ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจและเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน ประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 2562 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.0 ลดลงจากปี 2561 ที่คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.2

ศุกร์ ๐๑ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๙ ๑๔:๕๓
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจ และเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสินคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2562 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.0 ลดลงจากปี 2561 ที่คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.2 เป็นผลจากการลงทุนและมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งนี้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2562 มีปัจจัยสนับสนุนจาก (1) เม็ดเงินจากมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐวงเงิน 38,730 ล้านบาท ที่เริ่มทยอยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในเดือน ธ.ค. 61 ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายประชาชนฐานราก (2) การลงทุนภาครัฐที่คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากการเบิกจ่ายงบลงทุนตามงบประมาณประจำปี 2562 (3) โครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษ

ภาคตะวันออก (EEC) ที่หลายโครงการมีความคืบหน้าได้รับการอนุมัติการลงทุนแล้วและคาดว่าจะเร่งก่อสร้างในปี 2562 (4) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงขยายตัวได้เนื่องจากประเทศไทยยังเป็นเป้าหมายการพักผ่อนของนักท่องเที่ยวทั่วโลก (5) ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อต้นทุนภาคการผลิตและการขนส่งชดเชยต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มสูงขึ้น สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ได้แก่ (1) การส่งออกสินค้าอาจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า (2) การเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐอาจต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่มีความซับซ้อนด้านกระบวนการ (3) การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในรอบ 7 ปี ของธนาคารแห่งประเทศไทย ในระยะแรกจะส่งผลให้คุณภาพสินเชื่อและการบริโภคของประชาชนชะลอตัว (4) การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐอย่างต่อเนื่องและแรงส่งจากมาตรการปรับลดภาษีรายได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจะมีกำลังอ่อนลงส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ (5) การดำเนินนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลให้ตลาดการเงินมีความผันผวนมากยิ่งขึ้นและอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเงินของไทย

ด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี จากดุลบัญชีเดินสะพัดยังคงเกินดุล ซึ่งเป็นผลจากการเกินดุลการค้าและบริการ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัวจากแรงกดดันของราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มลดลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับเพิ่มอย่างช้าๆ ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามยังคงมีแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ประกอบกับธนาคารแห่งประเทศไทยลดระดับดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายลงเล็กน้อย รวมถึงการออกมาตรการ Macro Prudential เพื่อจำกัดความเสี่ยงเฉพาะจุด เช่น (1) มาตรการกำกับในภาคอสังหาริมทรัพย์ (2) มาตรการสินเชื่ออุปโภคบริโภค ทั้งบัตรเครดิตและจำนำทะเบียนรถ (3) การกำกับดูแลสหกรณ์ที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงิน และเป็นผลดีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4