การสัมมนาในหัวข้อสนทนา "เหนือความผันผวน ทวนกระแสหาโอกาสลงทุน" มีวิทยากรรับเชิญประกอบด้วย นายศรชัย สุเนต์ตา, CFA ผู้อำนวยการอาวุโส Investment Advisory ธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะผู้ดูแลหน่วยงาน Chief Investment Officer (CIO) ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลกลยุทธ์การลงทุนของ SCB PRIVATE BANKING และนายวนา พูลผล, CFA กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) มาร่วมให้มุมมองพร้อมเสนอแนะแนวทางการวางแผนการลงทุนในสถานการณ์ที่มีการผันผวน
นายศรชัย สุเนต์ตา กล่าวว่า "เศรษฐกิจโลกในปี 2017 มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนพอสมควร กลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) มีความน่าสนใจในการลงทุนมากกว่าตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Market) เนื่องจาก ราคาตามมูลค่าพื้นฐาน (Valuation) ของดัชนีฯ ส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว และประเทศในกลุ่ม Emerging Market มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้จากการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และตามการส่งออกที่ฟื้นตัว ซึ่งตลาดหุ้นในกลุ่มนี้ ที่น่าสนใจลงทุน คือ ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่โซนเอเชีย ได้แก่ Emerging Asia ไม่รวมญี่ปุ่น, ตลาดหุ้นจีน อินเดีย และ ไทย ในส่วนของการลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารหนี้ภาคเอกชน (Corporate Bond) มีความน่าสนใจในการลงทุนมากกว่า พันธบัตรรัฐบาล (Government Bond) เนื่องจาก ตราสารหนี้ภาคเอกชนมีส่วนของอัตราดอกเบี้ย (Coupon) มากกว่าพันธบัตรรัฐบาลในช่วงอายุเดียวกัน ทำให้ผลกระทบเชิงลบที่จะได้รับจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed มีน้อยกว่าพันธบัตรรัฐบาล และส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย (credit spread) มีแนวโน้มจะแคบลงอีก เนื่องจากงบดุลของบริษัทโดยรวมมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามเศรษฐกิจที่ปรับตัวได้ดี ซึ่งจะส่งผลดีต่อการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน ทั้งในส่วนของ Investment Grade และ High yield Bond Fund ระยะสั้น ในต่างประเทศ สำหรับความเสี่ยง และความผันผวนของตลาดในปีนี้จะอยู่ที่ปัจจัยของความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด"
ส่วนการบรรยายพิเศษในหัวข้อ "บริหารภาษีอย่างมืออาชีพผ่าน Holding Company" มีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอย่างดร.สาธิต ผ่องธัญญา ผู้อำนวยการอาวุโส Family Office Business ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมให้ความรู้พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสิทธิประโยชน์ทางภาษีสนับสนุนการประกอบกิจการในรูปแบบของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ว่า "การจัดตั้งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล (Holding Company) ตามกฎหมายไทย เพื่อถือหุ้นอย่างน้อยร้อยละ 25 ในบริษัทไทย และบริษัทต่างประเทศ ตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดนั้น ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี คือการยกเว้นภาษีจากเงินปันผลที่ได้รับจากการถือหุ้นในบริษัท Holding Company เพื่อประโยชน์ในการบริหารทรัพย์สินของกลุ่มครอบครัว ดังนั้น ทีม Estate Planning and Family Office ภายใต้หน่วยงาน SCB PRIVATE BANKING จึงเห็นว่าการทำธุรกิจโดยการจัดตั้งเป็นบริษัท Holding Company จะได้ประโยชน์จากอัตราภาษีเงินได้ที่ต่ำกว่าอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และการจัดโครงสร้างธุรกิจแบบบริษัท Holding Company เป็นรูปแบบการจัดโครงสร้างที่เอื้อประโยชน์ในการถือครองหุ้นของครอบครัวให้สามารถควบคุมการลงทุนได้ พร้อมทั้งสามารถทำธุรกิจได้หลากหลายอีกด้วย อีกทั้งยังช่วยส่งต่อความมั่งคั่งและรักษาทรัพย์สินที่มีอยู่จากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างสมบูรณ์ และไร้ความกังวล"