กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.80 มองบาทแข็งหลังมีเงินไหลเข้า

จันทร์ ๒๗ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๕:๒๘
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.80 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 32.76 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 2 เดือนหลังข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2/2561 ของไทยสดใสเกินคาดและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งสัญญาณไทยไม่สามารถฝืนทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นของโลก ทั้งนี้ สัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยมูลค่า 5.7 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิสูงถึง 3.56 หมื่นล้านบาท ส่วนเงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่หลังประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าเขาจะวิจารณ์ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยดอลลาร์ในตลาดโลกยังเข้าสู่ช่วงปรับฐาน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองในสหรัฐฯ หลังอดีตที่ปรึกษาสองคนของปธน.ทรัมป์อาจจะต้องโทษจำคุก อย่างไรก็ดี ข้อพิพาททางการค้ายังคงยืดเยื้อหลังการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับกลางของสหรัฐฯ และจีนสิ้นสุดลงอย่างไร้ความคืบหน้า ขณะที่มีการบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้ามูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ของแต่ละฝ่ายอีกรอบ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า สุนทรพจน์ของนายพาวเวลล์ ประธานเฟด ในที่ประชุมธนาคารกลางของโลกที่เมือง Jackson Hole บ่งชี้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปและต่อเนื่องนั้นเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด โดยประเมินว่ามีโอกาสน้อยมากที่เงินเฟ้อสหรัฐฯ จะสูงเกินเป้าหมายของเฟด ท่าทีดังกล่าวเป็นไปตามที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดไว้ ซึ่งลดความกังวลที่ว่าเฟดอาจส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในอัตราเร่ง

ในช่วงเปิดการซื้อขายสัปดาห์นี้ เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 10 สัปดาห์ ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงด้วยแรงหนุนจากกระแสเงินทุนที่มีแนวโน้มไหลเข้ามาพักในตลาดการเงินภูมิภาครวมถึงไทยในระยะนี้

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ธปท.ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย ค่อนข้างชัดเจน หลังเศรษฐกิจเติบโตกระจายตัวมากขึ้น ส่วนข้อมูลส่งออกนำเข้าเดือนกรกฎาคมยังอยู่ในทิศทางสดใส ผู้ว่าการธปท.ระบุว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะพิจารณาจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการปรับขึ้นดอกเบี้ย และมองว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษ หรือดอกเบี้ยที่ระดับต่ำมากมีความจำเป็นน้อยลง แต่ในอนาคต อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้นอย่างช้าๆ และยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม อาทิ การกีดกันทางการค้า และอุปทานของอสังหาริมทรัพย์บางประเภทเกินความต้องการ ทั้งนี้ เราคาดว่ากนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.50% สู่ระดับ 1.75% ในเดือนพฤศจิกายน 2561

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา