นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL ผู้นำการให้บริการโครงข่ายใยแก้วนำแสง ให้บริการติดตั้งโครงข่ายและให้บริการพื้นที่ศูนย์สำรองข้อมูลหรือดาต้า เซ็นเตอร์ (Data Center) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/62 บริษัทฯ สามารถผลักดันการเติบโตที่ดีทั้งในแง่ของกำไรสุทธิและรายได้ โดยกำไรสุทธิทำได้ 39 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 31 ล้านบาท หรือขยายตัว 25 % เติบโตตามเป้าที่บริษัทฯ ตั้งไว้
ขณะที่รายได้ในไตรมาสที่ 1 บริษัทฯ สามารถทำได้ 453 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 87 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 366 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากที่ บริษัทฯสามารถผลักดันยอดขายจากลูกค้าที่เข้ามาใช้งานบริการโครงข่ายได้เพิ่มมากขึ้น และสามารถรักษาฐานลูกค้าในปีก่อนไว้ได้ อันเนื่องมาจากประสิทธิภาพของโครงข่ายและเสถียรภาพของการให้บริการที่เหนือกว่าคู่แข่งขันรายอื่นในตลาด อีกทั้งยังรับรู้รายได้จากงานโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการที่ติดตั้งให้แก่ลูกค้าเพิ่มขึ้น เช่น งานโครงการอินเทอร์เน็ตพื้นที่ห่างไกล (USO Phase 2) โครงการงานจ้างระบบสื่อสาร DMS งานดูแลโครงข่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นต้น ซึ่งช่วยสนับสนุนการเติบโตให้แก่บริษัทฯได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ
นอกจากนี้ บริษัทฯยังสามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยในไตรมาส 1/62 นั้น มีทิศทางของอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น อยู่ที่ 24% จึงมีผลให้กำไรสุทธิจากการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตได้ดี
ส่วนแนวโน้มของบริษัทฯในปีนี้ ประเมินว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมบริการให้คำปรึกษา ออกแบบและดำเนินการติดตั้งโครงข่ายที่เกี่ยวข้องกับระบบสื่อสารความเร็วสูงแบบครบวงจร ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้องค์กรทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนต้องลงทุนพัฒนาระบบไอทีให้มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับขีดความสามารถในการแข่งขันและการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น นายณัฐนัยกล่าวอีกว่า "เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจ และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยในช่วงครึ่งปีหลัง ITEL เตรียมบุกตลาดโทรคมนาคม ซึ่งมั่นใจว่าจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้และกำไรในอนาคต เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืน เนื่องจากมีฐานลูกค้าจำนวนมาก และมั่นใจว่า แนวโน้มรายได้และกำไรจะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ด้วยปัจจัยดังกล่าวจึงส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้น จากงานโครงการที่เริ่มทยอยออกมาประมูลอย่างต่อเนื่อง และเป็นโอกาสที่ ITEL จะนำความเชี่ยวชาญและจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจเข้าร่วมงานประมูลเพื่อเพิ่มมูลค่างานในมือ (Backlog) ให้มากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ มีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ตุนไว้ประมาณ 5.5 พันล้านบาท โดยมีงานโครงการอินเทอร์เน็ตพื้นที่ชายขอบ (USO Phase 1) และโครงการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกล (USO Phase 2) รวมอยู่ใน Backlog นี้ด้วย ซึ่ง USO Phase 2 มีมูลค่าโครงการอยู่ที่ 3,211 ล้านบาท โครงการงานจ้างระบบสื่อสาร DMS กับการไฟฟ้านครหลวง 168 ล้านบาท เป็นต้น โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้บางส่วน ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของปีนี้จะเติบโตตามแผน คาดรายได้ปีนี้เติบโตสูงกว่า 30-40%
"ผลงานในไตรมาส1/62 เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่า จากนี้ไปอีก 3 ปี มองว่าจะเป็นก้าวที่ดีของ ITEL ด้วยมูลค่างานในมือที่เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูง และจะทยอยรับรู้เป็นรายได้เข้ามาตามความสำเร็จของงาน โดยจะเห็นสัญญาณที่ดีตั้งแต่ไตรมาส 1/62 นี้ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และแผนการเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่องอีก รองรับภาพรวมงานโครงการทั้งแนวราบและแนวสูงขยายตัว ซึ่งยังไม่นับรวมงานโครงการใหม่ๆ ที่จะทยอยเข้ามาทำให้เราเชื่อว่าเป้าหมายรายได้ที่ 2,000 ล้านบาท และเห็นการเติบโตชัดเจนขึ้นมาตั้งแต่ปี 2561 จึงเป็นโอกาสของ ITEL ได้รับงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้าอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรมและได้รับความเชื่อมั่นให้ดูแลงานโครงการขนาดใหญ่มาแล้วจำนวนมาก" นายณัฐนัย กล่าว