กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่าตลาดจะติดตามกระแสข่าวประเด็น Brexit หลังเกิดความสับสนมากขึ้นเมื่อนายกรัฐมนตรีเมย์ของ สหราชอาณาจักรตัดสินใจเลื่อนการลงมติข้อตกลงการออกจากสหภาพยุโรปในรัฐสภา ซึ่งเราคาดว่าจะสร้างความผันผวนต่อค่าเงินปอนด์ต่อไป ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ อัตราเงินเฟ้อ และยอดค้าปลีกจะอยู่ในความสนใจเช่นกัน หลังการจ้างงานและค่าจ้างเดือนพฤศจิกายนอ่อนแอกว่าคาด แม้ตลาดคาดว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18-19 ธันวาคม แต่ความไม่แน่นอนสำหรับแนวโน้มระยะถัดไปเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงปลายวัฎจักรและ สหรัฐฯ อาจจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นได้ สอดคล้องกับมุมมองของเราที่ว่าเงินดอลลาร์จะมีทิศทางอ่อนค่าลงในปี 2562
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ธปท.เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยเป็นผลจากความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นของผู้ประกอบการทั้งในภาคการผลิตและภาคที่มิใช่การผลิต ทั้งนี้ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี จุดสนใจของนักลงทุนจะอยู่ที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 19 ธันวาคม ซึ่งเราคาดว่า กนง. จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 1.75% จาก 1.50% โดยเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 ปี เพื่อดูแลความเสี่ยงด้านเสถียรภาพซึ่งอาจเกิดจากการตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นเวลานานเกินไปขณะที่เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยจากระดับต่ำ อย่างไรก็ดี เรายอมรับว่าความเสี่ยงต่อการเติบโตของไทยจากภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงแนวโน้มตลาดการเงินที่ผันผวนสูงขึ้นยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามใกล้ชิดซึ่งสนับสนุนแนวทางการปรับสมดุลนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป