นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2562 คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่ารายได้จะเติบโต 15-20% จากพื้นฐานของกลุ่มธุรกิจในประเทศที่แข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างมีนัยถึงประมาณ 8% ในปีที่แล้ว แม้สภาพตลาดไม่สดใสเท่าปี 2562 นี้ก็ตาม ซึ่งคาดว่าสภาพตลาดในปีนี้น่าจะสดใสกว่าปี 2561 จาก ผลเชิงบวกของสภาวะการเมือง และเศรษฐกิจ นอกจากนั้นพร้อมกลับเข้าไปทำตลาดเครื่องดื่มแบรนด์ "Zenya" ในกัมพูชาอีกครั้งในไตรมาสที่ 1 หลังจากหยุดทำการส่งออกไปตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ทำให้ในปี 2561 ไม่มีรายได้จาก ส่วนนี้เลย
"รายได้หลักของเรายังคงมาจากการวางจำหน่ายสินค้าในเซเว่น อีเลฟเว่น ทั้งในส่วนของเครื่องดื่มเย็นใน โถกด เครื่องดื่มชงสดในมุม All Cafe ในร้าน 7-Eleven ซึ่งในปีนี้เราจะรับรู้รายได้จากการขายเครื่องดื่มช็อกโกแลต Hershey's ที่วางจำหน่ายเต็มปีเฉพาะสาขา หลังจากได้รับการตอบรับที่ดีในปีที่ผ่านมาในฐานะเครื่องดื่ม เฉพาะกาล และในปีนี้คาดว่าจะมีสินค้าตัวใหม่ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำเข้ามาเพิ่มเติม" ส่วนสินค้าในกลุ่มเบเกอรี่ที่วางจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ปัจจุบันมีสินค้าอยู่ 2 ประเภท คือ Twist Donut และ Donut POP ซึ่งจะมีหลากหลายรสชาติใหม่ ๆ เข้ามาต่อเนื่อง
ขณะที่ธุรกิจคาแรคเตอร์กลุ่ม Rilakkuma ที่บริษัทฯได้รับสิทธิการเป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์ระยะเวลา 5 ปี ครอบคลุม 7 ประเทศ ในปีที่ผ่านมามีการเติบโตได้ดีกว่าที่คาดการณ์ จำนวนลูกค้า (Licensee) เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว รวมทั้งได้รับการตอบรับจากแบรนด์และบริษัทชั้นนำเป็นอย่างดี อาทิ 7-Eleven เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ นีเวียครีม กลุ่มสินค้าเครื่องเขียน SUMIKO ดัชมิลล์ และเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส เป็นต้น "ในปีนี้คาดว่าจะมีโอกาสได้เห็นคาแรคเตอร์สไตล์ตัวใหม่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาตัดสินใจคัดเลือก"นายชัชชวีกล่าว
ประธานกรรมการบริหาร TACC กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทฯเตรียมกลับเข้าไปจำหน่ายสินค้าเครื่องดื่มในประเทศกัมพูชา หลังจากหยุดขายสินค้าตรา "Zenya" ชั่วคราวในปีที่แล้ว ซึ่งล่าสุดมี Distributor รายใหม่ที่แข็งแกร่ง เข้ามาเป็นตัวแทนกระจายสินค้าเรียบร้อยแล้ว มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันรายได้ทั้งในและต่างประเทศ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทฯมีรายได้รวม 1,295 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 71.30 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2561 (มกราคม-ธันวาคม 2561) ในอัตรา 0.09 บาท/หุ้น