ฟิทช์ประกาศให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินแก่บริษัทไทยรับประกันภัยต่อที่ 'A-’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

พฤหัส ๒๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๙ ๑๕:๔๙
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (Insurer Financial Strength: IFS) แก่บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) หรือ THRE ที่ 'A-' (หรืออยู่ในระดับ "แข็งแกร่ง") แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ THRE สะท้อนถึงโครงสร้างธุรกิจประกันภัยที่แข็งแรง (Favorable Business Profile) ระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง ระดับความเสี่ยงทางด้านการลงทุนและสภาพคล่องที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวรองรับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนในด้านผลประกอบการของบริษัท

ฟิทช์ประเมินโครงสร้างธุรกิจของ THRE อยู่ในระดับแข็งแรงเมื่อเทียบกับบริษัทประกันภัยอื่นภายในประเทศไทยและจัดให้อยู่ในระดับ 'a-' ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาปัจจัยเครดิตของฟิทช์ (credit factor scoring guideline) ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทในปี 2561 เติบโตขึ้นมาเป็นเกือบ 40% ของเบี้ยประกันภัยต่อภายในประเทศ ประกอบกับบริษัทยังมีชื่อเสียงในด้านการให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย เช่น บริการด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย ในส่วนของความเสี่ยงทางธุรกิจของบริษัทนั้นอยู่ในเกณฑ์ปานกลางเนื่องจากรายได้ที่ค่อนข้างผันผวน แต่ความเสี่ยงดังกล่าวถูกบรรเทาลงบางส่วนจากการกระจายตัวของประเภทผลิตภัณฑ์และช่องทางการให้บริการภายในประเทศที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี

ฟิทช์มีความเห็นว่า THRE มีเงินกองทุนอยู่ในระดับที่แข็งแรง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนโครงสร้างเครดิต (credit profile) โดยรวมของบริษัท ซึ่งเงินทุนของบริษัทดังกล่าวอยู่ในระดับที่แข็งแรงเมื่อเทียบกับบริษัทประกันภัยอื่นที่มีอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลที่ระดับ 'A' ระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามระดับความเสี่ยง (Risk-based capital ratio) ของ THRE อยู่ในระดับเกิน 300% และสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 140% แม้ว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบจากผลขาดทุนจากการดำเนินงานในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สำหรับระดับเงินกองทุนของบริษัทประเมินจากแบบจำลอง Prism Factor-Based Capital Model (Prism FBM) ของฟิทช์อยู่ในระดับ "แข็งแกร่งมาก" ('Very Strong') โดยใช้ข้อมูลทางการเงิน ณ สิ้นปี 2561 และปรับเพิ่มเป็นระดับ "แข็งแกร่งมากที่สุด" ('Extremely Strong') ณ สิ้นสุดครึ่งปีแรกของปี 2562 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากรายได้ที่ฟื้นตัว เงินลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีคุณภาพดี การกระจายตัวของความเสี่ยงของหนี้สินประกันภัยต่อที่ดีขึ้น และการเข้าทำประกันภัยต่อช่วงที่มีมูลค่าเพียงพอต่อระดับความเสี่ยงของบริษัท

ปัจจัยหลักที่มีผลจำกัดอันดับเครดิตของบริษัทคือผลการดำเนินงานที่มีความผันผวน โดยอัตราส่วนรวมค่าสินไหมทดแทนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Combined Ratio) ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 114% ในปี 2561 (2559: 92%) ซึ่งอัตราส่วนดังกล่าวปรับตัวดีขึ้นเป็น 107% ณ สิ้นสุดครึ่งปีแรกของปี 2562 เนื่องจากค่าสินไหมทดแทนของธุรกิจประเภทร่วมพัฒนาระยะยาว (Long-Term Non-Conventional Business) ที่ลดลงเป็นหลัก อัตราส่วนรวมค่าสินไหมทดแทนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเฉลี่ยระหว่างปี 2559-2561 ของบริษัทที่ 104% นั้นอยู่ในช่วงเกณฑ์ของบริษัทที่มีอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลที่ระดับ 'BBB' ในขณะที่รายได้อื่นที่นอกเหนือจากธุรกิจประกันภัยก็ยังมีความไม่แน่นอน ทั้งนี้ THRE คาดว่าความสามารถในการทำกำไรน่าจะปรับตัวดีขึ้นได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้าจากการทยอยครบกำหนดของธุรกิจระยะยาวที่ยังมีผลขาดทุน

ฟิทช์คาดว่า THRE จะสามารถรักษาระดับความเสี่ยงด้านการลงทุนให้อยู่ในระดับที่จัดการได้อย่างต่อเนื่องแม้ว่าบริษัทจะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยอัตราผลตอบแทนของการลงทุนในช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ บริษัทจัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์ประเภทตราสารทุนและหน่วยลงทุนที่ประมาณ 50% ของสินทรัพย์ลงทุนรวม ในขณะที่ลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้ที่มีคุณภาพที่ดีในสัดส่วนที่มากกว่า 20% ณ สิ้นสุดครึ่งปีแรกของปี 2562 บริษัทยังคงมีสภาพคล่องอยู่ในระดับที่แข็งแรง โดยมีอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อหนี้สินจากสัญญาประกันภัยอยู่ในระดับที่สูงกว่า 200% ณ สิ้นสุดครึ่งปีแรกของปี 2562

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

- ปัจจัยที่อาจส่งผลให้ปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินได้แก่

- การปรับตัวลดลงของความสามารถในการทำกำไรซึ่งสะท้อนจากอัตราส่วนรวมค่าสินไหมทดแทนและค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน (Combined Ratio) ที่สูงกว่า 103% เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง หรือ

- การปรับตัวลดลงของระดับเงินกองทุนที่วัดจากอัตราส่วนเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามระดับความเสี่ยง (RBC) มาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 280% และการปรับตัวลดลงของระดับเงินกองทุนของบริษัทซึ่งวัดจากแบบจำลอง Prism FBM มาอยู่ต่ำกว่าระดับบนของกลุ่ม "แข็งแกร่ง" ('Strong') เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง

- ปัจจัยที่อาจส่งผลให้ปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินได้แก่

- การปรับตัวเพิ่มขึ้นของความสามารถในการทำกำไรซึ่งสะท้อนจากอัตราส่วนรวมค่าสินไหมทดแทนและค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน (Combined Ratio) ที่ต่ำกว่า 96% ในขณะที่สามารถรักษาอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (Return on equity) ในระดับสูงกว่า 10% เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง และ

- การปรับตัวเพิ่มขึ้นของระดับเงินกองทุนซึ่งวัดจากแบบจำลอง Prism FBM ของฟิทช์และสามารถคงอยู่ในระดับบนของกลุ่ม "แข็งแกร่งมากที่สุด" ('Extremely Strong') ได้อย่างต่อเนื่อง

การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) หากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนนี้ แสดงว่าบริษัทมีระดับคะแนนความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต ไม่เกินระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของบริษัท ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของบริษัทก็ตาม

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ ESG หาได้จาก https://www.fitchratings.com/esg

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๘ มี.ค. องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๒๘ มี.ค. การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๒๘ มี.ค. DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๒๘ มี.ค. JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๒๘ มี.ค. นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๒๘ มี.ค. Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๒๘ มี.ค. โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๒๘ มี.ค. STEAM Creative Math Competition
๒๘ มี.ค. A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๒๘ มี.ค. ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้