“เด่นหล้า บริติช สคูล” เผย 7 เคล็ดลับ พิชิตมหาวิทยาลัยระดับโลก และอาชีพในฝันโดยนักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด

ศุกร์ ๐๔ ตุลาคม ๒๐๑๙ ๐๙:๒๔
"การเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก เป็นสิ่งที่ทำได้ และไม่ยากอย่างที่คิด" หัวใจสำคัญคือต้องวางแผนล่วงหน้า และเตรียมความพร้อมตั้งแต่วัยเยาว์ เด่นหล้า บริติช สคูล (DENLA BRITISH SCHOOL หรือ DBS) ได้มุ่งเน้นเรื่องเส้นทางการก้าวสู่มหาวิทยาลัยระดับโลก เพื่อให้นักเรียนเกิดความตระหนักรู้และตื่นเต้นที่จะค้นหาโลกของตนเองในอนาคต ที่ไม่มีใครสร้างให้ได้นอกจากมือของเราเองจึงได้เชิญ Mr. Jamie McVeigh นักศึกษาแพทย์ปีสุดท้าย มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด (Oxford University) ประเทศอังกฤษ ลูกชายของ Mr. Mark McVeigh คุณครูใหญ่โรงเรียน DBS ผู้มากประสบการณ์จากโรงเรียนชั้นนำทั้งในประเทศอังกฤษ และภูมิภาคเอเชีย มาแบ่งปันประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจในการบรรยายหัวข้อ "An Educational Journey" ซึ่งจะทำให้ภาพการวางแผนอนาคตการศึกษาเพื่อความสำเร็จทางอาชีพ ชัดเจน และไม่ยาก หากเดินตามเคล็ดลับต่อไปนี้

ความชอบของคนเรานั้นเปลี่ยนแปลงกันได้

คุณครูใหญ่โรงเรียน DBS เล่าถึงคุณ Jamie ตอนที่เขาอายุเพียง 2 ขวบว่า ตอนนั้นของเล่นที่ Jamie ชอบมากที่สุดคือเครื่องดูดฝุ่นพลาสติก เขาให้ความสนใจและสนุกสนานกับเครื่องเล่นชิ้นนี้เป็นปี พอมาถึงตอนอายุ 5 ขวบ เขาหันมาเล่นฟุตบอล เขามีความหลงใหลเกมการเล่น และชอบซ้อมเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆเป็นอย่างมาก และพอตอน Jamie อายุ 11 ขวบ เขากลับค้นพบว่าชอบของเล่นต่างๆที่เกี่ยวกับการแพทย์และโรงพยาบาล จากช่วงเวลาหนึ่งไปสู่อีกช่วงเวลาหนึ่งนั้น ความชอบของเราสามารถเปลี่ยนแปลงกันได้ ในช่วงแรกของชีวิต ความชอบจะเปลี่ยนแปลงตามการเดินทางของกาลเวลา ดังนั้นเรามีความจำเป็นที่จะต้องลองทำอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ เพื่อที่จะค้นพบว่าเราชอบทำอะไรบ้าง อย่างคุณ Jamie นั้น ตอนที่ค้นพบว่าตัวเองอยากเป็นหมอเพราะว่าเห็นตัวอย่างจากแม่ที่เป็นพยาบาล และเขาก็ชอบเรียนวิชาวิทยศาสตร์ คำนวณ และก็อยากจะช่วยเหลือผู้คน จึงตัดสินใจเรียนแพทย์ในที่สุด

7 ขั้นตอนลัด พิชิตมหาวิทยาลัยระดับโลก และ อาชีพในฝัน

การก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยระดับโลก ก็เท่ากับว่าประสบความสำเร็จทางด้านอาชีพไปครึ่งหนึ่งแล้ว แม้จะไม่ง่ายแต่ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม คุณ Jamie ได้แชร์เทคนิคที่ใช้แล้วได้ผลกับตัวเอง ถึงการวางแผนและขั้นตอนการพิชิตความสำเร็จทางการศึกษา

- จงคิดถึงสิ่งที่เราอยากทำ และอย่าให้ใครมาบอกว่าเราทำมันไม่ได้ จงฝันให้ใหญ่ แต่ตั้งมั่นด้วยการค่อยๆก้าวขั้นเล็กๆไปทีละขั้น (DREAM BIG – but with small steps)

