ฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศหุ้นกู้สกุลเงินบาทของบริษัท Cargill ที่ระดับ ‘AAA(tha)’

ศุกร์ ๐๗ สิงหาคม ๒๐๐๙ ๐๘:๑๖
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันสกุลเงินบาทของบริษัท Cargill Incorporated หรือ Cargill มูลค่า 3.5 พันล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2554 ที่ระดับ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ ฟิทช์ จัดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (International Long-term Foreign Currency Issuer Default Rating) ของ Cargill ที่ระดับ ‘A’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพและอันดับเครดิตสากลระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศ (International Short-term Foreign Currency Issuer Default Rating) ที่ระดับ ‘F1’

เนื่องจาก Cargill มีอันดับเครดิตสูงกว่าอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศ (International Long-term Local Currency Issuer Default Rating) ของประเทศไทยที่อยู่ที่ระดับ ‘A-’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตภายในประเทศหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันสกุลเงินบาทของ Cargill ถูกจำกัดที่ระดับ ‘AAA(tha)’ ซึ่งเป็นอันดับเครดิตภายในประเทศสูงสุดของประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตของ Cargill และประเทศไทยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งเป็นผลให้อันดับเครดิตของ Cargill ต่ำกว่าอันดับเครดิตของประเทศไทยอาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันสกุลเงินบาทดังกล่าว โดยที่การปรับเปลี่ยนอันดับเครดิตสากลหนึ่งอันดับ อาจนำไปสู่การปรับเปลี่ยนอันดับเครดิตภายในประเทศมากกว่าหนึ่งอันดับได้

อันดับเครดิตของ Cargill สะท้อนถึงความได้เปรียบในการแข่งขันในฐานะที่เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในธุรกิจสินค้าเกษตรที่มีที่ตั้งในสหรัฐอเมริกา และยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่ถือหุ้นโดยกลุ่มบุคคลขนาดใหญ่ที่สุดในโลก บริษัทประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรเกือบทุกชนิดโดยมีฐานธุรกิจกระจายอยู่ตามประเทศใหญ่ๆทั่วโลก ธุรกิจสินค้าเกษตรที่สำคัญประกอบด้วย ธุรกิจสกัดน้ำมันจากพืช ธุรกิจโรงโม่ข้าวโพด ธุรกิจผลิตและแปรรูปเนื้อสัตว์ ธุรกิจผลิตปุ๋ยและธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการที่บริษัทมีธุรกิจที่กระจายตัวในหลายภูมิภาคและมีประเภทสินค้าเกษตรที่หลากหลาย ซึ่งช่วยลดความผันผวนของผลการดำเนินงานและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดของบริษัทที่เกิดจากความผันผวนของธุรกิจสินค้าเกษตรลงได้

อันดับเครดิตยังพิจารณารวมถึงสภาพคล่องของบริษัท โดยบริษัทมีสินค้าคงคลังที่พร้อมขายในตลาด (Readily Marketable Inventory (RMI)) และมีเงินสดในระดับที่สูง นอกจากนี้บริษัทยังมีเงินลงทุนในสัดส่วนที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท The Mosaic Company (Mosaic) ซึ่งปัจจุบันเงินลงทุนดังกล่าวมีมูลค่าตามราคาตลาดประมาณ 15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดย Cargill มีทางเลือกที่จะขายเงินลงทุนดังกล่าวหรือจะเพิ่มการลงทุนแต่บริษัทยังไม่มีแผนในการดำเนินการดังกล่าว อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งทางด้านเครดิตดังกล่าวได้ถูกลดทอนจากการที่บริษัทต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นในธุรกิจบริหารความเสี่ยงและการให้บริการทางการเงิน และความต้องการสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ปุ๋ยที่มีแนวโน้มที่อ่อนตัวลง

