(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 23/01/62)
แนวโน้มวันที่ 24 มกราคม 2562
ความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เพิ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อทีมงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ นำโดยนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ให้ความสนใจในประเด็นเชิงโครงสร้างต่างๆ รวมถึงความไม่สมดุลทางการค้า โดยออกมายืนยันว่า ปธน.ทรัมป์ จะไม่ผ่อนคลายจุดยืนของเขาเพื่อบรรลุข้อตกลง สำหรับประเด็นที่ว่า จีนต้องปฏิรูปเชิงโครงสร้างอย่างแท้จริง ซึ่งรวมถึงวิธีการรับมือกับประเด็นทรัพย์สินทางปัญญา ขณะที่นายแลร์รี คัดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาวกล่าวว่า การบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี, การขโมยทรัพย์สินทางปัญญา และข้อจำกัดการถือครองกรรมสิทธิ์ ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความสำคัญอันดับแรก ทั้งนี้ นักลงทุนจึงจับตาความชัดเจนจากการเจรจาการค้ารอบต่อไป ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 30 – 31 ม.ค. ณ กรุงวอชิงตัน นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการปิดดำเนินการรัฐบาลสหรัฐ (ชัตดาวน์) เพราะหากปัญหาดังกล่าวคลี่ลายลง ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอาจถูกขายทำกำไรออกมา ซึ่งวุฒิสภาสหรัฐมีแนวโน้มมากขึ้นสำหรับการแก้ไขปัญหาปิดดำเนินการรัฐบาลนานนับเดือน โดยนายมิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสังกัดพรรครีพับลิกันวางกรอบงานสำหรับการลงมติในวันพฤหัสบดีนี้ ต่อข้อเสนอของพรรคเดโมแครตในการจัดสรรงบประมาณแก่รัฐบาล 3 สัปดาห์ โดยก่อนหน้านี้ พรรคเดโมแครตยืนกรานว่า การเจรจาเรื่องความมั่นคงพรมแดนจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งเท่านั้น ขณะที่ทองคำได้รับแรงกดดันเพิ่มจากแนวโน้มสกุลเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง เนื่องจากอังกฤษยังคงเผชิญความลำบากในการสรุปข้อตกลงแยกตัวจาก EU (เบร็กซิท) ขณะที่พรรคแรงงาน ซึ่งเป็นฝ่ายค้านของอังกฤษ เดินหน้าสนับสนุนการทำประชามติเบร็กซิทครั้งใหม่ เบื้องต้นประเมินว่า หากราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นอีกครั้งบริเวณแนวต้าน 1,290-1,299 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ ก็จะเกิดแรงขายออกมาเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีการแกว่งตัวในกรอบ ซึ่งกรอบราคาด้านบนประเมินแนวต้านที่บริเวณ 1,290-1,299 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระยะสั้นความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคาอาจคล้ายกลับช่วงที่ผ่านมา จึงแนะนำให้เน้นไปที่การเข้าลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,256 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,265 (18,950บาท) 1,256 (18,800บาท) 1,244 (18,650บาท)
แนวต้าน 1,290 (19,350บาท) 1,299 (19,500บาท) 1,309 (19,650บาท)
GOLD FUTURES (GFG19)
แนวรับ 1,265 (19,100บาท) 1,256 (18,960บาท) 1,244 (18,780บาท)
แนวต้าน 1,290 (19,470บาท) 1,299 (19,610บาท) 1,309 (19,760บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999