KTAMขาย2กองทุนตราสารหนี้ชู1ปียิลด์1.80%

พุธ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๐๑๘ ๑๓:๕๒
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่าย2กองทุนตราสารหนี้ ซึ่งประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 206 ( KTFF206) อายุโครงการ 12 เดือน และกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 210 ( KTFF210 ) อายุโครงการ 6 เดือน เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2561 เน้นลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ต่างประเทศ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อเป็นการเลือกให้กับนักลงทุนในการเลือกลงทุนตามระยะเวลาที่เหมาะสมกับตนเอง

โดยกองทุน KTFF 206 และ กองทุน KTFF 210 เน้นลงทุนในเงินฝากประจำ Agricultural Bank China , Abu Dhabi Commercial Bank , Al Ahli Bank , บัตรเงินฝาก China Merchants Bank , บัตรเงินฝาก Qatar National Bank และพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ผลตอบแทนของกองทุนKTFF206 ประมาณ 1.80%ต่อปี ส่วนกองทุน KTFF210 ผลตอบแทนประมาณ 1.60%ต่อปี โดยบุคคล ธรรมดาไม่เสียภาษี ณ ที่จ่าย

สำหรับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ มีการปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุตามแรงซื้อของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หลังตัวเลข GDP ของไตรมาส3 ประกาศออกมาอยู่ที่ 3.3% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ในขณะที่อัตราผลตอบของตราสารหนี้ ได้รับข่าวแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ไปแล้ว และความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงจากกระแส Risk off ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา โดยตลาดตอบรัยการประมูลพันธบัตรรุ่นอายคงเหลือ 14 ปี และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุคงเหลือ 2 ปี ค่อนข้างดี ในส่วนของนักลงทุนต่างชาติสัปดาห์ที่ผ่านมา มียอดซื้อสุทธิ จำนวน 11,108 ล้านบาท โดยอัตราผลตอบแทนของตราสรหนี้ อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 5 bps มาอยู่ที่ 1.89% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 6 bps. มาอยู่ที่ 2.29% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 5 bps. มาอยู่ที่ 2.73%

ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรับบาลสหรัฐอเมริกา มีการปรับตัวลดลงเกือบทุกช่วงอายุตามแรงซื้อจากกระแส Risk off เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ที่ถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกหลังราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่ม IT และกลุ่มการเงิน และความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าหลังการประชุม APEC ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 2.81% ต่อปี ไม่เปลี่ยนแปลง อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 3 bps. มาอยู่ที่ 2.87% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 4 bps มาอยู่ที่ 3.04% ต่อปี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4