นายมานิต โกการ์ Country Manager (ผู้จัดการสาขาประเทศไทย)บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “เนื่องด้วยวิกฤตที่ผ่านมา ทำให้การค้าต่างๆต้องหยุดชะงักลง จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนระบบภายในต่างๆมากมาย เช่น เราได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับภายในองค์กรของเราเอง ให้พนักงานทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home รวมถึงพัฒนาระบบต่างๆ ให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คู่ค้า ไปจนถึงลูกค้ารายย่อยทั่วไป เพื่อรองรับการเข้าสู่ยุค New Normal อย่างเต็มตัว ซึ่งหลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประกาศมาตรการผ่อนปรน คาร์โรจึงเดินหน้าเต็มที่ ในการปรับแพลตฟอร์ม ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงในสภาวะเศรษฐกิจตอนนี้ ธุรกิจค้าขายรถมือสอง นับว่ามีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ อาจสืบเนื่องมาจากคนต้องการใช้เงินก้อนหรือต้องการเก็บเงินสดไว้กับตัว จึงทำให้เกิดความต้องการขายรถกันเป็นจำนวนมาก นับว่าภายใต้วิกฤตนี้ โอกาสยังคงเป็นของเราอยู่ และช่วงต้นปีเราได้มีการเปิดตัวแอปพลิเคชัน “CARRO Wholesale” ที่ตอบสนองในเรื่อง “ความเร็ว ความโปร่งใส และ ราคาดี” ที่สามารถทำให้ทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขายรายใหญ่ทั่วประเทศสามารถเข้ามาขาย และประมูลรถได้พร้อมๆกันหลายร้อยเจ้า ในครั้งเดียว ซึ่งเชื่อมั่นว่า หลังจากที่สถานการณ์ผ่อนคลายลง การซื้อขายรถจะกลับมาคึกคัก เพราะดีลเลอร์กว่า 5,000 รายของเรา มีกำลังซื้อมาตลอด แต่ช่วงเคอร์ฟิวอาจมีอุปสรรคในเรื่องการขนย้ายรถข้ามเขตบ้าง ซึ่งในตอนนี้ก็ทำได้มากขึ้น ถือว่าการทำงานของเรากลับมาได้เกือบ 100% และทำให้ได้ทราบว่าปัญหาที่เราผ่านมาได้ เป็นบททดสอบที่ดีให้กับองค์กร รวมไปถึงพนักงานทุกคนที่พร้อมสู้ผ่านวิกฤตินี้มาด้วยกันอย่างเข็มแข็งและมั่นคงกว่าเดิม”
พร้อมก้าวสู่บริการรูปแบบใหม่ๆ ที่จะทำให้ชีวิตคุณสะดวกยิ่งขึ้น สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “CARRO Wholesale” ได้ทั้งที่ App store และ Play store ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สอบถามหรือติดตามข้อมูลเพิ่มได้ที่ LINE@ สำหรับธุรกิจ: @carropartnership ,LINE@ สำหรับลูกค้าทั่วไป : @carrothailand, Facebook : Carro Thailand หรือโทร 02-508-8425
ข้อมูลเพิ่มเติม
ปัจจุบัน CARRO มีสาขาทั้งในสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศไทย ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ขายรถบ้านเป็นอย่างสูง และในปี 2561 ที่ผ่านมา CARRO สามารถทำธุรกรรมรถยนต์ ได้ทั้งหมดรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท) และเมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา คาร์โร ได้รับเงินลงทุนสนับสนุนจาก Series B (กลุ่มผู้ลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัป) ถึง 60 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เพื่อดำเนินงานและขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน เพิ่มขีดความสามารถในการขยายการให้บริการธุรกิจรถยนต์มือสอง ให้ครอบคลุมทั้งใน อาเซียน ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Jualo.com ในประเทศอินโดนีเซีย รวมไปถึงใน MyTukar บริษัท Startup ด้านรถยนต์มือสองจากประเทศมาเลเซีย ด้วยเงินลงทุนมากถึง 30 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 125.4 ล้านริงกิตมาเลเซีย) และได้รับประกาศจากตลาดค้าส่งยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่าบริษัทได้รับระดมทุนเพิ่มจาก Series B+ อีก 30 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐในปี 2562 CARRO จึงได้รับเงินสนับสนุนกว่า 100 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
