JCKH เปิดแผนครึ่งปีหลังลดต้นทุนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มสองแบรนด์ใหม่ "เจิ้นโต้ว-Signor Sassi" อัพกำไร

พฤหัส ๒๓ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๒:๔๔
JCKH กางแผนครึ่งปีหลังใช้สองกลยุทธ์นำทาง มุ่งเน้นบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพดียิ่ง และเพิ่มรายได้จากแบรนด์เดิมที่มี พร้อมเพิ่มสองแบรนด์ใหม่คือ "จิ้นโต้ว" และ "Signor Sassi" "อภิชัย" ชี้เมื่อนำเข้ามารวมเข้าในกลุ่ม JCKH จะทำให้เกิด synergy ดันรายได้และกำไรเพิ่มสูงขึ้น คาดเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/61 มั่นใจดันผลประกอบการตั้งแต่ปี 62 จะเติบโตปีละ10-15%

นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการ บริษัท เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JCKH เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี2561 ว่ายังคงมุ่งเน้นนโยบายการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ควบคู่ไปกับนโยบายการปรับเพิ่มรายได้ ซึ่งแบ่งเป็นสองส่วนส่วนแรกคือรายได้ที่จะเกิดจากร้านอาหารที่เป็นแบรนด์เดิมจะใช้กลยุทธ์การปรับระดับของราคาขายทำให้มีความแตกต่าง และหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละกลุ่มลูกค้า รวมถึงจับกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีกำลังซื้อที่ต้องการสินค้า

ขณะเดียวกันก็ยังเน้นการพัฒนาและยกระดับการให้บริการและปรับปรุงคุณภาพสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้นไปอีก รวมถึงการลงทุนงบโฆษณาและการตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างภาพลักษณ์ของ Brand ให้เข็มแข็งและเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยคัดเลือกเครื่องมือทางการตลาดผ่านทั้ง on line & off line เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

ส่วนที่สองจะมีการลงทุนในร้านภายใต้แบรนด์ใหม่ที่มีศักยภาพ และสไตล์ร้านอาหารที่หลากหลายมากขึ้น เน้นอาหารประเภท A la carte เนื่องจากมีGross Profit Margin ที่ดีกว่า เช่น ร้านอาหารเจิ้นโต้ว สไตล์ภัตตาคารจีน ที่ให้บริการอาหารจีน และติ๋มซำ ที่เน้นรสชาต และคุณภาพดี ในระดับราคาที่สมเหตุสมผล ในระยะแรกจะเน้นให้บริการเฉพาะอาหารประเภทติ๋มซำเป็นหลัก และค่อยเพิ่มไลน์เมนูอาหารมากขึ้นในอนาคต JCKH ได้เริ่มเปิดทดลองไปแล้ว 1 สาขา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาและคัดเลือกทำเลที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อ เพื่อจะขยายสาขาใหม่ ซึ่งคาดว่าในปี 2561-2562น่าจะเปิดได้อีกไม่น้อยกว่า 2-3 สาขา

และอีกร้านคือ Signor Sassi ร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน เป็นแฟรนไชส์ร้านอาหารจากประเทศอังกฤษ เปิดให้บริการในประเทศไทยมานานกว่า 6 ปี ร้านตั้งอยู่ Siam Paragon ชั้น G ซึ่งถือว่าอยู่ในทำเลที่ดี มีกลุ่มลูกค้าและรายได้ที่แน่นอนแล้ว รวมทั้งด้วยชื่อเสียงของ Brand ทำให้มีโอกาสในการขยายสาขาใหม่ได้อีกในอนาคต ปัจจุบัน Signor Sassi มีรายได้จากการขายเกือบ 50 ล้านบาท/ปี และมี EBITA ประมาณ 1.5 ล้านบาท/ปี โดย JCKH ได้ซื้อร้านดังกล่าวมาจากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในราคาที่ไม่แพงประมาณ 5-6 ล้านบาท (ตามมูลค่าบัญชีของทรัพย์สินที่ซื้อมา) ถึงแม้ปัจจุบันกำไรจะไม่มากนัก แต่คาดว่าเมื่อรวมกิจการเข้าในกลุ่ม JCKH จะทำให้เกิด synergy จากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ร่วมกัน จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และผลกำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่า JCKH สามารถเริ่มรับรู้รายได้และกำไรจากร้านนี้ได้อย่างช้าไม่เกินไตรมาส 4/61 และคาดว่าใช้ระยะเวลาคืนทุนได้ภายใน 2 ปี

"ภาพรวมผลประกอบการปีนี้คาดว่ารายได้ปีนี้อยู่ที่ 1,500 ล้านบาท หลังจากปรับโครงสร้างภายใน โดยในปีถัดไปตั้งเป้าหมายการเติบโตอยู่ที่ 10-15%และจากนี้ไปจะเหลือธุรกิจอาหาร 7 แบรนด์ รวมกัน104 สาขา ได้แก่ HotPot 91 สาขา ,Daidomon 7 สาขา ,Signature 2 สาขา ,Toomato1 สาขา , Soupper Pot 1 สาขา , เจิ้นโต้ว 1 สาขา และ Signor Sassi 1 สาขา "

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/61 มีกำไรสุทธิ 1.23 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 101.96 % เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันปีก่อน ที่มีผลขาดทุน 51ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมในไตรมาส 2/61 อยู่ที่ 400.29 ล้านบาทลดลงเล็กน้อย จากงวดเดียวกันที่มีรายได้อยู่ที่ 477.09 ล้านบาท แม้ว่ารายได้รวมจะลดลง แต่จากนโยบายการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่าย รวมถึงการปิดลดสาขาขาดทุน ส่งผลให้ใน ไตรมาส 2/61 เชื่อว่าจะสามารถพลิกฟื้นกลับมามีกำไร ส่งผลให้ครึ่งปีแรกของปีนี้ มีผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น โดยครึ่งปีแรกปีนี้ขาดทุนเหลือ 31.03 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อนขาดทุน 99.13 ล้านบาท ซึ่งมีผลขาดทุนลดลงมากถึง 68 ล้านบาท

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest