ดิเอราวัณกรุ๊ป ชูฮ็อป อินน์ รุกตลาดท่องเที่ยวในประเทศ เตรียมเปิดโรงแรมครบทุกระดับหลังผ่อนคลายล็อกดาวน์

พฤหัส ๑๖ กรกฎาคม ๒๐๒๐ ๑๑:๐๓
บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมในประเทศกำลังฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดันแบรนด์โรงแรมฮ็อป อินน์ ชิงส่วนแบ่งตลาดโรงแรมในกลุ่มบัดเจ็ท พร้อมชูมาตรฐานด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยขั้นสูงและมาตรฐานการให้บริการคุณภาพเป็นจุดขาย ชี้ในระยะแรกหลังการกลับมาเปิดให้บริการได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มนักเดินทางชาวไทย พร้อมคาดการณ์ตลาดท่องเที่ยวว่ากลุ่มลูกค้าและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยเริ่มจากการเดินทางระยะใกล้จากนักท่องเที่ยว ในเอเชีย ตามด้วยยุโรปและสหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับมาตรการจำกัดการเดินทางของรัฐบาลไทยและต่างประเทศ โดยขณะนี้ได้เริ่มทยอยเปิดโรงแรมในทุกระดับเพิ่มเติมทั้งระดับ 5 ดาว ระดับกลางและระดับประหยัดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในกรุงเทพฯและเมืองท่องเที่ยวทั่วประเทศ
ดิเอราวัณกรุ๊ป ชูฮ็อป อินน์ รุกตลาดท่องเที่ยวในประเทศ เตรียมเปิดโรงแรมครบทุกระดับหลังผ่อนคลายล็อกดาวน์

นายเพชร ไกรนุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในระยะแรกของการกลับมาเปิดให้บริการของกลุ่มโรงแรมฮ็อป อินน์ ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นแบรนด์ของบริษัทที่ได้เริ่มการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2557 เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโต และเป็นตลาดที่เน้นกลุ่มลูกค้าในประเทศส่งผลให้มีความผันผวนน้อยนั้นมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดจนกระทั่งเริ่มมีการผ่อนคลาย กลุ่มโรงแรมฮ็อป อินน์ เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบช้าที่สุด และสามารถฟื้นตัวได้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างความเติบโตให้แก่บริษัทฯ ต่อไปในอนาคตได้เป็นอย่างดี อีกทั้งภายหลังจากการเปิดโรงแรม ฮ็อป อินน์ บริษัทได้ยกระดับมาตรฐานด้านความสะอาดและความปลอดภัยภายใต้คอนเซป “SafeStay at HOP INN” ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

ในระยะถัดไป บริษัทฯ คาดการณ์ว่าการเดินทางเพื่อธุรกิจและท่องเที่ยวภายในประเทศจะเริ่มมีการฟื้นตัว จากการที่รัฐบาลมีการผ่อนคลายมาตรการมากยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทฯ จะเริ่มทยอยเปิดให้บริการโรงแรมอื่นๆ โดยในเดือนมิถุนายนได้เปิดให้บริการโรงแรม 'เมอร์เคียว’ และ 'ไอบิส’ ในพัทยา และโรงแรม 'ไอบิส หัวหิน’ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี และในเดือนกรกฎาคมนี้ได้เริ่มเปิดให้บริการโรงแรมในระดับห้าดาว ได้แก่ 'แกรนด์ ไฮแอท’และ 'เจดับบลิว แมริออท’ ในกรุงเทพฯ ตลอดจนถึงโรงแรมขนาดกลาง ได้แก่ 'ฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา’ ตามด้วยกลุ่มโรงแรมราคาประหยัดได้แก่ 'ไอบิส สาทร’ และ 'ไอบิส ริเวอร์ไซด์’ และหลังจากนี้ในเดือนสิงหาคม คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการโรงแรมครบทุกแห่งในประเทศไทย รวมทั้งโรงแรม 'ฮ็อป อินน์’ ที่อยู่ในฟิลิปปินส์ด้วยเช่นกัน

โดยในระยะแรกจะเน้นกลุ่มลูกค้าในประเทศเป็นหลัก และให้ความสำคัญกับตลาดการท่องเที่ยวในประเทศและทำการตลาดผ่านช่องทางต่างๆ อย่างเข้มข้น รวมถึงสนับสนุนแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ อาทิ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อดึงดูดให้คนไทยออกมาใช้จ่ายด้านการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ อันจะส่งผลถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศต่อไป

หลังจากนี้ คาดว่าการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศระยะทางสั้นจึงจะเริ่มฟื้นตัว ในขณะที่การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศระยะไกลเช่น ยุโรปและสหรัฐฯ จะตามมาภายหลัง ขึ้นอยู่กับมาตรการจำกัดการเดินทางของแต่ละประเทศ ซึ่งโรงแรมทุกแห่งของบริษัทฯ ได้ยกระดับมาตรการด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยขั้นสูงไว้รองรับเพื่อสร้างความอุ่นใจแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ

ในช่วงวิกฤตการณ์ที่ผ่านมา ดิ เอราวัณ กรุ๊ป สามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงทีเพื่อรับมือและบริหารจัดการผลกระทบจากวิกฤตที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการบริหารความเสี่ยง มาตรการควบคุมต้นทุนผ่านการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการ การปิดบริการโรงแรมเป็นการชั่วคราว และการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ทำให้สามารถลดต้นทุนการดำเนินงานในภาพรวมไปได้ราว 60% และการรักษาสภาพคล่องทางการเงิน การใช้มาตรฐานขั้นสูงในด้านสุขอนามัยและความสะอาด และการศึกษาแนวโน้มการฟื้นตัวและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค

ทั้งนี้ ด้วยมาตรการทางสาธารณสุขของรัฐบาลไทยที่มีประสิทธิภาพและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทำให้เล็งเห็นถึงโอกาสในการยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในอนาคต โดยเรายังคงเชื่อมั่นในความเข้มแข็งและศักยภาพด้านการเติบโตทั้งของการท่องเที่ยวตลาดไทยและฟิลิปปินส์ในระยะยาว

เกี่ยวกับ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

“บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทผู้ลงทุนและพัฒนาด้านธุรกิจโรงแรมชั้นนำของประเทศไทย โดยมีธุรกิจโรงแรมครอบคลุมทุกระดับชั้นตั้งแต่ระดับ 5 ดาว จนถึงระดับบัดเจ็ท กระจายอยู่ตามทำเลสำคัญทั้งในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโรงแรมทั้งหมดจำนวน 71 แห่งและจำนวนห้องพักทั้งหมด 9,648 ห้อง โดยธุรกิจโรงแรมของบริษัทอยู่ภายใต้แบรนด์โรงแรมระดับโลก อาทิ ไฮแอท แมริออท แอคคอร์ ไอเอชจี และแบรนด์โรงแรมของบริษัท ได้แก่ ฮ็อป อินน์ นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้ลงทุนพัฒนาศูนย์การค้าระดับสูงอีก 1 แห่งซึ่งตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจหลักของกรุงทพฯ ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.theerawan.com

ดิเอราวัณกรุ๊ป ชูฮ็อป อินน์ รุกตลาดท่องเที่ยวในประเทศ เตรียมเปิดโรงแรมครบทุกระดับหลังผ่อนคลายล็อกดาวน์ ดิเอราวัณกรุ๊ป ชูฮ็อป อินน์ รุกตลาดท่องเที่ยวในประเทศ เตรียมเปิดโรงแรมครบทุกระดับหลังผ่อนคลายล็อกดาวน์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา