บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จํากัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ โดยแนะนำให้ “ซื้อ” หุ้น บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BIG) โดยคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2558 จะเพิ่มขึ้น 87% และปี 2559 ขยายตัว 15% ราคาพื้นฐานเป็น 1.45 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 2558 ที่ 20 เท่า
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/58 ของ BIG ออกมาดีมากสวนกระแสกลุ่มพาณิชย์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ต่ำลง เพราะสินค้าบริษัทเจาะตลาดลูกค้าระดับบนจนถึงสูง กำไรสุทธิเติบโตถึง 102% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากรายได้จากการขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น
ปัจจุบัน BIG ครองส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) เกิน 50% และคาดว่าใน 2-3 ปี ข้างหน้าจะมีส่วนแบ่งตลาด 70-80% มีสาขามากสุดในประเทศไทย 215 สาขา และตั้งอยู่ทั่วประเทศ โดยปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขาใหม่ปีนี้ 10 แห่ง ตามห้างสรรพสินค้าที่เปิดใหม่ๆ และได้รับความนิยมจึงเติบโตเร็ว
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมากลุ่มกล้อง Compact ถดถอยเพราะถูกทดแทนด้วย Smart Phone และทำให้การถ่ายภาพได้รับความนิยมมาก แต่กล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพระดับกลางถึงบน ซึ่งมีคุณภาพการถ่ายภาพที่สูงและภาพออกมาส่วนงามกว่า Smart Phone กลับมีความต้องการสูงขึ้น โดยเฉพาะ Compact ที่มีคุณภาพสูงและ Mirrorless สำหรับมูลค่าตลาดในปี 2556 เป็นประมาณ 5 พันล้านบาท”บทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุ
นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BIG) กล่าวว่า มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ในปีนี้จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 10 แห่ง และเดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย รวมถึงจัดไลน์อัพสินค้า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ เช่น กล้องมิลเลอร์เลส กล้องโพลาลอยด์ กล้องฟรุ้งฟริ้ง ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยม
ทั้งนี้ ในปี 2558 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 100 ล้านบาท แบ่งเป็น 40 ล้านบาท ใช้ขยายสาขา Big Camera เพิ่มอีก 10 แห่งและปรับปรุงสาขาเดิม ปัจจุบันมีร้าน Big Camera อยู่ที่ 214 สาขา และ ร้าน Big Mobile จำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือมี 23 สาขา ส่วนอีก 50 ล้านบาทเป็นงบการตลาดประชาสัมพันธ์
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/58 บริษัทมีรายได้รวม 982 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 820 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 36 ล้านบาท