Facebook Ads Manager
เป็นการทำการโฆษณาที่เราสามารถกำหนดทุก ๆ ส่วนได้อย่างละเอียดเพื่อให้แคมเปญการตลาดนั้นมีประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่วัตถุประสงค์ โดยเราสามารถเลือกเลือกวัตถุประสงค์ได้หลากหลาย เช่น Reach, Engagement, Message, Traffic, App Installs ฯลฯ เลือกกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้จาก อายุ, เพศ, พื้นที่, ความสนใจ แม้กระทั่งอุปกรณ์ที่เราต้องการจะแสดงโฆษณา โดยจะมีการคำนวณตัวเลขกลุ่มเป้าหมายแสดงให้เห็น และสามารถเลือกรูปแบบโฆษณาได้หลากหลาย เช่น Single Image, Carousel เป็นต้น รวมถึงเลือกพื้นที่ (Placement) ที่ต้องการให้โฆษณาแสดงผลได้หลากหลาย (อ่านเพิ่มเติม ที่นี่ )
ข้อดี
ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมาก สามารถกำหนดเงินขั้นต่ำ และจัดสรรได้ตามวัตถุประสงค์ของเราสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียดสามารถสร้าง Custom Audience กลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเองได้สามารถสร้าง Lookalike Audience กลุ่มเป้าหมายแบบคล้ายคลึงได้ในหนึ่งแคมเปญโฆษณาสามารถสร้าง Ad set ได้หลาย Ad set เพื่อเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกันได้สามารถใส่โฆษณา (Ad) ที่ต่างกันหลาย ๆ แบบได้ใน Ad set เดียวสามารสร้างโฆษณาแบบ Unpublished posts หรือ Dark Post (โฆษณาแบบที่ไม่ปรากฏหน้าเพจ) ได้สามารถวัดผลประสิทธิภาพของโฆษณาแต่ละตัวได้สามารถนำข้อมูลมาใช้ในการทำ Retargeting ได้มีระบบ Analysis เอาข้อมูลมาใช้วิเคราะห์และวางแผนการตลาดออนไลน์ต่อไปได้
ข้อเสีย
สามารถใช้ได้ผ่านคอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ตเท่านั้นต้องมีความรู้พื้นฐานหรือความเข้าใจระบบโครงสร้างโฆษณาของ Facebookต้องรอการพิจารณาจาก Facebook ซึ่งแต่ละแคมเปญใช้ระยะเวลาไม่เท่ากันไม่สามารถระบุจำนวนตัวเลขของงบประมาณที่ดีที่สุดได้ เพราะมีปัจจัยอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบ เช่น ประเภทของสินค้า คู่แข่ง ฯลฯ
ปุ่ม Boost Post บนแฟนเพจ
เป็นการทำโฆษณาแบบรวดเร็ว โดยสามารถกดได้จากปุ่ม Boost Post (โปรโมทโพสต์) ใต้โพสต์ที่เราต้องการได้ทันที แต่จะสามารถกำหนดวัตถุประสงค์ได้น้อยกว่าการซื้อโฆษณา Facebook Ads Manager โดยส่วนใหญ่จะเน้นการเพิ่มจำนวน Like, Comment, Share และยอดชมวีดีโอ เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มการซื้อโฆษณา Facebook
ข้อดี
สามารถซื้อโฆษณาได้ง่าย และรวดเร็วสามารถเข้าถึงคนได้มากเหมาะกับผู้เริ่มต้นซื้อโฆษณา Facebookสามารถกดซื้อโฆษณาผ่านมือถือได้
ข้อเสีย
ไม่สามารถกำหนดวัตถุประสงค์ได้อย่างละเอียดมีข้อจำกัดในการจัดการแคมเปญโฆษณาไม่สามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันได้ดูข้อมูลการวิเคราะห์โฆษณาได้น้อย
ได้รู้จักและทำความเข้าใจการซื้อโฆษณาผ่าน Facebook Ads Manager และการกดปุ่ม Boost Post บนแฟนเพจกันไปแล้ว ทุกคนก็น่าจะพอมองภาพรวมของการซื้อโฆษณาที่แตกต่างกันออกแล้วใช่ไหมคะ ไม่ว่าเราจะเลือกใช้การซื้อโฆษณาประเภทไหนก็ไม่มีถูกไม่มีผิด เพียงแต่ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการในการซื้อโฆษณาแต่ละครั้ง
ซึ่ง DIGITORY แนะนำว่า หากซื้อโฆษณาผ่าน Facebook Ads Manager ค่อนข้างจะได้ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีกว่า อย่างไรก็ตามทุกคนสามารถมาเรียนรู้การซื้อโฆษณา Facebook กับ DIGITORY เพื่อทำความเข้าใจก่อนลงมือซื้อโฆษณาจริง
สนใจอ่านบทความการตลาดออนไลน์เพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ https://digitorystyle.com/category/article/