กรุงไทยมองเศรษฐกิจไทยปีนี้โตไม่เกิน 4.5% มั่นใจในเชิงคุณภาพยังขยายตัวดี

พุธ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๘ ๑๔:๑๓
Krungthai Macro Research คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โตไม่เกิน 4.5% ซึ่งเป็นระดับที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ และเป็นในทิศทางเดียวกับ สคช. มั่นใจเศรษฐกิจไทยในเชิงคุณภาพยังขยายตัวดี โดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐและการผลิตภาคอุตสาหกรรม เผยภาคการผลิตของจีนจะอยู่ในภาวะที่ชะลอตัวจนถึงไตรมาส 1 ของปี 2562 เป็นอย่างน้อย และประเมินว่า ธปท.จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี ในเดือน ธ.ค.นี้

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สายงาน Global Business Development and Strategy ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.) รายงานเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ว่าเติบโต 3.3% และคาดว่าทั้งปีจะเติบโตราว 4.2% นั้น ในส่วนของ Krungthai Macro Research เห็นว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตไม่เกิน 4.5% และเป็นไปในทิศทางเดียวกับ สคช. หลังจากตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 3 ต่ำกว่าช่วงครึ่งปีแรกค่อนข้างมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากตัวเลขภาคการเกษตรติดลบ อันเป็นผลจากช่วงครึ่งปีแรกที่ขยายตัวค่อนข้างสูงตามสภาพอากาศเอื้ออำนวย และเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว อย่างไรก็ตาม มองว่าเศรษฐกิจไทยในเชิงคุณภาพยังดีอยู่ โดยการลงทุนภาครัฐและการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังขยายตัวดี และการส่งออกกลับมาขยายตัวได้ดีที่ 8.7% ในเดือนตุลาคม ดังนั้นตัวเลขจีดีพีที่ออกมา จึงไม่ได้สะท้อนว่าเศรษฐกิจชะลอลงอย่างน่าเป็นห่วงแต่อย่างใด

"อย่างไรก็ตาม จะเริ่มเห็นผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ในช่วงไตรมาส 4 ถึงครึ่งแรกของปี 2562 และอยากให้จับตาเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัวลง และค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงด้วย ซึ่งจะทำให้จีนนำเข้าสินค้าลดลง โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาไทยส่งออกไปจีนขยายตัวเพียง 3% เท่านั้น ต่ำกว่าส่งออกไปตลาดเอเชียอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศอาเซียน ที่ขยายตัวได้ถึง 18.7% และ 21.8% คาดการณ์ว่า ภาคการผลิตของจีนจะอยู่ในภาวะที่ชะลอตัวจนถึงไตรมาส 1 ของปี 2562 เป็นอย่างน้อย เพราะมีความเสี่ยงที่สหรัฐฯ จะปรับอัตราภาษีนำเข้าจาก 10% เป็น 25% สำหรับสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของจีน แต่หากว่าไม่มีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มเติมจากที่ได้ประกาศไปแล้ว ภาคการผลิตของจีนจะมีสัญญาณกระเตื้องขึ้นได้ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2562"

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ประเมินต่อไปว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% ต่อปี ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เดือนธันวาคมนี้ เนื่องจากตัวเลขจีดีพีที่ออกมาไม่ได้บ่งบอกว่าเศรษฐกิจได้เริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัว และคาดว่าธปท.ยังคงให้น้ำหนักกับการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน และต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการทำนโยบายในอนาคต ซึ่งสะท้อนจากการลงคะแนนในการประชุมกนง.ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีคณะกรรมการเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มจาก 2 เสียง เป็น 3 เสียง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4