สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 07 กันยายน 2560 โดย YLG

พฤหัส ๐๗ กันยายน ๒๐๑๗ ๑๗:๔๒
สภาวะตลาดวันที่ 07 กันยายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,332.21-1,339.22 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,950 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV17 อยู่ที่ 21,090 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,140 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.52น. ของวันที่ 07/09/60)

แนวโน้มวันที่ 08 กันยายน 2560

การผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลสหรัฐมีโอกาสน้อยลง เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐบรรลุข้อตกลงอย่างพลิกความคาดหมายกับสมาชิกสภาคองเกรสพรรคเดโมแครตในการต่ออายุเพดานหนี้สหรัฐ และในการจัดสรรเงินทุนให้แก่หน่วยงานรัฐบาลต่อไปในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณใหม่ หรือ จนถึงวันที่ 15 ธ.ค. นอกจากนี้จะมีการจัดสรรเงินช่วยเหลือสำหรับเหยื่อของพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ด้วย ซึ่งกำจัดความเสี่ยงต่อการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ จนทองคำทองคำในฐานสินทรัพย์ปลอดภัยถูกขายออกมา ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยง เช่นตลาดหุ้นสหรัฐ และตลาดหุ้นโซนเอเชียปรับตัวขึ้นตอบรับข่าวดังกล่าว ขณะที่ กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยว่า สัดส่วนการถือครองทองของกองทุนลดลง 0.35% สู่ระดับ 837.12 ตัน โดยเป็นการลดการถือครองทองคำลงครั้งแรกในรอบประมาณ 1 เดือน ขณะที่ปธน.ทรัมป์ กล่าวอีกว่า เขาจะพิจารณา "รายละเอียดอย่างมาก" ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้าเกี่ยวกับแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐ ซึ่งยังขาดรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจง ทำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการสะสมทองคำเพิ่มเติม ทั้งนี้ราคาทองคำในประเทศได้รับแรงกดดันเพิ่ม จากค่าเงินบาทต่อดอลลาร์แข็งค่าแตะระดับมากที่สุดในรอบกว่า 28 เดือน ที่ 33.11 โดยได้แรงหนุนจากกระแสเงินทุน ที่ยังไหลเข้ามาต่อเนื่องในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม ความกังวลว่า เกาหลีเหนืออาจจะยิงขีปนาวุธอีกครั้งในวันที่ 9 ก.ย. ซึ่งถือเป็นวันประกาศเอกราชของเกาหลีเหนือ ยังคงพยุงราคาทองคำไว้ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,331-1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำยังมีโอกาสจะดีดตัวขึ้นได้ นักลงทุนจึงจำเป็นต้องติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดเพราะการเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังขึ้นอยู่กับกระแสข่าว เป็นตัวนำทางราคาทองคำต่อไป

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก อาจมีการอ่อนตัวลงบ้างในระยะสั้น หากราคาทองคำมีการปรับลดลงทดสอบแนวรับและไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,331-1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำมีโอกาสดีดตัวกลับ และยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านโซน 1,352 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้ แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,327 (20,750บาท) 1,316 (20,600บาท) 1,304 (20,400บาท)

แนวต้าน 1,352 (21,150บาท) 1,366 (21,400บาท) 1,375 (21,550บาท)

GOLD FUTURES (GFV17)

แนวรับ 1,327 (20,900บาท) 1,316 (20,730บาท) 1,304 (20,540บาท)

แนวต้าน 1,352 (21,300บาท) 1,366 (21,520บาท) 1,375 (21,660บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๒๒ เสนา ตอกย้ำความสำเร็จ ในการจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร
๐๙:๑๑ EP พร้อมเดินหน้ารับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานลม ดันผลงานปี67โตทะยาน 4 เท่า หลังได้รับการสนับสนุนเงินกู้ Project Finance จาก
๐๙:๓๘ BEST Express บุก บางบัวทอง เปิดแฟรนไซส์ขนส่งสาขาใหม่ มุ่งศึกษาพื้นที่ เจาะกลุ่มลูกค้าที่แตกต่าง ตอบความต้องการตรงจุด
๐๙:๑๗ ผถห.TQR โหวตจ่ายปันผลปี 66 อีก 0.226 บ./หุ้น รวมทั้งปี 0.40 บ./หุ้น ลุยพัฒนาโปรดักส์ประกันภัยต่อรูปแบบใหม่เต็มสปีด
๐๙:๓๗ CPANEL APM ร่วมต้อนรับคณะนักธุรกิจชาวกัมพูชา พร้อมนำเยี่ยมชมกระบวนการผลิต Precast จ.ชลบุรี
๐๘:๒๒ SCGP ทำกำไรไตรมาสแรก 1,725 ล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ
๐๘:๐๑ คณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดบ้านต้อนรับนักเรียนมัธยม โชว์หลักสูตรฉุกเฉินการแพทย์
๐๘:๔๗ ค่ายสมหวัง สร้างโอกาส รุ่นที่ 4 ขยายความรู้ทางการเงินสู่เครือข่ายคนรุ่นใหม่ต่อเนื่อง
๐๘:๕๓ ส่องสัญญาณฟื้นตัว ตลาดรับสร้างบ้านไตรมาส 2 รับผลบวกมาตรการรัฐกระตุ้นกำลังซื้อ - ยอดสั่งสร้าง
๐๘:๕๕ RSP จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห.ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.13 บ./หุ้น กำหนดจ่าย 15 พ.ค. นี้