ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตภายในประเทศของ FSS สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ของบริษัทที่อยู่ในระดับปานกลาง ฐานธุรกิจที่ยังกระจายตัวค่อนข้างจำกัดและยังคงพึ่งพารายได้จากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เป็นหลัก อันดับเครดิตของบริษัทยังได้รับการสนับสนุนจากฐานะด้านเงินทุนและสภาพคล่องของบริษัทที่ดีซึ่งน่าจะทำให้บริษัทสามารถรองรับความเสี่ยงจากการดำเนินงานได้ในระดับหนึ่ง
ฟิทช์คาดว่าความสามารถในการทำกำไรของ FSS จะยังคงอยู่ในระดับเดียวกันกับระดับเฉลี่ยของอุตสาหกรรมในระยะปานกลาง โดยบริษัทสามารถรักษาอัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ได้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับตลาดอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีการแข่งขันในด้านค่าธรรมเนียมอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตามปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ผันผวนอาจเพิ่มแรงกดดันต่ออัตรากำไรของบริษัทได้เนื่องจากบริษัทมีโครงสร้างต้นทุนที่อยู่ในระดับสูง อัตรากำไร (Margin) ที่ไม่มาก และค่าใช้จ่ายลงทุน (Capital expenditure) ที่เพิ่มขึ้นของบริษัท
FSS สามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มลูกค้ารายย่อยซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง บริษัทมีสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ประมาณ 68% ของรายได้รวมซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยสัดส่วนรายได้ของอุตสาหกรรมที่ 55% ทั้งนี้บริษัทมีกลยุทธ์ทางธุรกิจที่จะเพิ่มฐานรายได้ให้มีการกระจายตัวและมีเสถียรภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่ายังคงมีความเสี่ยงในด้านการปฏิบัติตามแผนงานที่บริษัทได้วางไว้ (Execution risks)
ฐานะด้านเงินทุนของบริษัทยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและใกล้เคียงกับบริษัทหลักทรัพย์อื่นในอุตสาหกรรม โดยอัตราส่วนสินทรัพย์ต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 2.3 เท่า ณ สิ้นปี 2560 ดีกว่าอัตราค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 3.9 เท่า และในระยะปานกลาง (Medium term) ฟิทช์เชื่อว่าระดับเงินทุนของบริษัทที่มีในปัจจุบันน่าจะยังสามารถรองรับความเสี่ยงทางธุรกิจได้ในระดับหนึ่ง
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ฟิทช์อาจพิจารณาปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของ FSS ถ้าบริษัทมีความสามารถในการทำกำไรลดลงอย่างมีนัยสำคัญและต่อเนื่อง หรือมีโครงสร้างความเสี่ยงและมีอัตราการเติบโตของสินทรัพย์เสี่ยงที่สูงกว่าบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง
ฟิทช์อาจพิจารณาปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ FSS ถ้าบริษัทมีอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่องตลอดวัฏจักรอุตสาหกรรมพร้อมกับการที่บริษัทยังคงสามารถรักษาโครงสร้างความเสี่ยงและเครือข่ายทางธุรกิจให้มีเสถียรภาพอย่างต่อเนื่อง