ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่มีประกัน และแนวโน้ม “บ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี” ที่ “A-/Stable”

อังคาร ๑๔ มกราคม ๒๐๑๔ ๑๗:๓๙
ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะที่แข็งแกร่งของบริษัทในธุรกิจยางธรรมชาติ ตลอดจนการมีฐานลูกค้าที่กระจายตัว งบดุลที่แข็งแกร่ง และผลงานของผู้บริหารที่เป็นที่ยอมรับ ทว่าความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความผันผวนของราคายางธรรมชาติและแนวโน้มความต้องการยางธรรมชาติที่อ่อนตัวลงจากความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะรักษาความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติได้ โดยงบดุลและโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งจะทำให้บริษัทสามารถเผชิญกับความผันผวนในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติและความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกได้

บริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรีเป็นหนึ่งในผู้นำในการแปรรูปและจำหน่ายยางธรรมชาติในตลาดโลก โดยมีโรงงานแปรรูป 21 แห่งในภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยและอีก 2 แห่งในประเทศอินโดนีเซีย ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 บริษัทมีกำลังการผลิตยางแปรรูปทั้งสิ้น 1,230,258 ตันต่อปี และมีส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดยางธรรมชาติทั่วโลกสำหรับช่วงครึ่งแรกของปี 2556 อยู่ที่ 9.7% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 8.9% ในช่วงเดียวกันของปี 2555 บริษัทมีความเสี่ยงจากความผันผวนของอุตสาหกรรมยาง อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานรวมทั้งการมีข้อมูลข่าวสารที่สามารถแข่งขันได้ในธุรกิจยางธรรมชาติจึงทำให้ผู้บริหารสามารถบริหารกิจการของบริษัทจนผ่านวงจรธุรกิจทั้งในช่วงขาขึ้นและขาลงมาได้หลายครั้งโดยที่ยังคงสามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 บริษัทมียอดจำหน่ายยางแปรรูปทั้งสิ้น 811,277 ตัน เพิ่มขึ้น 12.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางประมาณ 80% ให้แก่ผู้ประกอบการโดยตรงซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตยางรถยนต์ แม้ว่ายอดขายของบริษัทจะกระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมเพียงประเภทเดียว แต่บริษัทก็มีฐานลูกค้าที่ค่อนข้างหลากหลายและกระจายตัวอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก บริษัทมียอดส่งออกคิดเป็น 85% ของปริมาณขายในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 โดยมีลูกค้าหลักคือประเทศจีนซึ่งคิดเป็น 48% ของปริมาณยอดส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 40% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

ปัจจุบันผู้ผลิตยางธรรมชาติรายใหญ่ของโลกประกอบด้วยประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ผลผลิตโดยรวมจากทั้ง 3 ประเทศคิดเป็น 70% ของผลผลิตทั่วโลกที่มีปริมาณ 5.23 ล้านตันในช่วง 6 เดือนแรกปี 2556 โดยประเทศไทยเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดด้วยผลผลิตรวมทั้งสิ้น 1.69 ล้านตัน รองลงมาได้แก่ประเทศอินโดนีเซีย (1.59 ล้านตัน) และประเทศมาเลเซีย (0.39 ล้านตัน) ส่วนในด้านของการบริโภคนั้น ความต้องการยางธรรมชาติปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจาก 7.56 ล้านตันในปี 2545 มาอยู่ที่ 11.04 ล้านตันในปี 2555 โดยประเทศจีนเป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดคิดเป็น 35% ของปริมาณผลผลิตยางธรรมชาติทั่วโลก แม้ว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2556 จะอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่การบริโภคยางธรรมชาติทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 5.49 ล้านตันในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2556 โดยเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณความต้องการยางล้อของผู้ผลิตยางล้อในประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้ยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก นอกจากนี้ การยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกายังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ปริมาณการส่งออกของจีนไปยังประเทศดังกล่าวเพิ่มขึ้นด้วย