"ฝันให้ใหญ่ แต่เริ่มด้วยขั้นตอนเล็ก ๆทีละก้าว" จุดเริ่มต้นของความสำเร็จอาชีพในอนาคต คือสิ่งที่เราจะอยู่กับมันตลอดไปหลังพ้นจากชีวิตในวัยเรียน ซึ่งการคิดถึงอาชีพของเราในอนาคตมีความสำคัญมากตั้งแต่ในวัยเรียน เพราะกว่าจะตกตะกอนความคิดได้ว่าเราจะมีอาชีพอะไรนั้น ก็ต้องมาจากการเริ่มสำรวจตัวเองให้ได้ก่อนว่า เราชอบวิชาอะไร ชอบทำกิจกรรมอะไรบ้าง ในขณะที่อยู่ในโรงเรียน นี่คือจุดเริ่มต้นของทั้งหมด แล้วน้องๆคิดกันรึยังว่าอาชีพใดเหมาะกับเรา และศักยภาพของเราเหมาะกับอาชีพอะไร? ถ้าย้อนกลับไปดูความสำเร็จของมนุษย์ มีตัวอย่างมากมายที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของมนุษย์จนสามารถสร้างความสำเร็จสูงสุดให้แก่มวลมนุษยชาติ ยกตัวอย่างเช่น การสร้างจรวดและดาวเทียม การเดินทางไปยังอวกาศ และการที่มนุษย์สามารถเดินทางไปเหยียบพื้นดวงจันทร์ กว่าจะสำเร็จได้ต้องใช้เวลาและความพยายามมากมายกว่าจะเห็นผล ซึ่งประเด็นที่จะสื่อคือ ก่อนที่มนุษย์จะมาถึงจุดนี้ได้ พวกเขาต้องผ่านอะไรมามากมาย และมีก้าวเล็กๆให้ก้าวข้ามอีกมากมาย รวมถึงยังมีความผิดพลาดอีกมากมายที่เราต้องประสบและเรียนรู้จากมัน ดังนั้น จงอย่ากลัวความไฝ่ฝัน จงกล้าฝันให้ใหญ่ และเริ่มไปสู่ฝันนั้นด้วยขั้นตอนเล็กๆทีละก้าว

2. เป้าหมายต่อไป (Next goal) ของเรานั้นสำคัญ เมื่อเรามีความฝันแล้ว ให้เริ่มจากการให้ความสำคัญกับเป้าหมายเล็กๆอันจะเป็นจิ๊กซอว์ที่ประกอบขึ้นไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งการที่เราจะไปถึงอาชีพที่เราใฝ่ฝันได้นั้น ก่อนอื่นคือการเรียนหนังสือให้ดี โดยเฉพาะเรียน IGCSEs และสอบ A Levels ให้ได้ตามเป้าของเราก่อน ก่อนที่จะไปถึงฝันที่สำคัญ ซึ่งในระบบการเรียนหลักสูตรนานาชาติอังกฤษต้องเรียนทั้งสองหลักสูตรนี้ โดย IGCSEs เป็นการเรียนวิชาที่หลากหลายเพื่อให้เรารู้ว่าเราชอบวิชาอะไร ซึ่งนอกเหนือจากวิชาหลัก (Core subjects) แล้ว เราจะมีโอกาสเลือกวิชาเสริมอื่นๆด้วย (Extra subjects) การเรียนในตอนนี้ เราจะยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบวิชาอะไร จึงต้องลองเรียนกว้างๆก่อน เพื่อหาวิชาที่เรียนแล้วสนุกไปกับมัน ส่วน A Levels คือการเรียนเฉพาะวิชาที่เราสนใจจริงๆ เป็นการตีกรอบวิชาให้แคบลงเพื่อโฟกัสในสิ่งที่เราชื่นชอบ ในตอนนี้หากรู้แล้วว่าเมื่อโตขึ้นเราอยากประกอบอาชีพอะไร เราก็สามารถเลือกเรียนเน้นวิชาที่จะส่งเสริมอาชีพในฝันของเราได้

3. สัมผัสประสบการณ์กับอาชีพที่อยากจะทำ (Work experience) จงพยายามหาประสบการณ์จากอาชีพต่างๆที่เราอยากจะทำในอนาคตเพื่อที่จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วเรารักอาชีพนี้หรือบางทีเราอาจจะเกลียดอาชีพนี้ก็ได้ โดยวิธีการคือ การค้นหาข้อมูลด้วยตนเองและถามความรู้จากผู้มีประสบการณ์ตรง โดยสาขาอาชีพนั้นแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ สาขาอาชีพที่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ (Vocational degree) เช่น แพทย์และเภสัชกร กฎหมาย ครู บริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ ในสาขาวิชาชีพนี้ โดยทั่วไปเมื่อเรียนแล้วจบออกมาแล้วก็ประกอบอาชีพนี้ไปตลอดเลย ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนอาชีพ ดังนั้นการสัมผัสกับประสบการณ์ของอาชีพต่างๆแต่เนิ่นๆ อย่างที่คุณ Jamie ได้บอกไว้ จะทำให้เราชัดเจนในเรื่องความชื่นชอบวิชานั้นๆและช่วยทำให้ตัดสินใจที่จะเรียนหรือไม่เรียนสาขาวิชาชีพนั้นๆได้ดีขึ้น อีกประเภทหนึ่งคือสาขาวิชาชีพที่ไม่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ (Non-vocational degree) เช่น วิชามนุษยศาสตร์, สังคมศึกษา, ศิลปะและนิเทศศาสตร์ ไม่ต้องใช้ใบประกอบวิชาชีพเฉพาะ จึงเป็นสาชาอาชีพที่เราสามารถเปลี่ยนใจไปทำอะไรอย่างอื่นได้ และไม่เป็นไรเลยถ้าเราคิดจะเปลี่ยนอาชีพ

