นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) “FSMART” เปิดเผยว่า การดำเนินการในปี 2563 บริษัทฯคาดว่าธุรกิจให้บริการทางการเงินและสินเชื่อครบวงจร (Banking Agent & Lending Business) จะเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยมีเป้าหมายการเติบโตของยอดการใช้งานเพิ่มขึ้น 40 – 45% จากปีก่อนที่มีการใช้งานประมาณ 1.2 ล้านรายการต่อเดือน เนื่องจากช่วงสิ้นปี 2562 บุญเติมเพิ่มการเป็นตัวแทนธนาคาร 3 ธนาคาร รวมเป็น 6 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งได้การตอบรับจากผู้ใช้จำนวนมากจากตัวเลขผู้ใช้บริการโอนเงินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้วยจุดติดตั้งครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 130,000 ตู้ที่สามารถใช้บริการฝากและโอนเงินที่สามารถใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วและปลอดภัยโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด ทั้งนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคาพาณิชย์เพิ่มเติมอย่างน้อย 1 ธนาคารในปีนี้
ขณะเดียวกัน การบริการสินเชื่อให้เฉพาะกับกลุ่มตัวแทนตู้บุญเติมพนักงานของตัวแทนและพนักงานของบริษัทในเครือที่ดำเนินการไปแล้วกว่า 90 ล้านบาท จากวงเงินที่วางไว้ 500-800 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้ในปีนี้เช่นกัน โดยทั้งหมดจะผลักดันให้ธุรกิจบริการทางการเงินและสินเชื่อครบวงจรจะสร้างผลงานได้ตามเป้าหมาย
ขณะที่ธุรกิจส่งมอบสินค้าและบริการ(DistributionPlatform Business) อาทิ การบริการจัดการระบบตู้จำหน่ายอัตโนมัติในรูปแบบต่างๆอาทิ ตู้จำหน่ายเครื่องดื่ม ตู้จำหน่ายสินค้า และตู้จำหน่ายกาแฟสดที่จะเห็นความชัดเจนช่วงประมาณครึ่งปีหลังด้วยการขยายตู้อัตโนมัติเพิ่ม 3,000-4,000 ตู้ จาก 3,500 ตู้ในขณะโดยทุกบริการบริษัทฯยังเน้นการจุดตั้งในจุดที่มีคุณภาพและกำลังซื้อที่ดีเพื่อผลตอบแทนของตัวแทนและการบริหารจัดการที่ดีในทุกๆด้าน นอกจากนี้ ยังดำเนินการธุรกิจใหม่อย่างธุรกิจกระจายสินค้าให้กับร้านค้าปลีกชุมชน(โชห่วย) ที่อาศัยเครือข่ายที่แข็งแรงของตัวแทนบุญเติม และพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อขยายโอกาสเพิ่มรายได้ที่คาดว่าจะเริ่มในประมาณไตรมาส3 ตามลำดับ
สำหรับธุรกิจเติมเงินมือถือยังคงเป็นธุรกิจหลักที่มีกลุ่มลูกค้าชัดเจนและบริษัทฯยังคงรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจเติมเงินมือถือได้เป็นอย่างดี แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีการปรับตัวลดลงตามสภาพเศรษฐกิจและโปรโมชั่นของเครือข่ายมือถือแต่จำนวนลูกค้าของบุญเติมไม่ได้ลดลง โดยจากผลสำรวจพบว่ามีจำนวนผู้ใช้ระบบเติมเงินมือถือในประเทศไทยมากกว่า 69.2 ล้านเลขหมาย โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ถือเป็นลูกค้ากลุ่มหลักของตู้บุญเติมขณะที่ผู้ใช้รายเดือนมีเพียง 23.8 ล้านเลขหมายส่วนหนึ่งมาจากบริการในตู้ที่ครอบคลุมของตู้บุญเติม การนิยมใช้เงินสดของประชากรในประเทศเนื่องจากไม่มีบัญชีเงินและมีเงินฝากน้อยกว่า3,000 บาทรวมมากกว่า 51 ล้านราย ซึ่งบริษัทฯจะเจรจาหาบริการใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์และดึงดูดผู้ใช้มากขึ้นอีกทั้ง ต้องพัฒนาตู้บุญเติมให้อัจฉริยะสามารถบริการในรูปแบบต่างๆอย่างครบถ้วนควบคู่กับการติดตั้งตู้จำหน่ายน้ำมันอัตโนมัติที่เติมเงินได้ รวมถึงการบริหารจุดติดตั้งอย่างมีคุณภาพโดยคาดว่าตู้น้ำมันจะสร้างยอดขายภายในปีนี้เดือนละ 2 ล้านลิตร ซึ่งมีแผนเพิ่มจุดติดตั้งตู้ทั้งหมดในปีนี้1,000 – 2,000 จุด
“การดำเนินงานอยู่ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่คือ “ผู้นำเครือข่ายช่องทางบริการอัตโนมัติและการเงินครบวงจร ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย” ที่จะช่วยตอกย้ำการเป็นผู้นำในธุรกิจเติมเงินมือถือ และส่งเสริมธุรกิจใหม่ที่จะขยายการเติบโตในปีนี้ประมาณ4-6%อีกทั้งยังสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่อาจมองว่าดิสรัปชั่นธุรกิจหลักแต่บริษัทฯมองว่าการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นปัจจัยเร่งให้พัฒนาธุรกิจตอบสนองให้ทันต่อยุคสมัยโดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการพัฒนาตู้บุญเติมมาตลอด เห็นได้จากตู้บุญเติมปัจจุบันทำได้มากกว่าเติมเงินแต่สามารถจ่ายเงิน โอนเงิน รวมทั้งบริการอื่นๆในตู้กว่า 80รายการ และต่อยอดมาเป็นตู้จำหน่ายสินค้า ตู้ขายซิมการ์ดมือถือ ตู้กาแฟสด และตู้ขายน้ำมันเป็นต้น เรียกได้ว่าบริษัทฯเน้นการใช้เทคโนโลยีผ่านการทำงานของตู้อัจฉริยะทดแทนคนรองรับความเปลี่ยนแปลงเพื่อตอบสนองผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ สร้างรายได้ให้กับบริษัทฯในระยะยาว”นายณรงค์ศักดิ์กล่าว