อัตราการเติบโตของผลกำไรของ Cargill มีการชะลอตัวลงอย่างมากเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ โดยในขณะที่กำไรสุทธิในช่วงเก้าเดือนแรกของปีงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เป็น 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ กำไรสุทธิในช่วงไตรมาสที่สามของปีงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552 กลับลดลงร้อยละ 68 เป็น 326 ล้านเหรียญสหรัฐฯ การอ่อนตัวลงของอุปสงค์ การลดลงของปริมาณการขาย และโอกาสทางการค้าที่น้อยลง ได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อผลการดำเนินงานของ Cargill และมีแนวโน้มที่จะยังคงส่งผลต่อเนื่องต่อไปในอนาคตอันใกล้ Cargill คาดว่าจะสามารถเปิดเผยผลการดำเนินงานประจำปีงบการเงิน 2552 ได้ในวันที่ 18 สิงหาคม 2552

นอกเหนือจากการประเมินเครดิตโดยใช้การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินตามหลักการทั่วไปแล้ว ฟิทช์ยังได้มีการปรับปรุงการวิเคราะห์จากหลักการทั่วไปโดยเฉพาะสำหรับ Cargill โดยในการวิเคราะห์อัตราส่วนหนี้สินของบริษัทที่อยู่ในภาคการเกษตร ฟิทช์ได้พิจารณาถึงอัตราส่วนหนี้สินที่ไม่รวมหนี้ที่ถูกใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในส่วนของสินค้าคงคลังที่พร้อมขาย (RMI) เนื่องจากสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้มีสภาพคล่องสูงและโดยทั่วไปมักจะมีการทำการป้องกันความเสี่ยงในด้านราคาไว้แล้ว ในขณะเดียวกัน ดอกเบี้ยจ่ายที่เกิดจากหนี้สินดังกล่าวจะได้รับการจัดประเภทไว้เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนขาย จึงมิได้รวมอยู่ในกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) รวมทั้งในค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยด้วย นอกจากนี้ ฟิทช์ยังไม่รวมหนี้สิน ผลกำไรที่เกี่ยวข้อง และดอกเบี้ยจ่ายของ Mosaic ในการประเมินสถานะทางเครดิตของ Cargill เนื่องจากแม้ว่า Cargill จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Mosaic และได้รวมงบการเงินของ Mosaic ไว้ในงบการเงินรวมของบริษัท แต่หนี้สินของ Mosaic ไม่มีสิทธิไล่เบี้ยและไม่ได้รับการค้ำประกันใดๆ จาก Cargill

จากการปรับปรุงดังกล่าวข้างต้น Cargill มีอัตราส่วนหนี้สินซึ่งคำนวณจากอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Total Debt to Operating EBITDA) เท่ากับ 2 เท่าในช่วง 12 เดือนล่าสุดสิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552 และอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย (EBITDA to Gross Interest Expense) เท่ากับ 6.1 เท่า Mosaic มีหนี้สินที่ไม่มีสิทธิไล่เบี้ยต่อ Cargill จำนวน 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย เท่ากับ 4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯในช่วง 12 เดือนล่าสุดสิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552 หากไม่มีการปรับปรุงดังกล่าว Cargill จะมีอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย เท่ากับ 1.7 เท่าและมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย เท่ากับ 7.8 เท่า

Cargill ก่อตั้งขึ้นในปี 2408 โดยเป็นบริษัทเอกชนที่มีสมาชิกในครอบครัวถือหุ้นเป็นส่วนใหญ่ในสัดส่วนร้อยละ 89 โดยส่วนที่เหลือเป็นของพนักงานและผู้บริหารของบริษัท Cargill มีธุรกิจหลักอยู่ 5 ธุรกิจ ประกอบด้วยธุรกิจให้บริการด้านการเกษตร ธุรกิจการผลิตและแปรรูปสินค้าเกษตร ธุรกิจวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหาร ธุรกิจการบริหารความเสี่ยงและให้บริการทางการเงิน และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร

ติดต่อ: เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล, Vincent Milton, + 662 655 4755, Judi M. Rossetti, CPA/CFA, Chicago, +1 312 368 2077

หมายเหตุ: การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้

คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๙ อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud