นายบุญชัย สุวรรณวุฒิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมครบวงจร รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 71% ของกำไรสุทธิ โดยพิจารณาจากกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทฯ โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record date) วันที่ 23 สิงหาคม 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 กันยายน 2562 นี้
ด้านผลดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำไตรมาส 2/2562 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 221.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.72 ล้านบาท หรือ 1.24% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 219.07 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้น 55.06 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 62.53 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 24.83% และ 28.54% ตามลำดับ เนื่องมาจากภาวะการแข่งขันและการขายสินค้ากลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมีจำนวน 55.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.64 ล้านบาท หรือ 11.39% โดยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นหลัก มาจากการบันทึกค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงาน จากการเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 1.73 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 461.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.29 ล้านบาท หรือ 0.94% เมื่อเทียบกับ 6 เดือนแรกของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 457.47 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 จำนวน 14.25 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 3.05% เมื่อเทียบกับ 6 เดือนแรกของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 24.55 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 5.32%
โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจในกลุ่มสินค้าและบริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม (SAFETY) ซึ่งเป็นรายได้กลุ่มหลักมีสัดส่วนรายได้ที่ 79.42% มีรายได้อยู่ที่ 366.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.38 ล้านบาท หรือ 3.79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทมีรายได้จากกลุ่มลูกค้าหน่วยงานราชการและกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม รายได้จากกลุ่มลูกค้าเดิมบางอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มปิโตรเคมี ลดลงจากภาวะการแข่งขันและการลดงบประมาณการสั่งซื้อ ด้านรายได้จากการขายในกลุ่มสินค้าเพื่อการควบคุมสภาพแวดล้อม (CE) มีจำนวน 81.92 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 17.74% ใกล้เคียงกันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านรายได้จากกลุ่มสินค้าและบริการด้านระบบบำบัดน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค (WATER) มีจำนวน 13.11 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 2.84% โดยมีรายได้จากการขายสินค้าและให้บริการติดตั้งโครงการระบบน้ำในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น
สำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลัง ธุรกิจหลักด้านการจัดหน่ายสินค้าและให้บริการในกลุ่มสินค้า SAFETY และ CE ยังมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังมีทิศทางขยายตัวและติดตามประมูลงานขายในกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน ทางด้านกลุ่มสินค้า WATER เน้นการติดตามงานโครงการด้านระบบน้ำในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่ได้มีการนำเสนอลูกค้าแล้วและงานบริการหลังการขาย รวมถึงเตรียมการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ในแต่ละกลุ่มธุรกิจเพื่อรองรับแผนดำเนินงานในอนาคต โดยภาพรวมการดำเนินงานในปี 2562 คาดว่าจะยังเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้