ผลกระทบการเลือกตั้งและการเคลื่อนย้ายการลงทุนของกลุ่มทุนไทยต่อเศรษฐกิจไทย

จันทร์ ๑๗ กันยายน ๒๐๑๘ ๑๑:๑๑
ความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งส่งผลบวกต่อภาคการลงทุนและเศรษฐกิจ หากมีการเลือกตั้งภายในเดือน ก.พ. 62 ค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งและกิจกรรมทางการเมืองจะทำให้เงินสะพัดตั้งแต่ไตรมาสสี่ไม่ต่ำกว่า 50,000-65,000 ล้านบาท แต่การไม่เปิดเสรีภาพ (ไม่ปลดล็อกทำเพียงแค่คลายล็อก) ให้พรรคการเมืองและประชาชนจะลดทอนผลบวกและทำให้เกิดความไม่มั่นใจว่าจะมีระบบการเลือกตั้งและการจัดการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรมและเป็นไปตามมาตรฐานสากลหรือไม่ การเลือกตั้งที่เป็นเพียงพิธีกรรมย่อมไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว การทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยกลับคืนสู่ประชาธิปไตยตามเจตนารมณ์ของประชาชนย่อมทำให้กระแสการลงทุนไหลออกของกลุ่มทุนไทยชะลอตัวลง

การคืนอำนาจให้ประชาชนผ่านรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะทำให้เกิดการกระจายอำนาจมากขึ้น การกระจายอำนาจจะเป็นปัจจัยจำเป็นต่อการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งที่ไม่เสรีไม่เป็นธรรมหรือการสืบทอดอำนาจโดยไม่ยึดหลักการประชาธิปไตย (นายกฯคนนอก) ส่งผลในเชิงลบต่อ เศรษฐกิจทั้งในระยะสั้น โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชน และต่อศักยภาพการเจริญเติบโตระยะยาว

14.00 น. 16 ก.ย. 2561 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

ผศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้แสดงความเห็นต่อผลกระทบของการเลือกตั้งต่อเศรษฐกิจ ว่า ความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งส่งผลบวกต่อภาคการลงทุนและเศรษฐกิจ หากมีการเลือกตั้งภายในเดือน ก.พ. 62 ค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งและกิจกรรมทางการเมืองกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะทำให้เงินสะพัดตั้งแต่ไตรมาสสี่ต่อเนื่องไปยังต้นปีหน้าไม่ต่ำกว่า 50,000-65,000 ล้านบาท มีการกระจายตัวของกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆในขอบเขตทั่วประเทศ เม็ดเงินจะกระจายตัวมากกว่าการใช้จ่ายงบประมาณตามปรกติ การกระจายเชิงพื้นที่จะลดการกระจุกตัวของการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน หากการเลือกตั้งเลื่อนออกไปมากเท่าไหร่จากเดือน ก.พ. ไปเดือน พ.ค. ย่อมทำให้ข้าราชการจำนวนหนึ่งเกียร์ว่างและรอดูความชัดเจนว่า พรรคการเมืองใดจะชนะการเลือกตั้ง ใครจะมาเป็นรัฐบาลและบริหารกระทรวงใดบ้าง อาจทำให้งบลงทุนมีการเบิกจ่ายลดลง

แต่การไม่เปิดเสรีภาพ (ไม่ปลดล็อกทำเพียงแค่คลายล็อก) ให้พรรคการเมืองและประชาชนในการทำกิจกรรมทางการเมืองจะลดทอนผลบวกของการเลือกตั้งต่อเศรษฐกิจและหักล้างผลดีที่เกิดขึ้นกับตลาดการเงินรวมทั้งกระแสเงินทุนไหลเข้าของนักลงทุนต่างชาติ

และทำให้เกิดความไม่มั่นใจว่าจะมีระบบการเลือกตั้งและการจัดการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรมและเป็นไปตามมาตรฐานสากลหรือไม่ การเลือกตั้งที่เป็นเพียงพิธีกรรมย่อมไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ ภาคการลงทุนในระยะยาว การทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยกลับคืนสู่ประชาธิปไตยตามเจตนารมณ์ของประชาชน มีเสรีภาพในการทำกิจกรรมทางการเมือง ย่อมทำให้คุณภาพ ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการเลือกตั้งดีขึ้น

ระบบนิติรัฐและความน่าเชื่อถือของรัฐบาลมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาคการลงทุนและการตัดสินใจ ยิ่งเลือกตั้งเร็วเท่าไหร่ และสามารถจัดการเลือกตั้งได้อย่างโปร่งใส เป็นธรรมและน่าเชื่อถือมากเท่าไหร่ จะยิ่งลดความเสี่ยงในการจะเกิดวิกฤตการณ์การเมืองรอบใหม่มากเท่านั้น และเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว

การเลือกตั้งที่โปร่งใสเป็นธรรมเป็นปัจจัยพื้นฐานที่นำมาสู่ระบอบประชาธิปไตยที่มั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยหลังการเลือกตั้งต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและปรับเปลี่ยนระบบและกลไกบางอย่างเพื่อให้ประเทศไทยก้าวข้ามจากระบอบกึ่งประชาธิปไตย สู่ ระบอบประชาธิปไตยโดยฉันทามติของประชาชน เมื่อมีประชาธิปไตยที่ความมั่นคงแล้ว การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของกลุ่มทุนไทย (Outward Direct

Investment) เพื่อลดความเสี่ยงจากปัจจัยการเมืองในประเทศจะลดลง และจะไหลย้อนกลับมาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ส่วนนักลงทุนไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศเพื่อขยายฐานการผลิต สร้างเครือข่ายการค้า ขยายฐานลูกค้า และแสวงหาทรัพยากร วัตถุดิบและเทคโนโลยีจะยังคงเติบโตต่อไป การเติบโตส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายการผ่อนคลายและการเปิดเสรีการออกไปลงทุนในต่างประเทศด้วย อัตราการเติบโตของ Thailand's outward direct investment ในหลายปีที่ผ่านมายังคงสูงกว่าการลงทุนภาคเอกชนในประเทศ

การลงทุนในต่างประเทศของกลุ่มทุนไทยอยู่ที่ 2.921 ล้านล้านบาท เทียบ การลงทุนเอกชนในประเทศอยู่ที่ 2.555 ล้านล้านบาท การลงทุนในประเทศจึงค่อนข้างซบเซาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพิ่งจะกระเตื้องขึ้นบ้างในปีนี้

ผศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม. รังสิต กล่าวว่า การคืนอำนาจให้ประชาชนผ่านรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะทำให้เกิดการกระจายอำนาจมากขึ้น การกระจายอำนาจจะเป็นปัจจัยจำเป็นต่อการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การกระจายตัวของรายได้และผลประโยชน์ทาง

เศรษฐกิจ ระบบการเมืองที่ส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมและมีเสรีภาพจะช่วยลดการผูกขาดในระบบเศรษฐกิจลง สามารถใช้เสรีภาพโดยไม่ถูกปิดกั้นในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศจะเป็นสภาวะ

แวดล้อมที่จะทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมได้ดีกว่า เมื่อพิจารณาผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจมหภาค พบว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งที่ไม่เสรีไม่เป็นธรรมหรือการสืบทอดอำนาจโดยไม่ยึดหลักการประชาธิปไตย (นายกฯคนนอก) ส่งผลในเชิงลบต่อ เศรษฐกิจทั้งในระยะสั้น โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชน และต่อศักยภาพการเจริญเติบโตระยะยาว ความไม่แน่นอนทางการเมืองมีหลายลักษณะและมีนัยสำคัญทางสถิติและขนาดของผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของปัจจัยทางการเมืองต่อพลวัตของเศรษฐกิจไทย เราหวังว่าจะเกิดความแน่นอนทางการเมืองด้วยการจัดการเลือกตั้งให้เสรีและเป็นธรรมรวมทั้งเคารพต่อเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริงด้วยการสนับสนุนให้พรรคการเมืองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯจัดตั้งรัฐบาลและสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช งดออกเสียงในการเลือกนายกรัฐมนตรี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๐ DEK ดิจิทัลมีเดีย SPU บุก Thailand Toy Expo 2024 โชว์ผลงานสุดคูล!
๑๖:๕๘ Zoho ยกระดับแอปพลิเคชันทางธุรกิจ ด้วยการทำงานร่วมกันของ Generative AI และ Low-Code
๑๖:๐๓ Dent Talk : Fresh Up Your Knowledge ไม่รู้.ไม่ได้แล้ววว สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้า
๑๖:๓๕ โรงแรมเชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ต้อนรับนักหมากรุกรวม 300 คน กว่า 50 ประเทศ ในการแข่งขัน Bangkok Chess Club Open ครั้งที่ 21 ประจำปี
๑๖:๓๑ 'Water War Chiang Mai 2024' เทศกาลดนตรีใหญ่ที่สุด เปียกสุด! เดือดสุด! จัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่
๑๖:๒๗ TB Media Global จับมือ MQDC จัดกิจกรรมสงกรานต์ The Vibrant Forestias :Sook-San Songkran บนผืนป่าของ The
๑๖:๔๗ SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต รับรางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมประจำปี 2023
๑๖:๐๐ โรงพยาบาลหัวเฉียว จัดโครงการธรรมโอสถ บรรยายธรรมะเรื่อง สุขในงานเบิกบานในชีวิต
๑๖:๒๙ หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร ต่อยอดความสำเร็จธนาคารน้ำใต้ดิน สร้างความมั่นคงทรัพยากรน้ำ
๑๖:๒๘ คณะดิจิทัลมีเดีย SPU ขอเชิญร่วมกิจกรรมเสวนา หัวข้อ AI Trends Unlock Limitless Creative Potential in Digital