SCN รับรู้กำไรมินบูโตทะลัก ดันกำไรสุทธิไตรมาส 1 เดินหน้าเติบโตสวนทางธุรกิจก๊าซธรรมชาติขาลง

จันทร์ ๑๘ พฤษภาคม ๒๐๒๐ ๑๒:๕๘
สแกน อินเตอร์ รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/2563 เท่ากับ 46.2 ล้านบาท โดยหากตัดกำไรพิเศษจากการขายธุรกิจโชว์รูมในไตรมาส 4/2562 ออกไป จะถือเป็นการเติบโตก้าวกระโดดกว่าเท่าตัวจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีแรงหนุนสำคัญจากส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ณ เมืองมินบู ประเทศเมียนมา ซึ่งเติบโตกว่า 250% จากไตรมาสก่อนหน้า หลังเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่ไตรมาส 4/2562 ที่ผ่านมา ดันกำไรไตรมาส 1 ปี 2563 ทะยานเกินคาดสวนทางธุรกิจก๊าซธรรมชาติ
SCN รับรู้กำไรมินบูโตทะลัก ดันกำไรสุทธิไตรมาส 1 เดินหน้าเติบโตสวนทางธุรกิจก๊าซธรรมชาติขาลง

ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านธุรกิจพลังงาน พลังงานหมุนเวียน และยานยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือก เผยว่า “ผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2563 ออกมาดีเกินความคาดหมาย จากเดิมที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าน่าจะลดลงมากกว่า 50% จากการชะลอตัวของธุรกิจก๊าซธรรมชาติและในช่วงสภาพเศรษฐกิจถดถอยจากวิกฤติโรคระบาด COVID-19 โดยมีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ซึ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากไตรมาสก่อนหน้าสู่ระดับ 36.2 ล้านบาท (9.6 ล้านบาทสำหรับไตรมาส 4/2562) ส่งผลผลักดันกำไรสุทธิใน Q1/2563 เติบโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (พิจารณาโดยตัดกำไรพิเศษจากการขายธุรกิจโชว์รูมในไตรมาส 4/2562 ซึ่งถือเป็นกำไรในลักษณะ non-recurring ออกไป) ทั้งนี้ความคืบหน้าในโครงการโรงไฟฟ้ามินบู ทางบริษัทฯคาดว่าจะสามารถเริ่มงานก่อสร้างในช่วงเฟส 2,3 และ 4 ได้ตามเป้า พร้อมทั้งเริ่มรับรู้รายได้ทันทีในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 เป็นต้นไป โดยบริษัทฯขอยืนยันว่า โครงการดังกล่าวไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 และสามารถเดินหน้าดำเนินการไปได้อย่างปกติ นอกจากนี้บริษัทฯยังมีข่าวดีจากการเริ่ม COD ของโครงการ Solar Rooftop 4 โครงการในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาซึ่งบริษัทเริ่มลงทุนในนามของบริษัท Scan Advance Power (SAP) ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 และคาดว่าธุรกิจ Solar Rooftop ในลักษณะ Private PPA จะเริ่มเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนผลกำไรของบริษัทให้เติบโตยั่งยืนตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2563 เป็นต้นไป”

นอกจากนี้จากการที่บริษัทฯ มีความตื่นตัวและเตรียมมาตรการเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว จึงสามารถบรรเทาผลกระทบได้เยอะกว่าที่คาดหมายไว้ โดยในส่วนของธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่ทางคณะผู้บริหารเล็งเห็นว่าจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ เนื่องจากนโยบายภาครัฐส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ดีเซล B20 ส่งผลให้ภาพรวมก๊าซธรรมชาติในประเทศไทยมีปริมาณการใช้ลดลงอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์โดยนำธุรกิจพลังงานเข้ามาทดแทนและช่วยเพิ่มช่องทางรายได้ให้มีสัดส่วนมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทใช้เวลาไม่นานในการมุ่งมั่นพัฒนาจนประสบความสำเร็จ และสามารถทำกำไรให้กับบริษัทฯ ได้ตามที่คาดไว้ และคาดว่าในปี 2563 ทุกคนจะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนของ SCN ในด้านพลังงานหมุนเวียนมากยิ่งขึ้น

สำหรับธุรกิจก๊าซธรรมชาติ แม้ว่าปัจจุบันจะมีการชะลอตัวลง แต่เราเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีความพร้อมและมีความรู้ความเชี่ยวชาญ หากช่วงใดที่มีโอกาสด้านการลงทุนที่เหมาะสม บริษัทก็พร้อมลุยงานต่อเพื่อเก็บส่วนแบ่งในตลาดก๊าซธรรมชาติต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4