คอนเซ็ปต์ของ Sticker LINE ชุดดังกล่าว บริษัทฯ ตั้งใจให้มีความสอดคล้องกับแอปพลิเคชัน "MTL Six Packs" ที่บริษัทฯ เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ โดยเป็น แอปพลิเคชันที่จะช่วยเชื่อมต่อกิจกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพความเป็นอยู่ที่ดี ให้สามารถเข้ามาอยู่บนโลกดิจิทัลได้สะดวกรวดเร็วขึ้น รวมถึงผู้ใช้งาน ยังได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพด้วย เช่น ส่วนลดจากร้านค้าที่ร่วมรายการ และสิทธิ์แลกรับของรางวัลต่างๆ เป็นต้น
เมืองไทยประกันชีวิต "ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง" ไม่ว่าจะเป็นความต้องการด้านผลิตภัณฑ์และบริการ ไลฟ์สไตล์ กิจกรรมและความสนใจ ตลอดจนช่องทางการติดต่อสื่อสารที่เข้าถึงได้สะดวก ซึ่งปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์ หรือ Social Media ถือเป็นช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ในวงกว้าง โดยเฉพาะแอปพลิเคชัน LINE ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านคนในประเทศไทย (ข้อมูลอ้างอิงจาก Official LINE Account ที่มีจำนวนผู้ติดตามมากที่สุดในประเทศไทย ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2559)
นายสาระ กล่าวอีกว่า เมืองไทยประกันชีวิตมุ่งมั่นพัฒนาการสื่อสารผ่านแอปพลิเคชัน LINE มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 เพื่อเป็นช่องทางการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงสิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้าของเมืองไทยประกันชีวิต สำหรับการจัดทำ Sticker LINE ทางบริษัทฯ ได้เริ่มตั้งแต่ปี 2556 จนมาถึงชุดปัจจุบัน ซึ่งเป็นชุดที่ 12 "ฟิต ฟิต กับรักษ์ยิ้ม" โดยเมืองไทยประกันชีวิต เป็นบริษัทประกันชีวิตรายแรกที่ได้ส่งโฆษณาผ่าน แอปพลิเคชัน LINE TV และยังได้เพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่ซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์ ได้ชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตผ่าน LINE Pay ได้อีกหนึ่งช่องทาง ทำให้การซื้อประกันเป็นสะดวกขึ้น และสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่นิยมทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยตนเอง
นอกจากนี้ เมืองไทยประกันชีวิตยังคงเดินหน้าพัฒนาช่องทางการสื่อสารใหม่ๆ เพื่อตอบรับกับกระแสดิจิทัลโมบายด้วยช่องทาง LINE Business Connect ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้แบบตรงกลุ่มมากขึ้น ทั้งนับเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงการนำเสนอโครงการ และแนะนำผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตใหม่ ที่เป็นลักษณะเฉพาะกลุ่มหรือบุคคลมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ พบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าและผู้ที่สนใจ โดยจำนวนผู้ติดตามใน LINE Official Account ของเมืองไทยประกันชีวิต เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งปัจจุบัน LINE Official Account "MUANG THAI LIFE" ของบริษัทฯ มีจำนวนผู้ติดตามมากกว่า 35 ล้านคน ซึ่งเป็นอันดับ 2 ในประเทศไทยและเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มธุรกิจการเงินและประกันภัย (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ส.ค. 59)
นายสาระ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งกับกลยุทธ์การสื่อสารผ่านช่องทางสังคมออนไลน์ (Social Media) ความสำเร็จที่ดีเยี่ยมดังกล่าว เกิดจากการกำหนดกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการประยุกต์ใช้ Social Media ต่างๆ ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน และยังติดตามกระแสความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีต่างๆ อยู่เสมอ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจประกัน ควบคู่ไปกับการศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าในยุคดิจิทัลมากขึ้น โดยบริษัทฯ พัฒนารูปแบบการสื่อสารโดยใช้ Content Marketing เป็นตัวนำ เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการว่าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างไร รวมถึงสร้าง Engagement กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความผูกพันและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของลูกค้า ตลอดจนรับฟังข้อคิดเห็น เพื่อนำมาพัฒนาต่อไป
"เรามองว่ากลยุทธ์เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การนำ Social Media มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะใช้กลยุทธ์นี้เป็นตัวต่อยอดความสำเร็จในการทำตลาดออนไลน์ต่อไปด้วย เพราะไลฟ์สไตล์ลูกค้าในช่วงต่อจากนี้ไป จะอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ และดิจิทัลจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันอย่างแยกไม่ออก ด้วยนโยบายที่เราจะมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้าน "Digital Insurer" ให้ได้นั้น เมืองไทยประกันชีวิตก็ต้องไปอยู่ในโลกของลูกค้าอย่างกลมกลืนเช่นกัน" นายสาระ กล่าว