ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) หรือ LDC เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากอัตราการเข้ามาใช้บริการของลูกค้าในช่วงไตรมาส 3/2558 มีทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2558 แต่น่าจะยังทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในไตรมาส 4/2558 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี เนื่องจากบริษัทฯ ได้พยายามปรับกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อกระตุ้นการเข้าใช้บริการ ประกอบกับการรับรู้รายได้จากสาขาใหม่ในต่างจังหวัด ที่จะทยอยเปิดให้ดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงปลายปีนี้จำนวน 9 สาขา จึงยังคงมั่นใจว่า บริษัทฯ จะมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ สร้างผลประกอบการที่ดีให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ และยังคงเป้าหมายรายได้ทั้งปีนี้จะเติบโต 10% จากปี 2557 ที่มีรายได้ 341.03 ล้านบาท รวมทั้ง ตั้งเป้าจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเป็น 40 สาขา เพื่อสนับสนุนเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นแตะ 1,000 ล้านบาทในปี 2560
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิดสาขาใหม่ในต่างจังหวัดช่วงไตรมาส 4/2558 จำนวน 9 สาขา แบ่งเป็นสาขาใน จ.นครพนม และ จ.มุกดาหาร ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ส่วนจ.เชียงราย จ.นครสวรรค์ และ จ.นครราชสีมา คาดว่าจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน และ จ.มหาสารคาม จ.ลำปาง จ.นครศรีธรรมราช และ จ.อุบลราชธานี คาดว่าจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2558 สนับสนุนให้สิ้นปีนี้ LDC จะมีสาขารวมกันทั้งสิ้น 30 สาขา จากปัจจุบันมี 21 สาขา นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างเดินหน้าหาทำเลใหม่ที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่องซึ่งปัจจุบันมี 2 ทำเลแล้วที่อยู่ระหว่างหาผู้รับเหมาในการก่อสร้าง เพื่อรุกการขยายสาขาในปีหน้า
นอกจากแผนขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องแล้วนั้น บริษัทฯ ก็ให้ความสำคัญในการเติบโตของสาขาเก่าให้มีการเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์สาขาเก่าในทำเลต่างๆ ให้เหมาะสม โดยในช่วงไตรมาส 2/2558 ที่ผ่านมา บริษัทเล็งเห็นถึงพื้นที่บางสาขาของ LDC ที่ต้องนำมาปรับเปลี่ยนเป็นแบรนด์ใหม่ให้มีราคาถูกกว่า LDC สาขาปกติ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับล่าง โดยเริ่มจากการทดลองปรับเปลี่ยนร้านสาขาเดิมของ LDC จำนวน 2 สาขา ภายใต้ชื่อ "คลินิกใส่ใจทันตแพทย์" ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
"LDC ยังคงเดินหน้าตามแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนภาพรวมธุรกิจในอนาคตให้แข็งแกร่ง และจากแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องนั้น ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจบริษัทฯ มีผลขาดทุนจากการลงทุน เพราะสาขาใหม่แต่ละสาขาจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนได้ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 5 ปี แต่มั่นใจว่า ในปี 2560 บริษัทฯ จะมีรายได้แตะ 1 พันล้านบาท และผลประกอบการจะสามารถพลิกกลับมาเป็นกำไร" ทันตแพทย์ วัฒนากล่าว
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ งวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทฯมีรายได้รวม 157.24 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 173.21 ล้านบาท โดยลดลง 9.22% สาเหตุเกิดจากรายได้จากการบริการทางการแพทย์ลดลง และการชะลอการใช้จ่ายของลูกค้า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวจากปีก่อน ทำให้ยอดขายในบางสาขาลดลงโดยเฉพาะในช่วงต้นปี 2558นอกจากนั้น ในช่วงไตรมาส 4/2557 บริษัทมีนโยบายในการเพิ่มฐานลูกค้า โดยการแจกบัตรสมาชิกให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการในขณะนั้น ลูกค้าจึงนำบัตรสมาชิกมาใช้เป็นส่วนลดในงวดนี้มากขึ้น ส่งผลให้ยอดส่วนลดเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ส่วนกำไรสุทธิของบริษัทฯลดลงมากเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 14.10 ล้านบาท หรือลดลง 377% สาเหตุหลักเกิดจากรายได้รวมลดลง และเนื่องจากมีการเปิดสาขาใหม่ 2 สาขาในไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ปี 2557 จึงมีค่าใช้จ่ายต่างๆเพิ่มขึ้น เช่นค่าตอบแทนทันตแพทย์ ค่าเช่าพื้นที่ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับพนักงาน ในขณะที่รายได้ค่ารักษาทางการแพทย์ยังมีไม่มาก ซึ่งเป็นปกติธุรกิจสำหรับการเปิดสาขาใหม่ นอกจากนั้นยังมีค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้น เช่น เงินเดือน เนื่องจากมีการเพิ่มอัตราพนักงานมากขึ้นในหลายแผนก หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงมีงานต่างๆ เพิ่มขึ้น และในปี 2558 บริษัทอยู่ในช่วงการขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ จึงมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางสำรวจพื้นที่ต่างๆ