"รายได้และกำไรปี 2561 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจากการที่เราสามารถขายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าได้เป็นไปตามกำหนด และในปีนี้ มีโอกาสที่รายได้และกำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปีที่แล้วเข้ามาเต็มปี และจากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าที่จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้"
ในส่วนของทิศทางผลประกอบการปี 2562 เราจะมีการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าที่ COD ปีที่แล้วเต็มปี รวมทั้งมีโรงไฟฟ้าที่จะทยอย COD เพิ่มอีกประมาณ 66 เมกะวัตต์ ประกอบไปด้วยโครงการโซลาฟาร์มที่มองโกเลียประมาณ 16 เมกะวัตต์ (ไตรมาส 1/62) และโครงการที่เวียดนามราว 50 เมกะวัตต์ (มิถุนายน 2562) ส่งผลให้ในปี 62 เราจะมีโครงการที่ COD เพิ่มเป็น 157 เมกะวัตต์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวอีกว่า เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน บริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาการเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม และโครงการโซลาฟาร์มในต่างประเทศเพิ่มเติมที่บริษัทได้เข้าลงทุนไปแล้วอย่างประเทศเวียดนาม ญี่ปุ่น และมองโกเลีย โดยเน้นเฉพาะโครงการที่มีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ที่เหมาะสมเช่นเดิม ดังที่เราได้ทำมาตลอด โดยเราตั้งเป้าผลักดันให้รายได้ กำไร และเงินปันผลในแต่ละปีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.217 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พฤษภาคมและกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 27 พฤษภาคม 2562