ศ.ดร. พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงามด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ผ่านนวัตกรรมภูมิคุ้มกันสมดุลบำบัด ซึ่งผ่านการวิจัยและพัฒนามาแล้วว่าสามารถดูแลผู้ป่วยให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
ทั้งนี้ บริษัทร่วมมือกับบริษัท กวางดงโอเรียนทัล ดราก้อน สปอร์ตแอนด์คัลเจอร์ อินดัสทรี จำกัด ซึ่งเป็นพันธมิตรประเทศจีน นำนวัตกรรมสำหรับผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS และมะเร็ง เข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วย โดยเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้าไปศึกษากลุ่มเป้าหมายและมีการทดสอบผลิตภัณฑ์ HIV/AIDS แล้ว คาดว่าจะเห็นผลการทดสอบภายในเดือนพฤษภาคมนี้ สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมทำการทดสอบในโรงพยาบาลประเทศจีน ซึ่งหากผลการทดสอบทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์เป็นที่น่าพอใจ คาดว่าจะมีการทำสัญญาสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายอย่างแพร่หลายในประเทศจีนในลำดับต่อไป
ขณะที่การขยายฐานลูกค้าในประเทศ บริษัทมุ่งเน้นการให้ข้อมูลความรู้ ให้เข้าถึงตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ ผ่านช่องทาง Social Media ในเพจ LEARN e HIV ให้ข้อมูลสำหรับการดูแลผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS เพจคนไม่แพ้ แนะนำวิธีดูแลตัวเองป้องกันการติดเชื้อต่างๆ ซึ่งมีผู้ที่ให้ความสนใจสอบถามข้อมูล และมีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะส่งผลให้ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในประเทศเพิ่มขึ้น ผ่านช่องทาง Social Media Call Center 1154 และ BIM Health Center 5 สาขาทั่วประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเปิดโครงการ CLEAR HIV/AIDS กับ APCO Life Fitness Challenge ในการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ HIV ซึ่งต้องเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ที่ไม่เคยรับยาต้านมาก่อน เพื่อทดสอบว่านวัตกรรม APCO สามารถทำให้เชื้อหมดไปจากร่างกาย หรือทำให้เชื้ออยู่ในภาวะสงบไม่เพิ่มกลับมาใหม่ (Function Cure) โดยไม่ต้องใช้คู่กับยาต้านไวรัส ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายและดูแลการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์
"ในปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ป่วยมะเร็งและเอดส์ มียอดจำหน่ายมากที่สุดและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในประเทศไทยยังมีผู้ป่วยอีกเป็นจำนวนมาก ที่ต้องการความช่วยเหลือ และอาจไม่มีกำลังมากพอที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการรักษา บริษัทจึงมุ่งเน้นการให้ข้อมูลความรู้ และนำผลการใช้ของผู้บริโภคมาเผยแพร่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้มากยิ่งขึ้น และเชื่อว่าจากแผนการขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคจะส่งผลให้บริษัทมีการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 5-10 % และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 80%" ศ.ดร. พิเชษฐ์ กล่าว