นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้นำในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งโรงไฟฟ้าโซลาร์ และลม น้ำมันไบโอดีเซล โดยได้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยการลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยมีฐานการผลิตที่สำคัญอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เปิดเผยถึงการร่วมมือกับ สถาบันการศึกษาที่สำคัญคือ วิทยาลัยเทคนิคชลบุรีและวิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา เพื่อพัฒนาบุคลากร และจัดเตรียมกำลังคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า จึงได้มอบแพลทฟอร์มต้นแบบรถยนต์ไฟฟ้า MINE SPA1 ซึ่งเป็นนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกและเป็นความภาคภูมิใจของกลุ่ม EA และถือเป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบและสร้างโดยทีมงานไทย เพื่อให้วิทยาลัยทั้งสองแห่งใช้เป็นประโยชน์ในการศึกษาและพัฒนาหลักสูตร ส่งเสริมความรู้ด้านยานยนต์สมัยใหม่ รวมถึงระบบกักเก็บพลังงานหรือแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนอันเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมพลังงานแห่งอนาคต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ให้มีความรู้และทักษะตรงกับความต้องการของกลุ่ม EA สอดคล้องกับแผนการลงทุนในโครงการต่างๆ ของบริษัทที่กำลังจะเริ่มทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปีนี้อีกด้วย
นางสาวทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ รองเลขาธิการสายงานพัฒนาพื้นที่และชุมชน โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ได้แสดงความชื่นชมและเป็นผู้แทนมอบโล่เกียรติคุณให้กับ นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้งแสดงการสนับสนุนความร่วมมือของภาคเอกชนและภาคการศึกษา ในการร่วมมือกันพัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากรควบคู่กัน เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับอุตสาหกรรมต่างๆ ที่กำลังพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมใน EEC และเชื่อว่า อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ หรือยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) ตลอดจนระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) หรือแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน จะเป็นอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์ที่ทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาจุดแข็งและเพิ่มศักยภาพในการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ทุกประเภทในภูมิภาคต่อไป
นอกจากนี้ กลุ่ม EA ยังคงดำเนินการตามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ที่ได้ลงนามไว้เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 ร่วมกับสถาบันการศึกษาทั้ง 10 แห่ง และบริษัท ดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด ที่มีโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ ซึ่งมี ดร.อภิชาติ ทองอยู่ ที่ปรึกษาเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เป็นสักขีพยาน ทุกฝ่ายที่ลงนามในบันทึกความเข้าใจ ดังกล่าวแสดงเจตน์จำนงที่จะร่วมกันพัฒนาหลักสูตรแบบต่อเนื่องและเชื่อมโยงการศึกษาระดับอาชีวศึกษาและอุดม ศึกษา ทั้งด้านทฤษฏี และการฝึกอบรม ตลอดจนการสนับสนุนทุนการศึกษาและการวิจัยและพัฒนาเพื่อการผลิตบัณฑิตระดับปริญญาบัณฑิตและบัณฑิตศึกษาด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้ได้ทั้งปริมาณและคุณภาพที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่ม EA และเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนได้ในที่สุดต่อไป