บล.ไอร่า แนะกลยุทธ์เดือนกุมภาพันธ์ ทยอยสะสมหุ้นปันผลเด่นผลตอบแทนสูงกว่า 5%

พฤหัส ๐๖ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ ๑๕:๑๒
บล.ไอร่า ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยเดือนก.พ. มีแนวโน้มฟื้นตัว หลังดัชนีร่วงต่ำ 1,500 จุด มีระดับ P/E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 18 เท่า บวกเข้าฤดูการประกาศจ่ายปันผล ส่งผลให้เกิดแรงเก็งกำไรหุ้นปันผล โดยเฉพาะหุ้นที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาแรง มีผลตอบแทนสูงกว่า 5% และให้แนวรับ 1,485 จุด แนวต้าน 1,566 จุด พร้อมจัดพอร์ตหุ้นน่าลงทุน 3 กลุ่มเด่น ชูกลุ่ม Dividend – รับเหมาก่อสร้าง - Health Care Play
บล.ไอร่า แนะกลยุทธ์เดือนกุมภาพันธ์ ทยอยสะสมหุ้นปันผลเด่นผลตอบแทนสูงกว่า 5%

ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ว่า ดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว หลังจากดัชนีปรับตัวหลุด 1,500 จุด จากปัจจัยบวกกระแสเงินทุนส่วนเกิน ทั้งจาก FED และ ECB ที่ยังคงส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายทางการเงินต่อเนื่อง รวมทั้งการประกาศผลประกอบการในไตรมาส 4/2562 ของหุ้นในกลุ่ม Real Sector ที่ทยอยออกมาจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ และเป็นเข้าสู่ฤดูกาลการจ่ายเงินปันผล ซึ่งคาดว่ามีโอกาสเห็นแรงเก็งกำไร และซื้อคืนหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมาแรงก่อนหน้าจนทำให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ในระดับที่น่าสนใจ จึงประเมินการเคลื่อนไหวของดัชนีโดยให้แนวรับแรก 1,500 จุด และแนวรับถัดไป 1,485 จุด ส่วนแนวต้านแรกที่ 1,543 และ แนวต้านถัดไป 1,566 จุด

" ในเดือนมกราคมที่ผ่านตลาดหุ้นไทยตื่นตระหนกกับปัจจัยลบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา และประเด็นในประเทศจากการเบิกจ่ายงบประมาณที่ต้องล่าช้าออกไป ซึ่งกดดันตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่ำกว่า 1,500 จุด ซึ่งถือเป็นระดับใกล้เคียงค่าเฉลี่ยของ P/E ย้อนหลัง 5 ปี ที่ 18 เท่า"

ส่วนประเด็นที่ยังคงต้องจับตาในเดือนนี้ อาทิ ประชุม กนง. ซึ่งมีความเป็นไปได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อย 0.25%, การประมูลคลื่น 5G, สถานการณ์การเมืองในประเทศ อาจส่งผลต่อการลงทุนและสร้างความผันผวนให้กับภาพรวมตลาดฯ ไทย และแนวโน้มราคาน้ำมัน มีโอกาสปรับขึ้นหากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันขยายระยะเวลาการลดการผลิตออกไปจากเดิมครบกำหนด มี.ค. 63

ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์ลงทุนโดยเน้นหุ้นกลุ่ม Dividend Play เช่น JASIF, TOP, ORI, SPALI, SCB, AP และ BTS ที่ราคาปรับตัวลงมาแรงแล้วอัตราการจ่ายเงินปันผลอยู่ในระดับสูงกว่า 5% คาดว่าจะมีแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มดังกล่าวก่อนการประกาศจ่ายเงินปันผลในช่วงเดือน มี.ค. – เม.ย. 63

รองลงมาหุ้นรับเหมาก่อสร้าง เช่น CK, STEC, UNIQ และ SEAFCO เพราะมองราคาหุ้นปรับตัวลงรับรู้ข่าวร้ายไปค่อนข้างมากแล้ว ขณะที่คาดการณ์งานโครงการใหม่ๆ จากภาครัฐที่จะเริ่มเข้าในช่วงครึ่งหลังของปี'63 จะหนุนราคาหุ้นรับเหมาก่อสร้างฟื้นตัวขึ้นได้ และสุดท้ายกลุ่ม Health Care Play เช่น BCH, CHG และ RJH ในฐานะ Defensive Stock จากรายได้ที่สม่ำเสมอ พร้อมประเด็นบวกจากการปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวประกันสังคม หนุนผลประกอบการปีนี้เติบโตโดนเด่น และทยอยสะสมหุ้นที่มีความน่าสนใจเฉพาะตัว ได้แก่ AOT, CBG, GPSC, SINGER, THG และ UNIQ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๐๔ กลุ่ม KTIS จับมือ Marubeni ประสานความร่วมมือในการขายเครดิตพลังงานหมุนเวียน (REC)
๑๔:๒๐ ผู้ถือหุ้น TIDLOR อนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้น-เงินสด อัตรา 27 หุ้นสามัญ : 1 หุ้นปันผล พร้อมจ่ายเงินสด 0.2698 บ./หุ้น เตรียมขึ้น XD วันที่ 24 เม.ย. 67 รับทรัพย์ 14
๑๔:๔๙ สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว โครงการพัฒนาระบบแบ่งปันฐานข้อมูลการฉ้อฉลประกันภัย
๑๔:๑๐ สสวท. เติมความรู้คู่กีฬากับ เคมีในสระว่ายน้ำ
๑๓:๐๓ ฉุดไม่อยู่! ซีรีส์ Kiseki ฤดูปาฏิหาริย์ กระแสแรง ขึ้น TOP3 บน Viu ตอกย้ำความฮอต
๑๔:๒๔ TM บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุพระราม 9
๑๔:๑๒ ผถห. JR อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น พร้อมโชว์ Backlog แน่น 9,243 ลบ.
๑๔:๕๐ กรุงศรี ร่วมมือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ในโลกธุรกิจ
๑๔:๓๔ ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 10,524 ล้านบาท
๑๔:๑๔ กรุงศรี ร่วมมือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ในโลกธุรกิจ