ยังไม่ได้ทำความรู้จักนะครับ"
และในสัปดาห์หน้าสนุกกันแบบจัดเต็มในรอบ SEMI-FINAL กับ 4 หน้ากาก หน้ากากใบตอง, หน้ากากกะลา, หน้ากากกอไผ่ และหน้ากากจอกแหน บทเพลงของใครจะถูกใจคณะกรรมการ ห้ามพลาด! The Mask Line Thai วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม นี้ เวลา 20.05 น. ช่องเวิร์คพอยท์23