ทั้งนี้ การเติมเงินในบัตรโดยสารรถไฟฟ้า MRT และ MRT Plus ผ่านระบบ MRT Mobile Top Up ในระยะแรก ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT ได้แก่ สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) และสายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) สามารถเติมเงินผ่านแอปพลิเคชันหรือธนาคารที่ร่วมโครงการ ได้แก่ แอปพลิเคชัน True Money Wallet และธนาคารกรุงไทย ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai Next หรือตู้ ATM ของธนาคาร โดยวิธีง่ายๆ เพียง 2 ขั้นตอน คือ 1) เติมเงินในบัตรโดยสารผ่านแอปพลิเคชันหรือตู้ ATM ของธนาคาร 2) นำบัตรโดยสารมาปรับมูลค่าที่เครื่องปรับมูลค่าบัตรโดยสาร (Activate Value Machine: AVM) ที่ติดตั้งในทุกสถานี ภายใน 7 วัน หากไม่นำบัตรไปปรับมูลค่าภายในระยะเวลาที่กำหนด ระบบจะคืนเงินเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ และเมื่อดำเนินการเสร็จทั้ง 2 ขั้นตอนแล้ว ผู้โดยสารสามารถนำบัตรโดยสารไปใช้เดินทางในระบบรถไฟฟ้า MRT ได้ทันที ทั้งนี้ผู้โดยสารสามารถเติมเงินขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 100 บาท สูงสุดไม่เกิน 1,500 บาท
รฟม. และ BEM เชื่อมั่นว่าการเติมเงินบัตรโดยสาร MRT และ MRT Plus ผ่านระบบ MRT Mobile Top Up นี้ จะช่วยให้การเดินทางมีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และยังช่วยลดการสัมผัสกับเงินสด ลดการติดต่อและแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้อีกทางหนึ่ง สำหรับในอนาคต รฟม. และ BEM จะเพิ่มจำนวนแอปพลิเคชันที่สามารถใช้งานกับระบบ MRT Mobile Top Up ให้มากขึ้น และเพิ่มช่องทางการเติมเงินที่หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูล โทร.0 2624 5200