นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในปี 2561 คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% และกำไรสุทธิเติบโตกว่าปีก่อน จากภาพรวมตลาดซอสปรุงรส น้ำจิ้ม และเครื่องประกอบอาหารไทยยังคงได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศ เป็นโอกาสของบริษัทฯ ในการขยายตลาดและมีความต้องการซื้อสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมียอดขายจากการส่งออกราว 99.8% และมีสินค้ากลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ มีสัดส่วนประมาณ 71.86% ของรายได้ทั้งหมด
สำหรับโรงงานแห่งใหม่แห่งที่ 2 ตั้งอยู่ในนิคมอมตะซิตี้ จ.ระยอง สามารถเดินเครื่องผลิตได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว สนับสนุนกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มให้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว และจะเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันให้ยอดขายเติบโตในอนาคต
"ปีนี้เชื่อว่าภาพรวมธุรกิจ XO จะเติบโตขึ้นตามทิศทางออเดอร์ที่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และราคาวัตถุดิบที่ปรับลดลงในปีนี้ส่งผลดีต่อบริษัทฯ ประกอบกับหลังโรงงานใหม่แล้วเสร็จ จะสนับสนุนให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตซอสปรุงรส และน้ำจิ้มต่าง ๆ เพิ่มขึ้นจากเดิมอีกเท่าตัว ทำให้สามารถจัดส่งสินค้าได้รวดเร็วกว่าโรงงานเก่า ตอบรับความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ มุ่งหาช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ออกงานแสดงสินค้าเพื่อตอกย้ำแบรนด์ และขยายฐานลูกค้าเพิ่ม เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนยอดขายให้เติบโตขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง" นายจิตติพร กล่าว
สำหรับผลประกอบการงวดปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 945.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 66.86 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.61% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าในกลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มต่าง ๆ โดยมีกำไรสุทธิ 59.03 ล้านบาท ลดลง 23.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการบริหาร จากการย้ายไปยังโรงงานแห่งใหม่ และการลดลงของรายได้อื่น ๆ ได้แก่ รายได้จากการขายสินทรัพย์ และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อีกทั้งรายได้จากผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องดื่มที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากในปี 2559 มีออเดอร์กลุ่มเครื่องดื่มพิเศษเข้ามาค่อนข้างมาก และมียอดขายเป็นสกุลเงิน ยูโร 6.6% สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ 32.7% และสกุลเงินบาท 60.7% เป็นผลจากความพยายามลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยให้ลูกค้าเปลี่ยนยอดขายจากสกุลเงินยูโรเป็นเงินบาทให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.08 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท กำหนดวันที่จ่ายปันผล 18 พฤษภาคม 2561