ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,609 คู่สัญญาแบบ 10 บาทอยู่ที่ 8,662 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 11% แบบ10 บาท ลดลง 10% GFZ14 ปิด 18,220 บาท และ GFG14 ปิด 18,280 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,210 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,250 บาท
สัญญา Comex ลดลง 10 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,159.8 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 77.4 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 725.36 ตัน (ขายออก 1.79 ตัน)
ข่าวที่สำคัญ
-ทองคำปรับตัวลดลงเพราะได้รับแรงกดดันจากการแรงเทขายของกลุ่มนักลงทุน ทำให้ราคากลับมาทรงตัวบริเวณ 1,150 เหรียญ/ออนซ์ อีกครั้ง และไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับประมาณ 1,148 เหรียญ/ออนซ์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าอีกครั้ง ขณะที่ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
-นักวิเคราะห์จากแบงก์ออฟโนวา สกอเทีย กล่าวว่า ตลาดทองคำยังคงมีแนวโน้มที่เปราะบาง เนื่องจากนักลงทุนยังคงให้ความสนใจไปยังมุมมองเชิงบวกของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และตลาดหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่กองทุน ETF ยังคงลดการถือครองทองคำต่อเนื่อง จึงคาดว่าจะไม่มีปัจจัยใดขณะนี้ที่ส่งผลให้ราคาทองคำเปลี่ยนไปจากทิศทางขาลง
-เมื่อวานนี้ SPDR ลดการถือครองทองคำลง 1.79 ตัน โดยเป็นการลดการถือครองทองคำติดต่อกัน 5 วันทำการ ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 725.36 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งเเต่ 26 กันยายน 2008
-นักกลยุทธ์จาก Forexlive ระบุว่า ราคาทองคำยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 1,180 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับ Triple – Bottom ซึ่งเคยเป็นแนวรับสำคัญ และขณะนี้กลายมาเป็นแนวต้านสำคัญ โดยจะเห็นได้ว่าราคาทองคำยังคงเป็นแนวโน้มขาลง หลังจากไม่สามารถฝ่ามายืนที่ระดับ 1,200 เหรียญ/ออนซ์ได้
-นักวิเคราะห์จากฟิลลิป ฟิวเจอร์ กล่าวว่า ในเชิงเทคนิคแม้ว่าราคาทองคำจะมีการรีบาวน์กลับขึ้นมา แต่ทิศทางหลักยังคงเป็นขาลง และเชื่อว่าราคาจะไม่สามารถรีบาวน์ผ่าน 1,185 เหรียญ/ออนซ์ได้
-นักวิเคราะห์บางส่วน คาดการณ์ว่า ในช่วงปลายเดือนนี้ราคาทองคำอาจเกิดความผันผวนอย่างหนัก เนื่องจากชาวสวิตเซอร์แลนด์จะมีการลงคะแนนเสียงเพื่อหามติว่า ธนาคารกลางสวิสเซอร์แลนด์ควรถือครองทองคำอย่างน้อย 20% ในสินทรัพย์ของธนาคารหรือไม่
-ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 1.2434 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2437 ยูโร/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการฟื้นตัวอีกครั้ง หลังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
-อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมของค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงต้นปี 2015 รวมถึงบีโอเจ ขณะที่อีซีบีมีการประกาศดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น
-นายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะเพิ่มการใช้ค่าเงินรูเบิลและค่าเงินหยวนในการชำระบัญชีการค้ากับจีนให้มากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมถึงการซื้อขายในภาคพลังงานด้วย
-นายโฮเซ่ มานูเอล บาร์รอสโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในเอเชียมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนให้กับประชาชนกว่าหลายล้านคน ขณะที่ยุโรปมีการตอบรับเป็นอย่างดีในการรับผลประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชีย
-เมื่อวานนี้ มีการเปิดเผยยอดหนี้สินของรัฐบาลญี่ปุ่นประจำเดือนกันยายน อยู่ที่ระดับ 1,038.9 ล้านล้านเยน และคาดว่าในสิ้นปีงบประมาณจะอยู่ที่ระดับ 1,143.9 ล้านล้านเยน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้กับ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เพื่อให้เกิดการฟื้นฟูความแข็งแกร่งด้านกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น ซึ่งมีสถานะย่ำแย่ที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
-น้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังมีกระแสข่าวว่า กลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) อาจไม่ปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันดิบในการประชุม27 พ.ย.นี้ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ลิเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของแอฟริกาจะกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง
-เมื่อคืนนี้ดัชนีดาวโจนส์ปิด +0.23% เป็นการปิดแดนบวกต่อเนื่อง 5 วันทำการ และยังคงทำสถิติปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯของกลุ่มนักลงทุน รวมถึงผลประกอบการของภาคเอกชน
-อย่างไรก็ดี ฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยในช่วงวันหยุดของสหรัฐฯกำลังใกล้เข้ามา นักลงทุนจึงเฝ้ารอรายงานยอดขายปลีกของบริษัทรายใหญ่ รวมถึง วอล-มาร์ท และเมซี ซึ่งมีกำหนดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคจะคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของจีดีพีสหรัฐฯ
-เช้านี้ ดัชนีนิเกอิเปิด +0.53% ตามการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ ทำสถิติปิดแตะระดับสูงสุเดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง 4 วันทำการ
-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.75-32.85 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องจับตาไปยังข้อมูลเศรษฐกิจยุโรป เนื่องจากอาจประสบภาวะชะลอตัวต่อเนื่อง
-ธปท. เผย ตลาดเงินของเอเชียมีความผันผวนซึ่งเป็นไปตามที่ได้คาดการณ์ จากนโยบายที่แตกต่างกันชัดเจนของเศรษฐกิจหลัก หลังอีซีบี และบีโอเจ จะยังคงอยู่ในทิศทางผ่อนคลายต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษมากขึ้น ขณะที่นโยบายของเฟดยังมีความชัดเจนต่อเนื่องว่าอยู่ในทิศทางขาขึ้น
-ในวันนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ เนื่องจากตลาดส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ ปิดทำการในวันหยุด ทหารผ่านศึก "Veterans Day"
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน
- ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้
- ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากแรงเทขายทำกำไร และแรงเทขายต่อเนื่องจาก SPDR อีก 1.79 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 725.36 ตัน โดยที่ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2434 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2510 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา เมื่อวานนี้ไม่มีการประกาศใดๆ แต่ภาพรวมยังคงให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา และวันนี้เป็นวันทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ (Veterans Day) จึงไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ ขณะที่ตลาด COMEX ยังคงเปิดทำการตามปกติ ซึ่งในวันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวกรอบแคบๆ
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในระยะสั้นกราฟรายชั่วโมงจะเห็นว่าราคากลับเป็นแนวโน้มขาลงอีกครั้งหลังหลุดแนวรับแรก 1,168 เหรียญลงมา ในระยะยาวยังเป็นแนวโน้มขาลง ซึ่งในวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ Sidewaysระหว่าง 1,150 – 1,175 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ลงทุนตามการแกว่งตัวของราคาทองคำ โดยเน้นลงทุนในแนวโน้มขาลง
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
แนะนำให้ปิดสถานะ Long หรือทำกำไรออกไป
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังคงเป็นลักษณะการถือครองทองคำในระยะยาว ทำสถานะ Short Position เพิ่มเมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้น
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
Wait&See เน้นลงทุนในลักษณะแนวโน้มขาลง
Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,110 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,310 บาท
Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,170 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,370 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. พบบูธ MTS Gold และโปรโมชั่นแรง X6 ภายในงาน “SET in the City 2014” ในวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2557 เวลา 10.00-20.00น. ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-770-7777
2. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 2) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าวชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777
(เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา).
3. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791”
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และGold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.
MTS Research
MTS Gold Group
Phone: 02-770-7777
Fax: 02-623-9366
Email: [email protected]
Website: http://www.mtsgold.co.th