4.การสมัครเข้ามหาวิทยาลัย (University application) อันดับแรกควรเลือกมหาวิทยาลัยในฝัน เลือกเลือกประเทศ ว่าเราอยากเรียนที่ไหน ศึกษาดูรายละเอียดว่ามีการสมัครเข้าเรียนอย่างไร มีการสอบอะไรบ้าง ซึ่งบางมหาวิทยาลัยต้องผ่านการสัมภาษณ์ด้วย จึงต้องเตรียมตัวให้พร้อม

5.ชีวิตในมหาวิทยาลัย (University life) เมื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว ชีวิตในมหาวิทยาลัยตามความเห็นของคุณ Jamie นั้นวิเศษมาก เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งโอกาสที่จะได้พัฒนาตัวเองในเชิงวิชาการ ได้ทำงานวิจัย ได้ทำรายงาน วิทยานิพนธ์ ได้มีความรู้มากขึ้นเกี่ยวกับอาชีพที่เราอยากจะต้องออกไปทำในอนาคต เราสามารถทำได้ทุกๆอย่าง และสิ่งที่ดีที่สุดคือกิจกรรมส่งเสริมหลักสูตร (Co-curricular activities หรือ CCAs) ที่ให้นักศึกษาได้เข้าร่วมกิจกรรมมากมาย และเป็นช่วงเวลาที่เราจะมีอิสระในการเรียนรู้ด้วยการพึ่งพาตนเอง ซึ่งจะแตกต่างจากสมัยเรียนที่โรงเรียน ตอนนั้นเราจะมีครูคอยช่วยเหลือ แต่ที่มหาวิทยาลัย เราต้องช่วยและพึ่งพาตัวเองอย่างมาก นอกจากนี้ในมหาวิทยาลัยเรายังได้มีโอกาสสังสรรค์เข้าสังคมมากมาย พบปะผู้คนจากทั่วโลก การเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นก็มีการสอบเหมือนกับโรงเรียน ที่เพิ่มเติมคือการทำโปรเจกต์ต่างๆควบคู่ไปด้วย การเขียนเรียงความ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมที่ทำให้เราเรียนรู้ได้กว้างและลึกขึ้น ดังนั้นชีวิตในมหาวิทยาลัยจะประกอบไปด้วย 6 ส่วนหลักๆคือ วิชาการ การวิจัย กิจกรรมส่งเสริมหลักสูตร การเข้าสังคม การศึกษาวิชาชีพในอนาคตของเรา และการเรียนโดยพึ่งพาตนเอง

6. พาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ดีที่สุด พยายามคิดถึงสิ่งที่เราอยากจะทำ อยากจะเป็น และสิ่งที่เราชอบทำ จากนั้นพยายามพูดคุยปรึกษากับครู รวมถึงพูดคุยกับเพื่อนนักเรียนด้วยกันว่าแต่ละคนอยากทำอะไรมีความสนใจอะไร

7.เรียนรู้จากการเดินทาง จำไว้ว่าเส้นทางการเดินทางของชีวิตและการเติบโตนั้น ทุกอย่างข้องเกี่ยวกับการเรียนรู้จากประสบการณ์และความผิดพลาด สิ่งสำคัญคือทำทุกอย่างให้มากที่สุดที่จะสนุกไปกับชีวิตการเรียน

"สิ่งสำคัญคือการทำตามขั้นตอนอย่างทะเยอทะยาน เริ่มต้นด้วยเป้าหมายเล็ก ๆ และมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ในอนาคต" Mr. Jamie McVeigh กล่าวสรุป

