นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/62 (งบการเงินเฉพาะกิจการ) มีกำไรสุทธิ 37.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.30% จากงวดเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิเท่ากับ 21.64 ล้านบาท ส่วนรายได้รวม 404.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.01% จากงวดเดียวกันปีก่อน มีรายได้รวมเท่ากับ 328.59 ล้านบาท โดยในไตรมาสนี้ได้ดำเนินการขายหุ้นที่ถือในบริษัทร่วมทุน ในบริษัท สยาม เกตเวย์ จำกัด ออกทั้งหมด ทำให้ต้องมีการบันทึกการด้อยค่าเงินลงทุน ซึ่งหากไม่รวมการบันทึกด้อยค่าเงินลงทุนนี้ จะถือได้ว่าบริษัทฯมีศักยภาพในการเติบโตที่สูงมาก
ขณะที่งวดผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 62 มีกำไรสุทธิ 73.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96.75% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 37.17 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 758.89 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 24.03 จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 611.87 ล้านบาท
ปัจจัยที่สนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโต เนื่องจากธุรกิจกลุ่มเครื่องดื่ม non coffee ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด ทั้งในมุม Alll Cafe และเครื่องดื่มโถกดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศร้อน ทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเติบโตตามการขยายสาขามากขึ้นด้วย ในส่วนของการจำหน่ายสิทธิในการใช้ตัวการ์ตูนของกลุ่ม San-X มีการจัดทำสินค้าร่วมกับพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำเพื่อผลิตสินค้าออกมาจำหน่าย ช่วยผลักดันรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯได้มีการอนุมัติจ่ายเงินปันผลในงวดครึ่งแรกของปี 62 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท และจะขึ้นเครื่องหมายสิทธิ์ไม่ได้รับเงินปันผล (XD) ภายในวันที่ 26 สิงหาคม 2562 พร้อมจ่ายปันผลเป็นเงินสดในวันที่ 10 กันยายน 2562
ประธานกรรมการบริหาร กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ประเมินว่า ยังมีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถเดินหน้าได้ตามแผนที่วางไว้ ทำให้มั่นใจว่าจะผลักดันรายได้เติบโตตามเป้าหมายเติบโต 15%
"บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นในการคิดค้น และพัฒนาสินค้าเครื่องดื่มร่วมกับเซเว่นฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงบริษัทฯได้เปิดตัวสินค้าใหม่เพิ่มเติม ในส่วนของกลุ่มสินค้าคาแรคเตอร์ ซึ่งในปีนี้ถือเป็นธุรกิจที่จะช่วยผลักดันรายได้และกำไร ปีนี้อย่างมีนัยสำคัญ โดยได้ทำสินค้าร่วมกับพันธมิตร แบรนด์ชั้นนำอย่างต่อเนื่อง และยังมีแผนส่งสินค้าคาแรคเตอร์เข้าทำตลาดในต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อเป็นจำนวนมาก เพื่อเพิ่มยอดขาย คาดว่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนในครึ่งหลังของปีนี้" นายชัชชวีกล่าวในที่สุด