อุตสาหกรรมยางแปรรูปเป็นอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนวัตถุดิบคิดเป็น 96%-98% ของต้นทุนการผลิตยางแปรรูป ผู้ประกอบการจึงมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคายางธรรมชาติเป็นอย่างมากซึ่งส่งผลทำให้กำไรและกระแสเงินสดมีแนวโน้มแปรปรวน ดังนั้นเพื่อที่จะรักษาระดับกำไรให้คงที่ บริษัทจึงมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มปริมาณขายและการขยายส่วนแบ่งทางการตลาดเพื่อชดเชยกับอัตรากำไรที่ลดลงในช่วงที่สภาพตลาดยากลำบาก นอกจากนี้ บริษัทยังได้พยายามซื้อขายโดยตรงกับผู้ผลิตสินค้าและเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราเพื่อให้สามารถประเมินแนวโน้มอุปสงค์และอุปทานในตลาดได้ กระนั้นก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านราคาในช่วงที่ราคายางมีความผันผวนในระดับสูงไปได้ดังปรากฏในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 จนถึงครึ่งแรกของปี 2556

ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2556 ดีกว่าในปี 2555 โดยปริมาณขายเพิ่มขึ้น 12.41% จาก 721,730 ตันในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 มาอยู่ที่ 811,277 ตันในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 อัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 5.5% จากที่ระดับ 3.5% ในช่วงเดียวกันของปี 2555 อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา (ไม่รวมการกลับรายการของการด้อยค่าของสินค้าคงเหลือ) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.27% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 จากที่ระดับ 0.26% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าหนี้เงินกู้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 15,858 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 จากเดิมที่ 14,853 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 บริษัทยังคงมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแรงที่ระดับ 44.76% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2556

บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (STA)

อันดับเครดิตองค์กร: A-

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

STA14DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A-

STA16DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 550 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A-

STA162A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A-

STA182A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A-

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๓๖ โรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัล Digital Transformation Initiative of the Year 2024 จากเวที Healthcare Asia Awards
๑๒:๐๐ กลับมาอีกครั้งกับงานช้อปอย่างมีสไตล์ รายได้เพื่อชุมชน ครั้งที่ 14 เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ ชวนมาช้อป ชม ของดี ของเด็ดประจำจังหวัดปทุมธานี ระหว่าง 4 - 10
๑๒:๓๙ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สนับสนุนพื้นที่ กรมพลศึกษา จัดแข่งขันกีฬากระบี่กระบองระหว่างโรงเรียน กิจกรรมสร้างสรรค์เสริมทักษะเยาวชน ส่งเสริม SOFT POWER
๑๑:๑๕ TOA ย้ำแชมป์สีเบอร์หนึ่ง คว้า 2 รางวัลใหญ่ 'สุดยอดองค์กร และแบรนด์สีที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นมากที่สุด' 13 ปีซ้อน Thailand's Most Admired Company Brand ปี
๑๑:๔๒ ไทยพีบีเอสยกระดับรู้เท่าทันภัยออนไลน์ ผนึกกำลัง 8 หน่วยงาน ป้องกัน-กวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์
๑๑:๕๘ ศิษย์เก่าวิศวฯ SPU กว่า 5 ทศวรรษ ร่วมย้อนวันวานในงาน วิศวฯ คืนถิ่น SEAN HOMECOMING 2024
๑๑:๑๓ เฮงลิสซิ่ง ร่วมสืบสานประเพณีท้องถิ่น ฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2567
๑๑:๔๕ YouTrip สาดความคุ้มต้อนรับสงกรานต์กับ 2 โปรพิเศษ 4.4 Travel Sale และ Japan Mega Cashback รับส่วนลดสุดคุ้มจากแบรนด์ท่องเที่ยวดัง และเงินคืนสูงสุด 2,000
๑๑:๕๒ คณะเศรษฐศาสตร์ ม.รามคำแหง เชิญเข้าร่วมงานสัมมนาวิชา อนาคตเศรษฐกิจไทย: ยืดหยุ่นและยั่งยืน
๑๑:๑๐ เจแอลแอล ประเทศไทย เผยเทรนด์ ESG ของปี 2567 และเป้าหมายสู่อุตสาหกรรมสีเขียวของวงการอสังหาฯ