เลือกหลักสูตรการเรียนที่ใช่ตั้งแต่แรก คือก้าวแรกของความสำเร็จ

คุณครูใหญ่โรงเรียน DBS ชี้ว่า หลักสูตรการเรียนการสอนเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ปกครองต้องวางแผนให้บุตรหลานแต่เนิ่นๆ ทั้งนี้หลักสูตรการศึกษานานาชาติของของอังกฤษ เป็นหลักสูตรที่นิยมมากที่สุดในโลก จากข้อมูลของ International School Market Research and Trends พบว่า ในปี 2561 มีโรงเรียนนานาชาติกว่า 3,500 โรงเรียน จากราวหนึ่งหมื่นโรงเรียนทั่วโลก ใช้ระบบการเรียนสอนของอังกฤษมากที่สุด ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สูงกว่า 30% ซึ่งระบบอังกฤษนั้นแม้มาจากคอนเซ็ปต์เดียวกันแต่ยังแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ หลักสูตรโรงเรียนรัฐบาลอังกฤษ และหลักสูตรโรงเรียนเอกชนอังกฤษ ซึ่งของเอกชนอังกฤษจะเข้มข้นมากและแข็งแกร่งมากที่สุด การเรียนการสอนโดยใช้หลักสูตรเอกชนอังกฤษจึงได้รับการยอมรับว่าหลักสูตรที่ดีที่สุดในระบบอังกฤษ

"DBS นับเป็นโรงเรียนนานาชาติแห่งเดียวในกรุงเทพฯที่มีการเรียนการสอนโดยหลักสูตรโรงเรียนเอกชนอังกฤษ ที่สอนโดยครูผู้มีประสบการณ์และเป็นเจ้าของภาษา 100% โดยระบบเอกชนอังกฤษนี้มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนระบบใด คือ มุ่งเน้นการเรียนการสอนแบบ Personalised Learning เป็นการสอนที่เน้นการเคี่ยวกรำและเจาะรายละเอียดในนักเรียนแต่ละคน ตามทักษะและความชอบของตนเอง ส่วนวิธีการสอนจะแตกต่างกันไป ตั้งแต่สอนเจาะจงเป็นรายบุคคลไปจนถึงสอนกลุ่มย่อยขนาดเล็ก โดยมีครูและผู้ช่วยครูเป็นผู้ดูแลการเรียนการสอน ที่สำคัญไม่ได้มีความเป็นเลิศเฉพาะด้านวิชาการเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมความสามารถรอบด้าน (Well-Rounded Education) ให้เด็กได้ฝึกทดลองเพื่อค้นหา Talent ในตัวเองให้เจอ เพราะเป็นส่วนสำคัญในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก ซึ่งทั้งในประเทศอังกฤษ ยุโรป และทั่วโลกนั้น ต่างพิจารณาคัดเลือกนักเรียนจากเกณฑ์สำคัญสองส่วนหลักๆ คือ คุณสมบัติทางด้านวิชาการ และทักษะการเป็นผู้นำ หรือทักษะพิเศษต่างๆ อาทิ ความสามารถพิเศษ Passion ที่โดดเด่นอย่างชัดเจน และทักษะสังคม เป็นต้น คุณสมบัติเหล่านี้ไม่สามารถสร้างกันได้ในช่วงเวลาข้ามคืน แต่ต้องปลูกฝังกันตั้งแต่ในวัยเด็ก และด้วยความโดดเด่นของหลักสูตรโรงเรียนเอกชนอังกฤษที่โรงเรียนระบบการสอนอื่นๆไม่มีคือ การเพิ่มการเรียนการสอนอีก 1.5 ชั่วโมงทุกวัน หรือที่เรียกว่าระบบ Extended Day ซึ่งหมายถึงเด็กที่ DBS จะเรียนมากกว่าเด็กโรงเรียนนานาชาติโรงเรียนอื่นถึงวันละ 1.5 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 8 ชั่วโมง โดยที่ผู้ปกครองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ DBS เปี่ยมไปด้วยเด็กที่มีคุณภาพ เพราะวันเรียนที่ยาวขึ้นในช่วงเย็น จะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ส่งเสริมกิจกรรมต่างๆมีให้เลือกเรียนกว่า 60 รายวิชา ทั้งด้านวิชาการ หุ่นยนต์ ดนตรี กีฬา เต้น การทำอาหาร และหลักสูตรผู้นำ เพื่อให้นักเรียนได้โฟกัสในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเข้าชมรม (Club) ต่างๆ และช่วงเวลาในการทำการบ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับวันต่อไป (Prep) ถือเป็นการปูพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาครบทุกด้านเพื่อให้นักเรียนก้าวสู่มหาวิทยาลัยระดับโลก และประสบความสำเร็จในอาชีพของตัวเอง" คุณครูใหญ่โรงเรียน DBS" กล่าวสรุป

#DBS # DenlaBritishSchool #DBSBangkok #InternationalSchool #BritishSchool #NurturingGlobalLeaders

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :

ฝ่ายสื่อสารการตลาดโรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า (Denla British School หรือ DBS)

ศรุตยา มหานาวารานี 096-861-4656 Email: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4