โดยในปีนี้ ห้างเซ็นทรัล ได้รวบตึงจัดหนักทั้งแบรนด์นาฬิการะดับเวิลด์คลาส รวมถึงแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟที่มีเฉพาะห้างเซ็นทรัล และคอลเลกชั่นรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งใครที่มีแพลนจะมาอัปเดตนาฬิกาเรือนใหม่ แต่ลังเลว่ามาแล้วจะเริ่มต้นจากจุดไหน หลังจากได้เดินชมทั่วงานแล้ว จึงขอเช็คลิสต์ 8 นาฬิกาไฮไลต์ เรือนเด็ด ที่บอกเลยว่า งานนี้ใครช้า อด หมดนะจ๊ะ เพราะบางเรือนมีให้คุณจับจองเป็นเจ้าของเพียงเรือนเดียวเท่านั้น!
ประเดิมด้วยนาฬิกาแบรนด์ CORUM (โฆรุ่ม) รุ่น Golden Bridge Rainbow ที่ได้นางเอกชื่อดัง ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก สวมใส่ในชอตฟินาเล่เปิดงานวันแรก ซึ่งนับเป็นเรือนไฮไลต์เด่นของงานนี้ เพราะนำเข้ามาในเมืองไทยเพียง 1 เรือนเท่านั้นจาก 18 เรือนทั่วโลก! ตัวเรือนทำจากทองคำขาวทรงกลม 18 กะรัต ล้อมด้วยอัญมณีแซฟไฟร์ 7 สีรุ้ง เผยให้เห็นกลไกการเคลื่อนไหวของสะพานทองคำในแนวเส้นตรง มาพร้อมสายหนังจระเข้และตัวพับล็อคสายทำจากทองคำขาว ถ่ายทอดศิลปะการออกแบบร่วมสมัยได้อย่างมหัศจรรย์ มูลค่า 4,562,100 ล้านบาท
นาฬิกาไฮไลต์ถัดมา แบรนด์ FRANCK MULLER (แฟรงค์ มุลเลอร์) รุ่น VANGUARD GRAVITY TOURBILLON ซึ่งได้ อาเล็ก-ธีรเดช สวมใส่ในชอตฟินาเล่เปิดวันงานเช่นกัน เรือนนี้เสริมบุคลิกให้ผู้สวมใส่โดดเด่นขึ้นได้อย่างดี ซึ่งได้ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยกับงานออกแบบที่อัศจรรย์ ด้วยลวดลายและโครงสร้างของกรงทูร์บิญอง มีรูปทรงวงรีของบรรดาสะพานจักรซึ่งเจาะขึ้นรูปจากชิ้นเดี่ยวของแท่งอลูมิเนียมมาสู่รูปทรงโค้งนูน ให้ภาพราวสะพานจักรกำลังโค้งตัว มีกลิ่นอายผจญภัยเล็กๆ ซ่อนอยู่ ซึ่งปรากฏอยู่ใต้กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ มูลค่า 7,800,000 บาท
อีกเรือนกับ FRANCK MULLER (แฟรงค์ มุลเลอร์) รุ่น Cintree Curvex(TM) Vatanika Noir Diamond Limited Edition ที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 9 เรือนเท่านั้น ตัวเรือนสตีลล้อมเพชร หน้าปัดแล็คเกอร์สีดำสนิท โดดเด่นด้วยตัวเลขโรมัน V และ XI ประดับเพชร มาพร้อมสายหนังจระเข้สีดำ ระบบกลไกการทำงานตัวเครื่องเป็นแบบออโตเมติก มูลค่า 1,345,000 บาท
ต่อมาแบรนด์ BREITLING (ไบรทลิ่ง) รุ่น นาวิไทเมอร์ 1 แอร์ไลน์ เอดิชั่น ขับเคลื่อนด้วยกลไก ไบรทลิ่ง แมนูแฟคเจอร์ คาลิเบอร์ 01 (Breitling Manufacture Caliber 01) กลไกจักรกลโครโนกราฟผลิตภายในโรงงานของตนเองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกลไกอันประณีตและดีที่สุดของโลก อีกทั้งยังเป็นการเฉลิมฉลองบทบาทสำคัญของแบรนด์ในยุคทองของการบิน รวมถึงเหล่าสายการบินที่เป็นดั่งสัญลักษณ์สูงสุดของยุคสมัยนั้น โดยคอลเลคชั่นนี้ได้เปิดตัวทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า สวิสแอร์ (Swissair) คืออดีตสายการบินแห่งชาติของประเทศบ้านเกิดของไบรทลิ่ง โดยไบรทลิ่งได้จับเอาจิตวิญญาณของห้วงเวลาอันน่าจดจำสำหรับการบินพาณิชย์ และปลุกสไตล์ของภาพเหตุการณ์สุดคูลในอดีตยุค 1960s และ 1970s ให้ฟื้นคืนขึ้นอีกครั้ง ไบรทลิ่งอุทิศความน่าหลงใหลให้กับเหล่านักบุกเบิกด้านการบินพลเรือน และเฉลิมฉลองให้กับเหล่าสายการบินอันเป็นสัญลักษณ์สูงสุดของยุค มูลค่า 265,000 บาท
ตามมาด้วยแบรนด์ GUCCI (กุชชี่) รุ่น Gucci G-Timeless Automatic มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู ประดับประดาด้วยโมทีฟหมู่มวลผึ้ง ตัวเรือนสตีล หน้าปัดหิน Onyx สีดำ แมทช์คู่กับสายสตีลดูเรียบหรู กระจกหน้าปัดเป็นคริสตัลแซฟไฟร์คริสตัลกันรอยขีดข่วน และฝาหลังเปิดเปลือยให้เห็นกลไกออโตเมติกที่งดงามภายใน มูลค่า 99,900 บาท
