ศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เปิดเผยว่า เทคโนโลยีมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และล้าสมัยในอัตราที่สูงแบบหักศอก เป็นแบบ Disruptive Change เทคโนโลยีเหล่านี้เปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต และเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษาก็ไม่ยกเว้น จะเห็นว่าการเรียน ในปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนรูปแบบไปมาก มีการเรียนในลักษณะของการเรียนออนไลน์ เข้ามาแทนที่การเรียนรู้ในสถาบันการศึกษา ทำให้สถาบันการศึกษาในต่างประเทศหลายแห่งปิดตัวลง ถ้าไม่เปลี่ยนก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังจึงเน้นการเรียน การสอนที่เน้นผลลัพธ์ และตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน ด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพ และใช้ศักยภาพของคนหลากหลายด้วย Concept Next Generation Next Idea Next Action
ดังนั้นทั้งภาคการศึกษาและเอกชนต้องร่วมมือกันพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมที่ทันสมัย การร่วมมือกันระหว่างสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังและธนาคารกรุงไทยเป็นการร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญ โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการร่วมกันพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ อีกทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ ด้าน Blockchain, FinTech, Robotics & AI, Healthcare, IoT และ Smart City การร่วมมือในครั้งนี้ เป็นดึงเอาจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายมาผสานกันย่อมเป็นการรวมพลังทำให้เกิดเทคโนโลยีชั้นนำ เพื่อพัฒนาประเทศ ทาง สจล เองมีคณาจารย์และนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ และมีนักศึกษาที่เป็นอนาคตของประเทศที่ต้องเรียนรู้ประสบการณ์ทำงาน ในส่วนของธนาคารกรุงไทยเป็นผู้นำในเทคโนโลยีด้านการเงินที่สามารถนำความความต้องการด้านธุรกิจถ่ายทอดสู่สถาบันการศึกษาเพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษา คณาจารย์ และนักวิจัย ได้มีโอกาสเรียนรู้และพัฒนานวัตกรรมไปด้วยกัน
นายผยง ศรีวณิช เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารกรุงไทยมีพันธกิจ ในการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในทุกมิติ และก้าวสู่ธนาคารแห่งอนาคต (Future Banking) สนองนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาลนั้น การร่วมมือกับ สจล.ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาผู้สร้างสรรนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศในครั้งนี้ จะร่วมกันวิจัยพัฒนานวัตกรรม ผลักดัน NEXT Lab ซึ่งธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนการวิจัยด้านการเงินการธนาคารและด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาต่อยอดการให้บริการทางการเงินผ่าน Krungthai Digital Platform ในอนาคต อาทิ Fintech Blockchain AI และ Machine Learning รวมทั้งร่วมมือกับคณาจารย์และนักศึกษา ในโครงการต่างๆ เช่น ทุนวิจัยด้านนวัตกรรมทางการเงินและการธนาคาร และทุนวิจัยด้านอื่น ๆ เป็นต้น
"ทั้งนี้ นอกเหนือจากการบริการจัดการนวัตกรรมทางการเงินที่ครบวงจรเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรและนักศึกษาอย่างเต็มประสิทธิภาพ ธนาคารกรุงไทยกับ สจล. ยังร่วมพัฒนา KMITL University Application แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงทุกมิติการใช้ชีวิตยุคดิจิทัลในรั้วมหาวิทยาลัย ตั้งแต่การเลือกวิชาเรียน ลงทะเบียนเรียน ดูตารางเรียน ตารางสอบและรายชื่อเพื่อนร่วมชั้นเรียน ติดตามข่าวสารและเข้าร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัย คณะหรือชมรมต่างๆ จองสถานที่และอุปกรณ์ต่างๆ แผนที่มหาวิทยาลัย และค้นหาสถานที่ต่างๆ และคิวรถ e-Transport ระหว่างพื้นที่การศึกษา และยังสามารถใช้แทนบัตรนักศึกษาในการยืนยันตัวตนเพื่อเข้าออกสถานที่ ยืมหนังสือ โดยแสดง Dynamic Offline QR Code ได้ นอกจากนี้ ในอนาคตแอปพลิเคชั่นดังกล่าวยังจะสามารถเชื่อมต่อกับระบบภายนอกมหาวิทยาลัย และหน่วยงานของภาครัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคม กรมแรงงาน กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ อีกด้วย"