กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่าตลาดจะยังให้ความสนใจกับทิศทางการขยายตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยนักลงทุนส่วนหนึ่งเริ่มมองไปถึงการเจรจารอบใหม่ของทั้งสองประเทศมหาอำนาจ และคาดว่าจะมีการลงนามข้อตกลงเฟสแรก ในเดือน ม.ค. 2563 นอกจากนี้ตลาดยังรอดูความคืบหน้าเกี่ยวกับ Brexit หลังนายกรัฐมนตรีจอห์นสันเปิดโอกาสให้สหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) แบบไม่มีข้อตกลง (No-deal Brexit) โดยสหราชอาณาจักรกำหนดเส้นตายไว้แบบไม่ยืดหยุ่นในเดือนธ.ค. 2563 สำหรับการบรรลุข้อตกลงการค้าใหม่กับอียู
ส่วนปัจจัยในประเทศ ตัวเลขส่งออกและนำเข้าเดือนพ.ย หดตัว 7.39% และ 13.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ แต่ผลกระทบต่อเงินบาทเป็นไปอย่างจำกัด ทั้งนี้ ทิศทางตลาดมีแนวโน้มแกว่งในกรอบแคบก่อนวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว กนง.มีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย โดยเห็นว่าการปรับลดดอกเบี้ยมาแล้ว 2 ครั้งในปีนี้จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ และมองแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังต่ำกว่าศักยภาพท่ามกลางการส่งออกที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด นอกจากนี้ ทางการแสดงความกังวลต่อเงินบาทที่ยังแข็งค่าและจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ทางการได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของจีดีพี ปี 2562 มาที่ 2.5% จากเดิมคาดไว้ที่ 2.8% และปรับลดคาดการณ์การส่งออกเป็นหดตัว 3.3% จากเดิมคาดว่าจะลดลง 1% ส่วนในปี 2563 ธปท.ลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเป็น 2.8% โดยคาดว่ายอดส่งออกจะฟื้นตัวเพียง 0.5% ทั้งนี้ เรามองว่า กนง.จะคงดอกเบี้ยในระดับเดิมต่อไป ในขณะที่ทางการจับตาการขยายของเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจมีผลต่อแนวโน้มการขยายของเศรษฐกิจไทยในปี 2563