มีจำนวนจำกัดเพียง 1,001 เรือน ทั่วโลก สำหรับแบรนด์ RADO (ราโด) รุ่น DiaMaster Prajun ลิมิเต็ด เอดิชั่น ซึ่งได้แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวไทย ขวัญข้าว เศวตวิมล มาร่วมออกแบบ โดยลุคให้ความทันสมัย เลือกใช้วัสดุที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ทั้ง พลาสม่าไฮเทคเซรามิค คริสตัลแซฟไฟร์ เพชร เปลือกหอยมุกและหนัง มาผสานกับงานฝีมือและวัฒนธรรมไทยด้วยสายหนังลายงูสีดำ ซึ่ง ราโดยังได้มีระบบ EasyClip ช่วยให้ง่ายต่อการเปลี่ยนสายได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย มูลค่า 99,400 บาท
ถัดมาที่ CASIO (คาสิโอ้) GMW-B5000V เรือนนี้มีเพียง 30 เรือนเท่านั้น ในงานเซ็นทรัล | เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2019 เป็นรุ่นที่นำมาเป็นพื้นฐานในการสร้าง เป็นนาฬิกาที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 ด้วยรูปโฉมที่สืบทอดลักษณะรูปทรงเหลี่ยมมาจาก G-SHOCK รุ่นแรก หากแต่มาพร้อมกับโครงสร้างชั้นนอกที่เป็นวัสดุสเตนเลสสตีลล้วน อีกทั้งยังเป็นรุ่นพิเศษที่จำลองลักษณะอันโดดเด่นของนาฬิกาที่ถูกใช้งานมาเป็นเวลานานหลายปีมาใช้กับการตกแต่งตัวเรือนและสาย โดยทำการเคลือบไอออนเป็นสีดำ จากนั้นก็ขจัดบางส่วนที่เคลือบไว้ออกเพื่อสร้างความโดดเด่นในลักษณะของนาฬิกาที่ถูกใช้งานมานาน การตกแต่งให้ดูสุขุมและดุดันมากขึ้นเช่นนี้ เป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของการรังสรรค์ผลงานชิ้นเอกของ G-SHOCK เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ของเรือนเวลาที่แข็งแกร่งซึ่งยังคงดำรงอยู่ด้วยความทนทานเหนือการทดสอบของกาลเวลา นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อบลูทูธ และรับสัญญาณเทียบเวลาจากคลื่นวิทยุได้อีกด้วย มูลค่า 42,000 บาท
ส่งท้ายด้วยแบรนด์ SEIKO (ไซโก) รุ่น Seiko Prospex SLA033J ที่ผลิต 2,500 เรือนทั่วโลก และนำเข้ามาในไทยเพียง 121 เรือนเท่านั้น ซึ่งยังเปิดตัวที่แรกในงานนี้อีกด้วย! โดยได้ยกเอาดีไซน์นาฬิกาดำน้ำแบบดั้งเดิมในปี 1970 ที่เป็นตำนานกลับมาทุกกระเบียดนิ้ว เห็นได้ชัดจากสายซิลิโคนลวดลายดั้งเดิมแบบในตำนาน เคลือบสารซูเปอร์ฮาร์ดโค้ทติ้ง ประกบกระจกคริสตัลแซฟไฟร์แบบโค้ง 2 ชั้น พร้อมเคลือบกันแสงสะท้อน สามารถสวมใส่ดำน้ำได้ลึกสูงสุด 200 เมตร มูลค่า 174,800 บาท
เห็นแต่ละเรือนแล้ว นับว่ามีความพิเศษเฉพาะตัวที่น่าสนใจหลากหลายจริงๆ ใครที่อยากไปสัมผัสความพิเศษของนาฬิกาจากหลากหลายแบรนด์ในรูปแบบเต็ม สามารถไปอัปเดตและช็อปปิ้งงาน "เซ็นทรัล | เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2019" (Central | ZEN International Watch Fair 2019) ได้ ณ ดิ อีเว้นต์ ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัล ชิดลม ตั้งแต่วันนี้ - 16 ก.ย. 62 และที่แผนกนาฬิกา ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา และเซน จนถึงวันที่ 8 ต.ค. 62 ซึ่งมาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดคุ้ม ลดสูงสุดถึง 30% รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 45% จาก The 1 (เดอะวัน) และบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พิเศษโหลดรับฟรี!! LINE คูปองส่วนลดแทนเงินสด มูลค่า 1,000 บาท ใช้เป็นส่วนลดเมื่อซื้อนาฬิกามูลค่า 20,000 บาทขึ้นไป โดยดาวน์โหลดคูปองได้ที่แอปพลิเคชั่นไลน์ Central Department Store รับฟรีคูปองส่วนลดแทนเงินสดสูงสุด 135,000 บาท เมื่อช็อปฯ ตามเงื่อนไข และรับสิทธิ์ผ่อนชำระ 0% นาน 10 เดือน จากบัตรเครดิตชั้นนำ