เบเคอร์ แม็คเค็นซี่ เติบโตเคียงข้างผู้ประกอบการและสังคมไทยมาตลอด 40 ปี โดยเฉพาะในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง มีการขยายและพัฒนาทีมที่ปรึกษาทางกฎหมายให้สามารถตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นของทั้งลูกค้าไทยและต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากมองเห็นโอกาสทางธุรกิจและแผนการลงทุนระยะยาวของประเทศไทย ปัจจุบัน เบเคอร์ แม็คเค็นซี่ให้บริการด้านกฎหมายแก่ลูกค้าในทุกกลุ่มธุรกิจ
นายทินวัฒน์ พุกกะมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัทเบเคอร์ แม็คเค็นซี่ กล่าวว่า "ตลอด 4 ทศวรรษ ที่ผ่านมา เบเคอร์ แม็คเค็นซี่ ได้ช่วยบริษัทชั้นนำระดับโลกและบริษัทไทยหลายร้อยแห่ง ในการก่อตั้งบริษัทและขยายธุรกิจในประเทศไทย รวมทั้งมีส่วนสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมนักกฎหมายกว่า 250 คน และพาร์ทเนอร์กว่า 50 คน ทำให้เบเคอร์ แม็คเค็นซี่ เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านกฎหมายอันดับหนึ่งของประเทศ นอกจากนี้ เรายังมีสำนักงานกฎหมายอีก 77 แห่ง ใน 47 ประเทศทั่วโลก"
นายทินวัฒน์ กล่าวเสริมว่า ลูกค้าของเบเคอร์ แม็คเค็นซี่มีทัศนคติที่ดีต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของไทย เนื่องจากประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน โดยการรวมกลุ่มของประเทศในภูมิภาคภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
นายแกรี่ ซีฟ ประธานบริษัทเบเคอร์ แม็คเค็นซี่ ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า "การจัดงานประชุมระดับเอเชียแปซิฟิกประจำปีในประเทศไทย เป็นโอกาสอันดีในการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยแก่นักกฎหมายอาวุโสด้านการค้าและลูกค้าของเบเคอร์ แม็คเค็นซี่จากทั่วโลก บริษัทคาดว่างานประชุมที่จะจัดขึ้นตลอด 1 สัปดาห์จะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 550 คน โดยในจำนวนนี้จะประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูง นักกฎหมายอาวุโสและเจ้าหน้าที่ของเบเคอร์ แม็คเค็นซี่ รวม 350 คน ภายในงานจะมีการจัดประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับลูกค้า (Client Forum) สำหรับผู้บริหารองค์กรธุรกิจชั้นนำของไทย รวมทั้งการนำเสนอรายงานผลวิจัยที่ครอบคลุมในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับตลาดเอเชียและประเทศไทย"
"ยกตัวอย่าง เช่น การแยกตัวออกมาจากสหภาพยุโรปของอังกฤษและรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ กำลังเป็นปัจจัยของความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ล่าสุดที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน ในช่วงเวลาเช่นนี้ บริษัทจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้ลูกค้าปรับตัวได้ทันท่วงที ท่ามกลางสภาวะตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าของเบเคอร์ แม็คเค็นซี่ในประเทศไทยเข้าใจเป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันบริษัทก็ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้ามาโดยตลอด ด้วยการสร้างความสำเร็จในการช่วยให้ลูกค้ามีกระบวนการตัดสินใจทางธุรกิจที่ง่ายขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ซับซ้อนเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ"
สำหรับบริษัทเบเคอร์ แม็คเค็นซี่ เปิดดำเนินการในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2520 ปัจจุบันบริษัทให้บริการด้านกฎหมายและธุรกิจ ครอบคลุมทั้งการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะของกิจการ (Due Diligence) การควบรวมกิจการ (M&A) และภายหลังการควบรวมกิจการแล้ว (Post-acquisition Integration) รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านภาษี ทรัพย์สินทางปัญญา สินเชื่อโครงการ ตลาดทุนและหลักทรัพย์ในประเทศ และการซื้อขายหลักทรัพย์ข้ามพรมแดน การระงับข้อพิพาทและกฎหมายการจ้างงาน ทั้งนี้
เบเคอร์ แม็คเค็นซี่ดูแลลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น พลังงาน การทำเหมืองแร่และโครงสร้างพื้นฐาน การดูแลสุขภาพ ยา โรงแรมและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริการด้านการเงิน การธนาคาร รวมถึงฟินเทค สินค้าอุปโภค และธุรกิจค้าปลีก